ขยี้ซ้ำ!! RFปิดทางออกทะเลยูเครน ส่งขีปนาวุธ Onyx ถล่มรง.ผลิตโดรนโอเดสซา ทหารเคียฟยอมจำนนวันเดียว ๓๑

0

“โอเดสซา” ยังโดนหนัก เป็นเป้าหมายการโจมตีตลอดหลายวันที่ผ่านมาจากกองทัพรัสเซีย หลังจากยูเครนโจมตีสะพานไครเมีย มีรายงานขีปนาวุธอย่างน้อย ๗ ลูกและขีปนาวุธร่อนจำนวนหนึ่งยิงมาที่โอเดสซา เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา

มีการโจมตีใกล้กับ Raduzhny และในบริเวณท่าเรือ บริเวณใกล้เคียงมีศูนย์ฝึกอบรม “Chabanka” ของกองพลยานเกราะที่ ๒๘ ของยูเครน และสำนักงานกองบัญชาการปฏิบัติการ “ภาคใต้” ของกองทัพยูเครนอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีรายงานจากสื่อฝั่งยูเครนถึงการโจมตีด้วยขีปนาวุธหลายระลอก Ochakiv, Chernomorsk และ Nikolaev ทางยูเครนสันนิษฐานว่าใช้ Kh-22, Kaliber และ P-800 Onyx และปิดท้ายด้วยโดรน Geranium-2 อีกสองระลอก

วันที่ ๒๔ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า กระทรวงกลาโหมรัสเซียเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “เมื่อคืนที่ผ่านมา กองทัพรัสเซียเปิดฉากโจมตีกลุ่มด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีทางอากาศและทางทะเลที่มีความแม่นยำสูงในระยะไกล ไปยังสถานที่ที่เตรียมปฏิบัติการก่อการร้ายต่อสหพันธรัฐรัสเซีย โดยใช้เรือไร้คนขับ เช่นเดียวกับสถานที่ผลิตอาวุธใกล้กับเมืองโอเดสซา มีทหารรับจ้างต่างชาติประจำอยู่ที่โรงงานได้รับผลกระทบ” 

กระทรวงฯระบุว่า “เป้าหมายทั้งหมดที่ถูกเลือกสำหรับการโจมตีถูกทำลายหมด”

ยูเครนพยายามที่จะรุกคืบในวันที่ผ่านมาในหลายทิศทางของโดเนตสค์, คราสนีย์-ลิมัน และซาโปริชเชีย

กองกำลังรัสเซียขับไล่ความพยายามโจมตีของยูเครน ๑๔ ครั้งในทิศทางของโดเนตสค์ โดยยูเครนสูญเสียทหารไปทั้งสิ้น ๓๗๐ นาย ยานเกราะต่อสู้ ๖ คัน และอาวุธยุทโธปกรณ์อื่น ๆ ความพยายามในการโจมตีของยูเครนทั้งหมดหกครั้งถูกผลักไสไปในทิศทางของ Krasny Liman โดยยูเครนสูญเสียทหารกว่า ๑๓๐ นายและยุทโธปกรณ์ ๑๘ หน่วย 

ในทิศทางโดเนตสค์ตอนใต้และซาโปโรซี ยูเครนพยายามรุกคืบ ๓ ครั้งในวันที่ผ่านมา สูญเสียผู้คนกว่า ๑๖๐ คน รถถังเสือดาว ๗ คัน และรถหุ้มเกราะ ๑๕ คัน รวมทั้งรถแบรดลีย์ ๑๐ คัน 

ยูเครนยังสูญเสียกำลังพลราว ๙๐ คนในเส้นทาง Kupyansk และ Kherson

นอกจากนี้เครื่องบินไอพ่นของรัสเซียยังยิงเครื่องบินโจมตี Su-25 ของยูเครนตกในสาธารณรัฐประชาชนโดเนตสค์ (DPR) ในขณะที่การป้องกันทางอากาศสกัดกั้นจรวด HIMARS รวมถึงขีปนาวุธร่อนสตอร์มชาโดว์ของอังกฤษที่ส่งมาให้เคียฟ

ในรอบ ๒๔ ชั่วโมงโดรนของยูเครนทั้งหมด ๒๘ ลำถูกยิงตกใน DPR, สาธารณรัฐประชาชน Lugansk, ภูมิภาค Kharkov และภูมิภาค Zaporozhye 

กระทรวงกลาโหมรัสเซียย้ำว่าข้อมูลที่เผยแพร่โดยสื่อยูเครนและตะวันตกเกี่ยวกับอาสนวิหารในเมืองโอเดสซาที่ยูเครนกล่าวหาว่าได้รับความเสียหายจากการโจมตีของรัสเซียนั้นไม่เป็นความจริง เป็นระบบป้องกันภัยทางอากาศของยูเครนที่ตั้งอยู่ในที่พักอาศัยของชาวบ้านตกลงมาเอง

“ข้อมูลที่เผยแพร่โดยรัฐบาลเคียฟเกี่ยวกับการถล่มอาสนวิหารแปลงร่างในโอเดสซาอันเป็นผลมาจากการใช้อาวุธที่มีความแม่นยำนั้นไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นจริง สิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดที่ถูกกำหนดให้ทำลายและถูกทำลายในคืนวันที่ ๒๓ กรกฎาคมที่ผ่านมา ซึ่งรัฐบาลเคียฟร่วมกับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ กำลังเตรียมปฏิบัติการก่อการร้ายเพื่อต่อต้านสหพันธรัฐรัสเซีย เป็นที่ตั้งอยู่ในระยะที่ปลอดภัยห่างจากกลุ่มอาสนวิหาร” 

“แผนการของรัสเซียที่จะโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางทหารและการก่อการร้ายของยูเครนนั้นมาจากข้อมูลที่ “ได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน” และผ่านการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วน “จงใจหลีกเลี่ยงสิ่งอำนวยความสะดวกของพลเรือนที่โดดเด่น” รวมถึงแหล่งมรดกทางวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์มาโดยตลอด

วาดิม สกิบิตสกี้(Vadim Skibitsky) รองหัวหน้าแผนกหลักของหน่วยข่าวกรองยูเครน (GUR) กล่าวว่ารัสเซียดำเนินการปรับปรุงขีปนาวุธ Kh-22 ให้ทันสมัย ​​ซึ่งหลังจากนั้นก็กลายเป็น Kh-32 รวมทั้งขีปนาวุธต่อต้านเรือ Onyx ได้รับการปรับปรุงให้ทันสมัย ​​ส่งผลความแม่นยำที่เพิ่มขึ้นอย่างมากและกำลังใช้โจมตีโอเดสซาอยู่อย่างต่อเนื่อง การป้องกันทางอากาศของยูเครนแสดงให้เห็นว่าไม่สามารถต้านทานการโจมตีโดยใช้อาวุธประเภทนี้ได้อย่างสมบูรณ์

ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ข่าวล่าจากแนวหน้าพบว่ามีการยอมจำนนจากทหารยูเครนอีกแล้ว กองกำลังรัสเซียจับทหารยูเครน ๓๑ นายในวันเดียว

แอนเดรีย มอร์ดวิเชฟ(Andrey Mordvichev) ผู้บัญชาการศูนย์ Battlegroup ของรัสเซียให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์โซโลวิยอฟ ไลฟ์(Soloviov Live) เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “เราจับทหารยูเครน ๓๑ นายเมื่อวานนี้เพียงลำพัง บางคนยอมจำนน บางคนถูกจับในสนามรบ” 

จากข้อมูลของ Mordvichev นักโทษชาวยูเครนรู้สึกประหลาดใจที่พวกเขาไม่ถูกทรมานขณะถูกจองจำ เพราะโฆษณาชวนเชื่อของเคียฟทำให้พวกเขาหวาดกลัวด้วยการทรมานและการปฏิบัติที่ไม่เหมาะสม “นักโทษจำนวนมากกลับไปยูเครน เพื่อถูกส่งไปยังแนวหน้าอีกครั้ง พวกเขาเล่าให้ฟังว่าพวกเขาได้รับการปฏิบัติอย่างไรในคุกรัสเซีย และทำให้แนวคิดก็เปลี่ยนไป หลายคนถึงกับขอร้องว่า “โปรดอย่าปล่อยเราไปยูเครน” พวกเขาเข้าใจว่าหลังจากการแลกเปลี่ยน พวกเขาจะถูกส่งไปยังแนวหน้าอีกครั้งอย่างไม่อาจปฏิเสธได้”