เดินหน้าลุย!! RFยึดนิคมเซอร์เกเยฟกา รุกคืบหน้าที่คราสนีย์-ลิมัน ถล่มเคียฟ-นาโต้วันเดียวดับ ๖๑๐

0

ในขณะที่ยูเครนและผู้สนับสนุนทั้งเมกา-นาโต้กำลังปรับปรุงยุทธวิธีการสู้รบ และประเคนอาวุธสารพัดอย่างให้ยูเครนอีก รัสเซียก็เดินหน้าปิดจ๊อบอย่างขมักเขม้น ช่วงชิงโอกาสที่เหนือกว่ารุกคืบได้ตลอดทุกวัน กำจัดกองกำลังหน่วยจรยุทธ์ และยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ตะวันตกส่งมาให้เคียฟทุกวันเช่นกัน

วันที่ ๒๖ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและมิลิทารี่โครนิเคิลรายงานว่า กระทรวงกลาโหมเปิดเผยผลการปฏิบัติงานว่า “กองทัพรัสเซียรุกคืบใน ๒ พื้นที่ในทิศทาง คราสนีย์-ลิมัน (Krasny Liman) และปลดปล่อยนิคมเซอร์เกเยฟกา (Sergeevka) ขับไล่การโจมตีของยูเครน ๔ ครั้งในทิศทางนี้ ขณะที่ฝ่ายศัตรูสูญเสียทหาร ๑๙๐ นายและคลังกระสุน ๒ แห่งที่นั่น

กระทรวงระบุว่า “ในการปฏิบัติการตอบโต้ที่ประสบความสำเร็จ หน่วยของกองพลปืนไรเฟิลติดเครื่องยนต์ที่ ๑๕ ภายใต้การบังคับบัญชาที่เชี่ยวชาญของ ร.ท. พ.อ. บุยลอฟ ได้ควบคุมพื้นที่ชุมชนเซอร์เกเยฟกาแล้ว”

ในทิศทางของโดเนตสค์ในวันที่ผ่านมา กองกำลังยูเครนสูญเสียทหารมากถึง ๒๘๐ นายโดยรัสเซียสามารถต้านทานการโจมตีกองกำลังติดอาวุธยูเครนได้ถึง ๘ ครั้ง

“ทำลาย รถถังสามคัน ยานเกราะต่อสู้ห้าคัน รถปิคอัพแปดคัน หน่วยปืนใหญ่อัตตาจร Krab ที่ผลิตในโปแลนด์ ปืนครก Msta-B สองกระบอก หน่วยปืนใหญ่อัตตาจร Gvozdika สามหน่วย รวมทั้งเรดาร์ต่อต้านแบตเตอรี่ AN/TPQ-36 ที่ผลิตโดยสหรัฐฯด้วย ”

ในทิศทางโดเนตสค์ตอนใต้และซาโปริชเชีย “เคียฟยังสูญเสียทหาร 140 นาย รถถัง ๑ คัน รถหุ้มเกราะ ๔ คัน รถยนต์ ๒ คัน ระบบปืนใหญ่ M777 ที่ผลิตในสหรัฐฯ ปืนครก FH-70 ที่ผลิตในอังกฤษ ปืน D-20 สองกระบอก รวมทั้งปืนครก Giatsint-S ด้วย

แม้ยูเครนจะมีความมุ่งมั่นที่จะสังเวยทหารยูเครนหลายร้อยนายและสูญเสียรถถังและรถหุ้มเกราะจำนวนมากที่นาโต้จัดหาให้ แต่จนถึงตอนนี้เคียฟก็ยังคงล้มเหลวที่จะเจาะแนวป้องกันด่านแรกของรัสเซีย

ในทิศทางโดเนตสค์ใต้ อเล็ก เชคอฟ โฆษกกลุ่มสมรภูมิตะวันออกหรือวอสต็อค กล่าวว่า “ทางหน่วยได้รับการสนับสนุนจากปืนใหญ่ ได้ขับไล่การโจมตีหลายครั้งของศัตรูไปยังสตาโรมายอสก์ หลังจากสูญเสียกำลังพลไปอย่างเห็นได้ชัด ข้าศึกก็ล่าถอย”

หน่วยปืนใหญ่ได้โจมตีพื้นที่ที่มีการกระจุกตัวของกำลังพลหลายจุด ทำลายรถถัง ๑ คันและรถปิกอัพ ๑ คันที่บรรทุกกำลังพลโดยพวกชาตินิยมทางตะวันออกเฉียงใต้ของ เมืองราฟโนปอล(Ravnopole)  พวกเขายังได้โจมตีด้วยปืนครก Giatsint ใน Neskuchnoye และหน่วยครกในเขต Novy Komarด้วย

นอกจากนี้ เทเลแกรมและสื่อโซเชียลได้เผยแพร่ภาพที่แสดงความพ่ายแพ้ของฝ่ายตะวันตกต่อโดรน FPVของรัสเซีย การจัดส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารของกองทัพตะวันตกให้กับกองทัพยูเครน ในทิศทางซาโปริชเชีย (Zaporizhia) ด้วยความช่วยเหลือของกล้องโดรนโจมตีและโดรนควบคุมวัตถุ สามารถเห็นการโจมตีอย่างแม่นยำบนรถถัง Leopard ของเยอรมันและยานต่อสู้ของทหารราบแบรดลีย์อเมริกันโดยLancet อย่างชัดเจน

ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหารตะวันตกกล่าวว่าการใช้อาวุธยุทโธปกรณ์ Lancet และโดรน FPV โดยกองทัพรัสเซียมีจำนวนเพิ่มขึ้น

มีการบันทึกการใช้โดรน FPV อย่างน้อย ๕๐-๖๐ ลำและLancet จำนวน ๒๐-๓๐ ลำทุกวัน นอกจากนี้ยังมีการบันทึกการใช้คอปเตอร์หลายโหลด้วยความช่วยเหลือของระเบิดขนาดลำกล้อง ๔๐ หรือ ๖๐ มม. ที่ทิ้งลงในสนามเพลาะและโจมตีเป้าหมายศัตรูที่กลายเป็นเป้านิ่ง

มีการใช้ Lancets ซึ่งก่อนหน้านี้ใช้กับรถถัง อุปกรณ์ทางทหารและระบบปืนใหญ่ก็สามารถนำมาใช้อย่างหมดจดกับตำแหน่งสนามเพลาะและกลุ่มทหารราบของกองทัพยูเครนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ในกรณีที่ปริมาณการจัดหาของกองทัพ RF พร้อมการปรับเปลี่ยนใหม่ของ Lancets อยู่ในระดับที่เพิ่มขึ้น เป็นไปได้มากว่า ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จำนวนการใช้งานจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็น ๕๐ และอาจถึง ๑๐๐ ลำต่อวันเพราะปัจจุบันฝ่ายผลิตของรัสเซียสามารถเร่งกำลังผลิตได้ถึงเดือนละ ๕ หมื่นลำ รัสเซียผลิตเองใช้เองนักเลงพอ ไม่จำเป็นต้องขอซื้อจากใคร!!