ขวางไม่อยู่!! BRICSเดินหน้าโค่นดอลลาร์ อาฟริกาไม่เชิญมาครง ส่งเทียบเชิญ ๗๐ ปท.สนใจสมัครกว่า ๔๐

0

ในเดือนมิถุนายน ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงของฝรั่งเศสต้องการเข้าร่วมการประชุมสุดยอด BRICS ที่แอฟริกาใต้เป็นเจ้าภาพ ซึ่งฝรั่งเศสไม่ได้เป็นสมาชิก

และได้ขอให้ทางเจ้าภาพส่งเทียบเชิญให้เข้าร่วมในการประชุมที่โจฮันเนสเบิร์ก ประเทศอาฟริกาที่กำลังจะมีขึ้น สุดท้ายแห้วเจ้าภาพไม่เชิญ 

วันที่ ๒๔ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและแอฟริกาใต้รายงานว่า “ประธานาธิบดีซีริล รามาโฟซาแห่งแอฟริกาใต้ ในฐานะประธานกลุ่ม BRICS ได้ส่งคำเชิญไปยังผู้นำของ ๗๐ ประเทศให้เข้าร่วมการประชุมสุดยอดในเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้ แต่ไม่ได้เชิญประธานาธิบดีมาครงของฝรั่งเศส และผู้นำของสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร

การประชุมสุดยอด BRICS จะจัดขึ้นที่ Johannesburg Sandton International Conference Center ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๔ สิงหาคม โดยจะเริ่มต้นด้วยการเปิด  ฟอรัมธุรกิจ ในวันที่ ๒๓ สิงหาคม ส่วนกลางของการประชุมสุดยอด BRICS จะมีขึ้น โดยการประชุมผู้นำของประเทศสมาชิกของสมาคมจะจัดขึ้นภายใต้การเป็นประธานของปธน.รามาโฟซาแห่งอาฟริกา และจะจัดขึ้นในรูปแบบปิด

กำหนดการวันรุ่งขึ้น ๒๔ สิงหาคม ผู้นำกลุ่มประเทศ BRICS จะจัดการประชุมแบบเปิดกับประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลที่ได้รับเชิญผ่านความร่วมมือกับ BRICS และจะมีการประชุมสามัญด้วย

ร่วมกับประมุขแห่งรัฐและรัฐบาลของแอฟริกา ผู้นำ ๑๑ ประเทศทั่วโลกใต้ ซึ่งเป็นตัวแทนขององค์กรระดับภูมิภาค เช่น สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ประชาคมแคริบเบียน (CARICOM) กลุ่ม 77 (G77) สภาความร่วมมือเพื่อรัฐอาหรับแห่งอ่าวเปอร์เซีย (GCC) ได้รับเชิญให้เข้าร่วมกิจกรรม ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิเมียร์ ปูติน จะเข้าร่วมทางวีดิโอออนไลน์ในทุกการประชุมของผู้นำประเทศสมาชิก BRICS

ตำแหน่งประธาน BRICS คนปัจจุบันของแอฟริกาใต้ได้รับเลือกเป็นสมัยที่สามติดต่อกัน และจะส่งต่อให้รัสเซียเป็นประธานกลุ่มในต้นปี ๒๕๖๗ 

กลุ่ม BRICS มีประชากรรวมกันแล้ว ๔๒ เปอร์เซ็นต์ ของประชากรโลก ประมาณ ๓,๒๐๐ ล้านคน จากประชากรโลกที่มีประมาณ ๗,๐๐๐ ล้านคน

ปี ๒๕๖๔ BRICS มี GDP ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศรวมกันคิดเป็น ๒๖ เปอร์เซ็นต์ หรือ ๑ ใน ๔ ของ GDP ของโลก ราวๆ ๒๔ ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ในปี ๒๕๖๓ มีมูลค่าการค้า ทั้งนำเข้า-ส่งออก คิดเป็นสัดส่วนกว่า ๒๐ เปอร์เซ็นต์ แต่พอมาถึง ๒๕๖๔ จาก ๓ ล้านล้านดอลลาร์ กลายเป็น ๒๔ ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ในปี ๒๕๖๔ สมาชิก BRICS มีทุนสำรองระหว่างประเทศรวมกันคิดเป็นมูลค่าเกือบ ๕ ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

จากสถิติข้างต้นจะเห็นได้ว่า นานวันเข้า เมื่อ BRICS ขยายใหญ่โตขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง GDP ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ แซงหน้ากลุ่มประเทศ G7 ไปไกลแล้ว

ในปี ๒๕๖๖ GDP และ PPP กลุ่ม BRICS อยู่ที่ ๖๓.๙๑ ล้านล้านดอลลาร์ จาก ๒๐ กว่าเปอร์เซ็นต์ ขึ้นมาเป็น ๓๖ เปอร์เซ็นต์ ของโลก กลุ่ม G7 นั้นมีอยู่แค่ ๒๗ เปอร์เซ็นต์ ของโลก หรือ ๔๘.๑๘ ล้านล้านเหรียญ ต่างจากกลุ่ม BRICS ถึง ๙ เปอร์เซ็นต์ 

สิงหาคม ๒๕๖๖ นี้ ผู้นำกลุ่ม BRICS จำนวน ๕ ประเทศ ประชุมซัมมิตที่ประเทศแอฟริกาใต้ มีหัวข้อที่จะพูดคุยตกลงกัน ๓ เรื่อง คือ หนึ่ง ขยายจำนวนสมาชิกกลุ่ม BRICS สอง การใช้เงินสกุลท้องถิ่นเพื่อค้าขายกันเอง โดยไม่ใช้เงินดอลลาร์ และ สาม การใช้เงินสกุลร่วม (Common Currency) ของ BRICS ที่กำลังจะคิดขึ้นมาว่าจะใช้อะไรดี จะเป็นรากฐานที่สำคัญที่สุดในการสร้างระเบียบเศรษฐกิจและระเบียบการเงินใหม่ของโลก