สวนปากเมกา!! ปูตินเย้ยนาโต้ วันเดียวทุบเสือดาว ๑๕ แบรดลีย์ ๒๐ ขยี้ทหารต่างชาติ ดับแล้วเกือบ ๕,๐๐๐

0

ปธน.ปูตินเพิ่งประกาศไปหมาดๆว่า “โจมตีเบลารุสเท่ากับรบกับรัสเซีย” สื่อรายงานการพบกันของสองผู้นำที่รัสเซีย ขณะที่ปูตินประเมินความสูญเสียจากการตอบโต้ของเคียฟกับลูกาเชนโกว่าจำนวนฮาร์ดแวร์ตะวันตกถูกทำลายในยูเครนมากเป็นประวัติการณ์ สูญเสียกำลังพลของยูเครนกว่า ๒๖,๐๐๐ นายและทหารต่างชาติอีกเกือบ ๕,๐๐๐ ที่สำคัญทหารต่างชาติที่มาดับลงในสนามรบสงครามตัวแทนยูเครนมากันอย่างโง่เขลาเป็นกลุ่มใหญ่ ไม่ได้ทั้งเงินเสียทั้งชีวิต

การพูดของผู้นำรัสเซียเท่ากับตบหน้า แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ที่ให้สัมภาษณ์เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่ายูเครนทวงดินแดนที่ถูกรัสเซียยึดไป กลับมาได้แล้วราว ๕๐% แต่ขณะเดียวกันยอมรับว่าปฏิบัติการโจมตีตอบโต้ของเคียฟยังล่าช้าและจะยืดยาวต่อไปอีกหลายเดือน เรียกว่าโกหกแบบด้านสุดๆไม่ต้องละอายปากกันแล้ว

วันที่ ๒๔ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ปธน.ปูตินพบกับประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโกแห่งเบลารุส(Alexander Lukashenko) ในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก โดยอ้างการประเมินข่าวกรองของสหรัฐฯ ว่ากองทัพยูเครนได้ “ สูญเสียมากที่ไม่สามารถทดแทนได้” จำนวน ๒๖,๐๐๐นาย ซึ่งปูตินกล่าวว่า “ความจริงมันมากกว่านั้น”

กองกำลังรัสเซียยังได้กำจัดนักรบต่างชาติจำนวนมากในยูเครน เขากล่าว “ทหารรับจ้างต่างชาติ ก็ประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่เช่นกัน เพราะความโง่เขลาของพวกเขา”

ปูตินกล่าวว่า “ประชาชนในประเทศที่รัฐบาลส่งคนไปยังเขตสงคราม  ควรรู้ด้วยว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น และเราจะแจ้งให้ประชาชนทราบเพื่อให้พวกเขาสามารถประเมินการดำเนินการของผู้กำหนดนโยบายของตนได้”

นอกจากนี้ กองทัพรัสเซียได้ทำลายรถถังและยานเกราะที่จัดหาโดยตะวันตกของยูเครน ในจำนวนที่มากเป็นประวัติการณ์ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา ในขณะเดียวกันก็ขับไล่การตอบโต้ที่รุนแรงของเคียฟในทุกเส้นทางแนวหน้า

กองกำลังของมอสโกว์ได้ทำลายรถถัง Leopard ที่ผลิตในเยอรมันอย่างน้อย ๑๕ คัน และยานรบทหารราบ Bradley ที่ผลิตในสหรัฐฯ กว่า ๒๐ คันในการปะทะกันเพียงครั้งเดียวในวันเดียว

ปูตินกล่าวว่า”เห็นได้ชัดว่าเราไม่เคยทำลายล้างยุทโธปกรณ์ศัตรูได้มากขนาดนี้ในวันเดียว”

คำพูดของปูตินมีขึ้นหลังจากเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ช่องเทเลแกรมหลายช่องได้เผยแพร่วิดีโอที่ไม่ได้รับการยืนยัน ซึ่งแสดงให้เห็นกลุ่มยานเกราะแบรดลีย์จำนวน ๔ ตัวที่แน่นขนัด และเห็นได้ชัดว่าถูกทำลายโดยกองกำลังรัสเซียในเขตซาโปริชเชีย

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์รายงานว่า กองทัพยูเครนสูญเสียยุทโธปกรณ์ในสนามรบไป ๒๐% รวมถึงยานพาหนะจำนวนมากที่จัดหาโดยตะวันตก ในช่วงสองสัปดาห์แรกของการโจมตี ซึ่งมอสโกว์ระบุว่าไม่สามารถทำอะไรแนวป้องกันที่แข็งแกร่งของรัสเซียได้เลย เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคมที่ผ่านมา เซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียประเมินการสูญเสียยุทโธปกรณ์ทางทหารของยูเครน  ๑ เดือนทำลายไป ๓,๐๐๐ หน่วย

ในขณะเดียวกัน รายงานของสื่ออื่นๆ หลายฉบับระบุว่าผู้สนับสนุนฝ่ายตะวันตกของเคียฟตื่นตระหนกกับความคืบหน้าอย่างเชื่องช้าของยูเครนในสนามรบ โดยบทความล่าสุดของ Wall Street Journal อ้างว่าพวกเขา “ตกใจ” เช่นกันจาก “การสูญเสียชุดเกราะอย่างรวดเร็ว” ในขณะที่กลาโหมรัสเซียนำภาพซากพังของยานเกราะแบรดลีย์มาเผยแพร่ เจ้าหน้าที่ยูเครนจำนวนมากพยายามอธิบายความยากลำบากในการรุกโดยชี้ไปที่ความล่าช้าในความช่วยเหลือทางทหารของชาติตะวันตก ไม่กล้ายอมรับความจริงว่าฝีมือและแผนการณ์รบสู้ทางรัสเซียไม่ได้

ก่อนหน้านี้ปูตินกล่าวถึงความสูญเสียของยูเครนระหว่างการต่อต้านว่าล้มเหลวในการได้รับชัยชนะใดๆว่าเป็น”หายนะ”และสูญเสียมากกว่ารัสเซียถึง ๑๐ เท่า

สำหรับการสูญเสียทหารต่างชาติที่รับใช้ยูเครน กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า นับตั้งแต่ความขัดแย้งเริ่มขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ กองกำลังของมอสโกว์ได้กำจัดทหารรับจ้างต่างชาติราว ๔,๙๙๐ นาย โดยมีอีก ๔,๙๑๐ นายพยายามหลบหนีออกจากประเทศที่ถูกสู้รบ

Lukashenko เสนอว่าควรตำหนิกลยุทธ์ที่มีข้อบกพร่องซึ่งเกี่ยวข้องกับ ” การเดินทัพเป็นกลุ่มใหญ่ ” ปูตินตอบว่า”นั่นเพราะความโง่เขลาของพวกเขาเอง”

ปูตินวิจารณ์กลยุทธ์เคียฟ-นาโต้ที่โหมกำลังคนเป็นหลักเดินหน้าเข้าสู่กับดักทั้งๆที่โดนมาหลายครั้ง ยังสั่งให้ฝืนฝ่าดงทุ่นระเบิด เป็นเหตุให้สูญเสียมากอย่างน่าตกใจ แล้วก็ต้องใช้วิธีไล่ล่าชาวยูเครนในหัวเมืองต่างๆมาเข้าเป็นทหารอย่างที่ชาวบ้านไม่เต็มใจ ล่าสุดที่เมืองลวีฟเริ่มมีกระแสต่อต้านหน่วยทหารที่เข้ามาระดมพล คาดว่าจะเกิดขึ้นอีกหลายแห่งอย่างหลีกเลี่ยงไม่พ้น ขณะเดียวกันการระดมทหารรับจ้างจากต่างประเทศจึงกลายเป็นกระแสหลักในการหาทางเพิ่มกำลังทหาร

มอสโกว์เตือนมาโดยตลอดความขัดแย้งว่า ทหารรับจ้างต่างชาติจะไม่ถูกมองว่าเป็นนักสู้ภายใต้กฎหมายระหว่างประเทศ และ“สิ่งที่ดีที่สุดที่รอพวกเขาอยู่ หากพวกเขาถูกจับทั้งเป็นคือ การพิจารณาคดีและโทษจำคุกขั้นสูงสุด”