ผนึกเขี้ยวเล็บ!! ๓ พยัคฆ์พร้อมหน้า กลาโหมเกาหลีเหนือ-รัสเซีย-จีน แท็คทีมหารือพร้อมชนนาโต้เอเชีย

0

สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีได้กลายเป็นหนึ่งในจุดวาบไฟ ที่ล่อแหลมจะปะทะเป็นสงครามเชิงพื้นที่ได้ตลอดเวลา เมื่อสหรัฐฯลากจูงนาโต้มาจับมือองค์กรต้านจีนในเอเชียอย่างควอดและออคัส กลายเป็นนาโต้เอเชียเต็มรูป

วันนี้ที่เปียงยาง ประเทศเกาหลีเหนือ ๓ บิ๊กมหาอำนาจนิวเคลียร์รัสเซีย จีนและเกาหลีเหนือได้มาพบกันเนื่องในโอกาสฉลองวันรำลึกการสงบศึกสงครามเกาหลี รมว.กลาโหมของรัสเซียและเกาหลีเหนือจัดการเจรจาครั้งประวัติศาสตร์ ผู้นำระดับสูงของจีนได้ร่วมงานและหารือถึงสถานการณ์ร้อนในภูมิภาคอย่างจริงจัง

วันที่ ๒๗ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์รายงานว่า จีนและรัสเซียส่งคณะผู้แทนไปยังเกาหลีเหนือเพื่อฉลองครบรอบ๗๐ ปีของการสงบศึกในสงครามเกาหลี ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าโลกที่ปั่นป่วนในทุกวันนี้มีความคล้ายคลึงกันบางประการกับโลกเมื่อสงครามเย็นเริ่มต้นขึ้น 

ตามรายงานของสื่อทางการเกาหลีเหนือ สำนักข่าวกลางเกาหลี (KCNA)เปิดเผยว่า คิม จอง อึน เลขาธิการใหญ่พรรคแรงงานแห่งเกาหลี (WPK) และประธานกิจการรัฐของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี เยี่ยมชมสุสานผู้พลีชีพของอาสาสมัครประชาชนจีน ในอำเภอโฮชาง (Hoechang) จังหวัดเซาท์พยองกัน (South Phyongan)

คิมกล่าวว่า “ชีวิตอันสูงส่งของผู้พลีชีพอาสาสมัครประชาชนจีน จะเป็นอมตะในหัวใจของชาวเกาหลี  ประวัติศาสตร์และประเพณีแห่งความสามัคคีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ ผู้หล่อหลอมสายสัมพันธ์แห่งเครือญาติในการต่อสู้อันศักดิ์สิทธิ์เพื่อบรรลุผลของการต่อต้านจักรวรรดินิยม เอกราชและสังคมนิยม และได้ทำลายล้างความไม่พอใจเชิงปฏิกิริยาของพวกจักรวรรดินิยมอย่างเฉียบขาดด้วยความยุติธรรมและความจริง” 

เหมา หนิง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวในการแถลงข่าวเมื่อวันพุธว่า คำไว้อาลัยของคิมแสดงให้เห็นว่าพรรค รัฐบาล และประชาชนชาวเกาหลีเหนือชื่นชมการสนับสนุนอันยิ่งใหญ่ของอาสาสมัครประชาชนจีน แสดงให้เห็นการพัฒนาและการสืบทอดมิตรภาพดั้งเดิมจีน-เกาหลีเหนือในยุคประวัติศาสตร์ใหม่ 

การสงบศึกในสงครามเกาหลีมีความหมายแตกต่างกันไปสำหรับผู้เกี่ยวข้อง จีนยกย่องให้เป็นชัยชนะในสงครามต่อต้านการรุกราน เกาหลีเหนือยกย่องให้เป็นชัยชนะในสงครามปลดปล่อยปิตุภูมิอันยิ่งใหญ่ ในขณะที่สหรัฐฯ มักจะไม่ค่อยมีชื่อเสียงในโอกาสนี้ในฐานะกองทัพสหรัฐฯและพันธมิตร ล้มเหลวในการบรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์และถูกบังคับให้ลงนามสงบศึกหลังจากพ่ายแพ้ในสนามรบหลายครั้ง  

ตามคำเชิญของเกาหลีเหนือ จีนและรัสเซียต่างก็ส่งคณะผู้แทนระดับสูงไปร่วมงาน จีนส่งคณะผู้แทนจากพรรคและรัฐบาลจีนนำโดยหลี่ หงจง รองประธานคณะกรรมการประจำสภาประชาชนแห่งชาติ และรัสเซียส่งคณะผู้แทนทางทหารที่นำโดยรัฐมนตรีกลาโหม เซอร์เกย์ ชอยกูเข้าร่วมงาน

ฮัน เสียนดอง(Han Xiandong) ศาสตราจารย์แห่ง China University of Political Science and Law กล่าวกับ Global Times เมื่อวันพุธว่า “เช่นเดียวกับทศวรรษที่ ๑๙๕๐ ระเบียบโลกในปัจจุบันอยู่ในช่วงของการเปลี่ยนแปลงและการสร้างใหม่ ความแตกต่างคือโลกประสบกับกระแสโลกาภิวัตน์มานานหลายทศวรรษ ดังนั้นประเทศต่างๆ จึงมีความเกี่ยวพันกันและเชื่อมโยงกันอย่างลึกซึ้ง แม้จะมีระบบการเมืองและอุดมการณ์ที่แตกต่างกันก็ตาม”

หลี่ ไห่ตง ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัย China Foreign Affairs กล่าวว่า “น่าเสียดายที่ความคิดแบบสงครามเย็นและความคิดแบบเจ้าโลกกำลังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในหมู่ชนชั้นนำตะวันตก โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา และพวกเขามีอิทธิพลเหนือการกำหนดนโยบายในชาติมหาอำนาจตะวันตก ดังนั้นอันตรายจากการทำผิดซ้ำซากในช่วงสงครามเย็นจึงเพิ่มสูงขึ้น”

ด้านภารกิจของการเยือนเปียงยางของเซอร์เก ชอยกูรมว.กลาโหมรัสเซียนั้น ทางรัสเซียทูเดย์รายงานว่า Shoigu พูดคุยกับ กัง ซัน-นัม(Kang Sun-nam) รมว.กระทรวงกลาโหมเกาหลีเหนือ เขายกย่องความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดระหว่างทั้งสองประเทศและขอบคุณเจ้าภาพสำหรับโครงการสำคัญและการต้อนรับที่อบอุ่น

ชอยกูกล่าวว่าเขารู้สึกเป็นเกียรติที่มาร่วมรำลึกวันครบรอบ ๗๐ ปีแห่งชัยชนะในสงครามปลดปล่อยปิตุภูมิครั้งใหญ่ เขาชื่นชมว่าในครั้งนั้น “กองทัพประชาชนเกาหลีประสบชัยชนะเหนือศัตรูที่แข็งแกร่งและโหดร้าย”

สงครามเกาหลีถือเป็นหนึ่งในความขัดแย้งที่นองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ โดยทั้งสองฝ่ายมีผู้เสียชีวิตประมาณ ๓ ล้านคน ในขณะที่โซลและเปียงยางไม่เคยลงนามในสนธิสัญญาสันติภาพ การสงบศึกได้กำหนดเขตปลอดทหารใกล้กับเส้นขนานที่ ๓๘ ซึ่งแบ่งคาบสมุทรเกาหลีออกเป็นเหนือและใต้มาจนทุกวันนี้

ชอยกูยังกล่าวถึง“ประวัติศาสตร์อันยาวนานของความร่วมมือ ” ระหว่างเกาหลีเหนือและรัสเซีย มีการแลกเปลี่ยนทางทหารอย่างกว้างขวาง รวมถึงการเยือนของเจ้าหน้าที่กลาโหมระดับสูงและการฝึกอบรมบุคลากร ได้ช่วย “ รักษาสันติภาพและเสถียรภาพบนคาบสมุทรเกาหลี”ตลอดมา

กระทรวงต่างประเทศของเปียงยางกล่าวว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศ “ตอนนี้กำลังก้าวไปสู่จุดสูงสุดทางยุทธศาสตร์ใหม่” เมื่อเผชิญกับสิ่งที่เรียกว่า “การกระทำที่เป็นเจ้าโลกของสหรัฐฯและบริวาร”

สถานการณ์ในเอเชียแปซิฟิกล่าสุด ที่ทั้ง ๓ บิ๊กมาพบกันต่อหน้าในขณะที่ ญี่ปุ่นและฝรั่งเศสเริ่มการซ้อมรบร่วมครั้งแรกในวันพฤหัสบดี ซึ่งเป็นความร่วมมือด้านทหารต่อต้านจีนตามยุทธศาสตร์อินโดแปซิฟิกของวอชิงตัน

ในเวลาเดียวกัน จีนได้ส่งกองเรือลาดตระเวนจับตาสหรัฐฯ-ออสเตรเลียซ้อมรบครั้งใหญ่สุดเท่าที่เคยมีมา ในโปรแกรมทาลิสมัน ซาเบร(Talisman Sabre)