จากที่บรรดาชาติยุโรปพากันคว่ำบาตรพลังงานรัสเซีย ก่อนที่จะแอบสั่งซื้อกันเพราะประสบปัญหาวิกฤติในประเทศ โดยเฉพาะเยอรมัน มหาอำนาจเศรษฐกิจของยุโรปที่ต้องพ่ายแพ้ให้กับประเทศในเอเซียอย่างประเทศไทย
ล่าสุดวันที่ 23 กรกฎาคม 2566 Blockdit World Update ได้ออกมาโพสต์ข้อความระบุถึงสถานการณ์ของชาติยุโรปที่เกี่ยวเนื่องมาถึงประเทศไทยว่า
“เยอรมนี ชาติในสหภาพยุโรป ที่เป็นยี่ปั้วรับพลังงานราคาถูกรัสเซียรายใหญ่ไปขายต่อกินกำไรส่วนต่างให้กับชาติในทวีปยุโรปตะวันตกมาช้านาน ส่วนเยอรมนีเองได้ใช้พลังงานในราคาต่ำกว่าเพื่อน
ส่งผลให้เยอรมนีมีความเจริญรุ่งเรืองทางอุตสาหกรรม มีขนาดเศรษกิจใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป จนถึงปี 2564 เศรษฐกิจ GDP ของเยอรมนี ขยายตัว 2.7%
ปี 2565 เยอรมนี ต้องการล้างอาย และต้องการแย่งชิงพลังงาน เหมือนคราบรรพบุรุษที่เคยพ่ายแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ต่อสหภาพโซเวียต จึงเป็นแกนหลักฝ่ายสัมพันธมิตร ทำสงครามกับรัสเซีย ในสมรภูมิยูเครน
เยอรมนี รู้เห็นในการหลับตาให้สหรัฐ และนอร์เวย์ระเบิดท่อก๊าซ Nord Stream ทำให้ตั้งแต่นั้นมา เยอรมนีก็ยุติการเป็นยี่ปั้วพลังงานรัสเซีย เศรษฐกิจถดถอยดิ่งหัวรูดลงทันที
ข้อมูลจากองค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) รายงานคาดว่า ปี 2566 เศรษฐกิจของเยอรมนี จะซบเซา อัตราการขยายตัว GDP ทางเศรษฐกิจ 0% คือนิ่งสนิทไม่ขยายตัวใดๆ เลย
ล่าสุดนายโรเบิร์ต ฮาเบค รัฐมนตรีเศรษฐกิจเยอรมนี เดินทางไปขอร้องให้อินเดียละทิ้ง ความเป็นกลาง เข้าร่วมฝ่ายยุโรปทำสงครามกับรัสเซีย และคว่ำบาตรไม่ซื้อพลังงานรัสเซียด้วย แต่อินเดียปฏิเสธไม่สนใจ
เพราะปี 2565-2566 กระทรวงพาณิชย์อินเดีย รายงานว่าเข้าน้ำมันดิบเกือบ 32 ล้านตันจากรัสเซีย ผลที่ตามมาคือปี 2566 อินเดีย เศรษฐกิจ GDP จะเติบโตเร็วที่สุดราว 6% และอินเดียยังนำเข้าอาวุธรัสเซียในสัดส่วน 40% อีกด้วย
ไม่ต่างจากจีน ที่ปี 2566 เศรษฐกิจ GDP จะเติบโตเร็วที่สุดราว 6.3% ไม่มีการหดตัวใดๆ ตามที่สื่อตะวันตกประโคมข่าวให้ร้าย โดยสรุปคือ ชาติในกลุ่ม BRICS และพันธมิตรร่ำรวยมั่งคั่ง เศรษฐกิจขยายตัวดีถ้วนหน้า
แต่ชาติในกลุ่ม G7 จนกรอบไร้ทรัพย์ เศรษฐกิจถดถอยซบเซา ถึงขนาด 0% ไปแล้ว , ที่สุดอึ้งคือ ไทยมีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศ บวกทองคำมากถึง 202,600 ล้านดอลาร์ (6.97 ล้านล้านบาท) ร่ำรวยอันดับ 11 ของโลก
เฉพาะเงินทุนสำรองระหว่างประเทศอย่างเดียวสูงอันดับ 12 ของโลก GDP เศรษฐกิจไทยปี 2566 จะขยายตัว 3.5% นั่นหมายความว่าฐานะความมั่งคั่งทางการเงินของไทย อยู่เหนือกว่าเยอรมนีไปแล้ว
แถมไทยมั่งคั่งอยู่เหนือฝรั่งเศส และชาติในสหภาพยุโรปทุกชาติ รวมทั้งมั่งคั่งเหนือกว่าอังกฤษ และสหรัฐ ด้วยซ้ำที่ไม่ติดอันดับชาติมั่งคั่ง Top15 ของโลก
การจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้วของจีน-รัสเซีย หมุนโลกกลับตาลปัตรความมั่งคั่งไหลออกจากชาติตะวันตก ทะลักมาสู่เอเซียหมดแล้วแน่นอน”