ปฏิบัติการยั่วยุยังคงดำเนินต่อไป โดยเกิดเหตุการณ์โดรน ๒ ลำโจมตีกลางเมืองมอสโกว์อีกครั้ง ซึ่งถูกรัสเซียจัดการด้วยอีเลคโทรนิคส์วอร์แฟร์ ตกลงพื้น
ชิ้นส่วนของโดรนยูเครนลำหนึ่งถูกพบที่อาคารเลขที่ ๑๗, Komsomolsky Avenue ในใจกลางกรุงมอสโกว์ ขณะที่เครื่องบินไร้คนขับอีกลำหนึ่งชนเข้ากับศูนย์กลางธุรกิจบนถนน Likhachev ทางตอนใต้ของกรุงมอสโกว์ ทำให้หน้าต่างบนพื้นที่ ๕๐ ตารางเมตรบนชั้น ๑๗ และ ๑๘ แตกเสียหาย
ทางด้านโฆษกเครมลิน ดมิทรี เปสคอฟ แถลงเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่ามาตรการป้องกันทางอากาศของมอสโกว์กำลังดำเนินอยู่ โดยเห็นได้จากการยิงโดรนของยูเครนทั้งหมดในเมืองหลวงของรัสเซีย
เมื่อถูกถามคำถามเจาะจงเกี่ยวกับวิธีที่เครมลินประเมินการปฏิบัติงานของการป้องกันทางอากาศของมอสโกเทียบกับการโจมตีด้วยโดรนในเมืองหลวงของรัสเซียเมื่อเดือนพฤษภาคม เปสคอฟกล่าวว่า “สำหรับการพัฒนาระบบป้องกันและจัดหาปฏิบัติการที่เข้มข้นขึ้น นั้นให้ไปถามกับกระทรวงกลาโหม” “เราบอกได้เพียงว่าสกัดกั้นโดรนได้ทั้งหมด”
วันที่ ๒๕ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟอดีตปธน.รัสเซียกล่าวว่า “มอสโกว์สามารถโจมตี “เป้าหมายที่ไม่ปกติ” นอกเหนือจากคลังสินค้าทางทหารและโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน”
ยูเครนกำลังดำเนินการโจมตีเป้าหมายพลเรือนในรัสเซียเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากการตอบโต้ที่พยายามอย่างหนัก อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิตรี เมดเวเดฟ อ้าง เมดเวเดฟแสดงความคิดเห็นหลังจากโดรนของยูเครนพยายามโจมตีเป้าหมายในมอสโกวและไครเมียหลายชั่วโมง โดยแนะนำว่าการตอบสนองของรัสเซียควรเป็นสิ่งที่“คาดไม่ถึง”
เมดเวเดฟ ซึ่งปัจจุบันดำรงตำแหน่งรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย เขียนในช่องเทเลแกรมของเขาเมื่อวันจันทร์ว่า ยูเครนอดไม่ได้ที่จะต้องพยายามประสบความสำเร็จทางทหาร และจำเป็นต้องทำคะแนนให้ ผู้สนับสนุนต.ต.พอใจ
เขาระบุว่า “นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกนิโอฯยูเครน และประชากรที่พวกเขาเกณฑ์มาจึงพบว่าการโจมตีในสถานที่พลเรือนเป็นที่ยอมรับได้” นอกจากนี้เขายังอ้างว่ามีความกังวลเพิ่มขึ้นในหมู่ประชาชนชาวยูเครน และความไม่อดทน”ของ”ปรมาจารย์ตะวันตกของเคียฟต่อชัยชนะในสนามรบ
เขากล่าวเสริมว่า “ดังนั้นพวกแบนเดร่าจึงเลือกเป้าหมายพลเรือนที่สงบสุขมากขึ้นสำหรับการโจมตีอันชั่วร้ายของพวกเขา ทุกคนควรเตรียมพร้อมสำหรับเรื่องนี้”เมดเวเดฟเตือนโดยอ้างถึงประวัติศาสตร์มีผู้สมรู้ร่วมคิดนาซียูเครนที่อื้อฉาวในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
เมดเวเดฟย้ำว่า “เราจำเป็นต้องเลือกเป้าหมายที่ไม่ปกติสำหรับการโจมตีของเรา ไม่ใช่เพียงแค่คลังสินค้า ศูนย์กลางพลังงาน และฐานน้ำมันเท่านั้น มีสถานที่อื่น ๆ ที่พวกเขายังไม่คาดคิด และผลกระทบจะมีความสำคัญมาก”
ในวันเดียวกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่าการโจมตี UAV ของยูเครนได้โจมตีคลังกระสุนในไครเมีย และกองกำลังของมอสโกว์ได้ยิงโดรนตกได้ทั้งหมด ๑๗ ลำ
แม้ว่าเจ้าหน้าที่ของยูเครนจะไม่ได้อ้างความรับผิดชอบอย่างเป็นทางการต่อการจู่โจมดังกล่าว แต่มิคาอิล เฟโดรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของประเทศ ได้บอกเป็นนัยถึงการมีส่วนร่วมของเคียฟและสัญญาว่าจะเกิดเหตุการณ์ “ มากกว่านี้”ในอนาคต
กระทรวงต่างประเทศรัสเซียประณามการโจมตีครั้งนี้ว่าเป็น“อาชญากรรมอีกครั้งโดยระบอบการปกครองของเคียฟ”และกล่าวว่าพวกเขาไม่มีจุดหมายจากจุดยืนของกองทัพ มอสโกว์“ขอสงวนสิทธิ์ในการใช้มาตรการตอบโต้อย่างรุนแรง”
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่าความพยายามโจมตีด้วยโดรนของยูเครนในกรุงมอสโกว์ในเช้าวันจันทร์ ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับอาคารที่ไม่ใช่ที่พักอาศัยหลายแห่ง แต่เป็นที่ชุมชนพลเรือน เป็น“การกระทำของการก่อการร้ายสากล”
ในเรื่องนี้ กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียได้ยื่นอุทธรณ์ต่อองค์กรระหว่างประเทศเพื่อให้ประเมินสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างเหมาะสม แต่มันยากที่จะบอกว่านี่คือการเรียกแบบไหนและจำเป็นต้องโทรซ้ำไปยังองค์กรระหว่างประเทศหรือไม่ พวกเขาไม่ตอบสนองในทางใดทางหนึ่งต่อการก่อการร้ายโดยระบอบการปกครองของยูเครนซึ่งก่อนหน้านี้ก็เป็นเช่นนั้น? ด้านคณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียได้เปิดคดีอาญาจากข้อเท็จจริงข้างต้นแล้ว ผู้รับผิดชอบที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะถูกจับกุมและลงโทษ
