แขกพิเศษ!! ปูตินโชว์แสนยานุภาพทางทะเล รับมอบเรือรบใหม่ ๓๐ ลำ ผู้นำอาฟริการ่วมฉลอง ลงนามมั่นคง ๔๐ ปท.

0

รัสเซียสร้างแสนยานุภาพกองทัพเรืออย่างไม่ลดละ โดยจะได้รับเรือประจัญบานหลายชั้นจำนวน ๓๐ ลำในปีนี้เพียงปีเดียว ปธน.ปูติน ของรัสเซีย กล่าวในงานสวนสนามหลักทางทะเลที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เนื่องในโอกาสวันกองทัพเรือของรัสเซียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยมีผู้นำอาฟริกาเข้าร่วมอย่างคึกคัก หลังจากร่วมกันลงนามข้อตกลงทางทหารทั้ง ๔๐ ประเทศ

วันที่ ๓๑ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า ประธานาธิบดีปูติน เปิดเผยว่า “รัสเซียกำลังสร้างกองทัพเรือให้แข็งแกร่งอย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ปีเดียวได้รับเรือรบ ๓๐ ลำที่จะเข้าประจำการกองเรือของประเทศ”

ปูตินกล่าวว่า “เรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในการสู้รบ ได้แก่ เรือคอร์เวตติดขีปนาวุธเมอร์คิวรี มีการชักธงเรือเซนต์จอร์จ “เป็นเครื่องหมายของการฝ่าฝืนประเพณีกองทัพเรือรัสเซีย” เป็นสัญลักษณ์แห่งความกล้าหาญ และความแน่วแน่ ของทหารเรือ” ปูตินกล่าวย้ำว่า“คุณสมบัติเหล่านี้ได้แสดงให้เห็นอย่างเต็มที่แล้วในวันนี้”  พร้อมเสริมว่ากองทัพเรือรัสเซียเป็นผู้พิทักษ์ชายแดนของประเทศที่ไม่มีใครสามารถล่วงละเมิดได้”

ในวันอาทิตย์ที่ ๓๐ กรกฎาคมที่ผ่านมา เซนต์ปีเตอร์สเบิร์กเป็นเจ้าภาพจัดสวนสนามวันกองทัพเรือรัสเซีย ซึ่งมีประธานาธิบดีปูติน ผู้นำของประเทศเข้าร่วมด้วย

เรือรบและเรือดำน้ำ ๔๕ ลำ ตลอดจน เครื่องบิน ๔๒ ลำและทหารกว่า ๓,๕๐๐นาย เข้าร่วมในขบวนพาเหรด ในการแสดงแบบดั้งเดิมของแสนยานุภาพทางเรือของรัสเซีย

พลเรือเอก วาซิลี แดนดีกิน (Admiral Vasilee Dandykin) ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารในมอสโกว์กล่าวกับสปุตนิกว่า “แม้จะมีการปฏิบัติการทางทหารพิเศษของรัสเซียอย่างต่อเนื่องในยูเครน ซึ่งเข้าใจได้ว่าส่งผลกระทบต่อเงินกองทุนของรัฐบ้าง แต่เรือพิฆาตใหม่หลายสิบลำจะเข้าประจำการที่กองเรือทางตอนเหนือ แปซิฟิก ทะเลดำ และทะเลบอลติกของรัสเซีย รวมถึงเรือขีปนาวุธขนาดเล็ก Zircon และเรือฟริเกตด้วย”

สำหรับกองเรือดำน้ำของประเทศ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวเสริมว่า จะได้รับเรือดำน้ำเชิงยุทธศาสตร์รุ่นอเล็กซานเดอร์ ๓ (Alexander III) รุ่นที่ ๔ ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานนิวเคลียร์ ซึ่งออกแบบมาเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้กับกองทัพเรือรัสเซียในมหาสมุทรแปซิฟิก

Dandykin กล่าวว่า “นี่เป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มนิวเคลียร์ยุทธศาสตร์สามกลุ่มของรัสเซีย ประเทศเริ่มพัฒนาเรือดำน้ำรุ่นที่สี่นี้ได้ “เร็วกว่าอเมริกา”

ตามข้อมูลของ Dandykin การเข้าประจำการในกองทัพเรือรัสเซียจะเป็นเรือดำน้ำดีเซล เรือกวาดทุ่นระเบิด และเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ซึ่งจัดแสดงในงานสวนสนามวันกองทัพเรือนี้ 

เมื่อถูกถามเกี่ยวกับอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือรัสเซียที่ไม่เหมือนใคร ซึ่งเป็นสิ่งที่ประเทศตะวันตกยังไม่มีในปัจจุบัน เขากล่าวถึงเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ชั้น Borei รุ่นที่ ๔ ที่ติดตั้งโดรนทางยุทธศาสตร์โพไซดอน 

รายชื่อนี้ยังรวมถึงเรือดำน้ำอเนกประสงค์ยาเซ็นเอ็ม (Yasen M) ที่ติดตั้งขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง เรือลาดตระเวนติดขีปนาวุธขนาดเล็กระดับคาราเคิร์ต (Karakurt) และเรือลาดตระเวนทางทหาร 

นอกจากนี้ ผู้เชี่ยวชาญชาวรัสเซียยังอ้างถึงเรือตัดน้ำแข็งทางทหารขนาดใหญ่ เช่นมูโรเม็ตส์ (Muromets) และเยฟปาตี โคลอฟแร็ต (Yevpaty Kolovrat) ซึ่งเขากล่าวว่าเป็นส่วนหนึ่งของกองเรือขั้วโลกของรัสเซียที่แข็งแกร่งไม่มีใครเหมือนและเหมือนใคร

เขาเน้นย้ำถึงความจำเป็นในการสร้างเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำเพิ่มขึ้น รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ (UAV) ซึ่ง “สามารถปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์ของกองทัพเรือรัสเซีย”

Dandykin กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา เรามีความก้าวหน้าอย่างมากในการสร้าง UAV เช่น โดรน Lantset การพัฒนา UAVs อื่นๆ กำลังดำเนินการอยู่ โดยโดรนโอคอตนิค (Okhotnik) ตัวใหม่กำลังจะเปิดตัวในเร็วๆนี้ ทำงานควบคู่กับเครื่องบินขับไล่รุ่นที่ ๕ สามารถปฏิบัติภารกิจการสู้รบได้ด้วยตัวมันเองอย่างอัตโนมัติ”

 ที่ปรึกษาระหว่างประเทศกองทัพสหรัฐฯพันโทเอิร์ล ราสมุสเซน(Earl Rasmussen)ซึ่งเกษียณแล้ว ชี้ให้เห็นถึง “เรือดำน้ำที่แข็งแกร่ง” ในกองทัพเรือรัสเซีย ถือเป็นอันดับสามของโลกรองจากสหรัฐฯ และจีน

นอกจากรัสเซียจะอัพเกรดเรือผิวน้ำแล้ว “กำลังดำเนินการพัฒนา” เพื่อทำให้ “เรือดำน้ำ ๖ ประเภทที่แตกต่างกันมีความพร้อมในความสามารถเฉพาะตัวและทันสมัย” ​​ ราสมุสเซนเน้นย้ำว่าการคว่ำบาตรต่อต้านรัสเซียของตะวันตก “มีผลกระทบเพียงเล็กน้อย” ต่อกระบวนการสร้างเรือรบและเรือดำน้ำของรัสเซีย

เขากล่าวสรุปว่า “ผู้นำชาติตะวันตกที่นำโดยสหรัฐฯ ควรแสวงหาความเข้าใจร่วมกันและความร่วมมือทั่วโลก แต่พวกเขากลับสร้างความแตกแยกไปทั่วโลกและกลายเป็นเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ที่ถือว่าเป็นปฏิปักษ์ นโยบายที่เย่อหยิ่งและเป็นเจ้าโลกเช่นนี้ไม่ฉลาดและกำหนดทิศทางที่อันตรายมากสำหรับตะวันตกและโลก อย่างน้อยที่สุด เราจะได้เห็นโลกที่แตกเป็นเสี่ยงๆ และที่เลวร้ายที่สุดก็คือความขัดแย้งระดับโลกที่สามารถบานปลายได้อย่างง่ายดายสู่สงครามโลกครั้งใหม่”