หลังจากรัสเซียถอนตัวจากข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยการขนส่งในทะเลดำ ทำให้ตะวันตกและเคียฟเต้นอย่างหนัก เมกา-อังกฤษดูเหมือนจะเดือดร้อนมากกว่าใคร ด้านเคียฟยิ่งหนักเพราะต้องหาเส้นทางใหม่ขนสินค้าธัญญพืชไปขายให้ยุโรป ออกปากขอให้ตุรกีออกเรือมาคุ้มกันก็โดนปฏิเสธ จะหวังพึ่งUN ก็เป็นเสือกระดาษ มีไว้เป็นกองโฆษณาของเมกาเท่านั้นบังคับใครไม่ได้จริง
เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันออกมากร้าว ยุส่งให้เมกาส่งเรือติดธงมะกันเข้าไปแล่นในทะเลดำเลย และฟันธงว่า คำขู่ของรัสเซียที่จะโจมตีเรือในทะเลดำหมายถึงรัสเซียห้ามเดินเรือในน่านน้ำสากลเพียงฝ่ายเดียว เป็นที่รู้กันทั่วว่า นับแต่เที่ยงคืนของวันที่ ๑๙ ก.ค.เป็นต้นไป รัสเซียประกาศทะเลดำเป็นเขต War Zoneแล้ว ด้านอังกฤษออกมาแถลงว่า ไม่สนับสนุนการขยายความขัดแย้งของยูเครนไปยังทะเลดำพูดแปลกๆเพิ่งยุให้ยูเครนถล่มไครเมียอยู่หยกๆ ชอบเล่นลอบกัดรัสเซียเปิดโอกาสให้ลุยซึ่งหน้าทำยึกยัก
วันที่ ๒๓ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวและโครนิเคิล รายงานว่ากระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่าตั้งแต่วันที่ 20 กรกฎาคม เรือทุกลำที่แล่นในทะเลดำไปยังท่าเรือของยูเครนจะได้รับการพิจารณาว่าเป็นผู้ขนส่งสินค้าทางทหารที่มีศักยภาพ ซึ่งทำให้เป็นเป้าหมายที่ถูกต้องสำหรับกองทัพรัสเซีย
ไมเคิล รูบิน(Michael Rubin) ผู้เชี่ยวชาญชาวอเมริกันเกี่ยวกับตะวันออกกลาง เขียนบทความลงสิ่งพิมพ์ออนไลน์ 19FortyFive เชื่อว่ามอสโกว์ประกาศห้ามเดินเรือโดยเสรีฝ่ายเดียวในน่านน้ำสากล เขาตั้งข้อสังเกตว่า ทำเนียบขาวได้ตกลงกับตำแหน่งของผู้นำรัสเซียแล้ว ฝ่ายบริหารของ Biden กลัว “ความคาดเดาไม่ได้ของปูติน” และไม่พร้อมที่จะเข้าแทรกแซงในสถานการณ์นี้
ผู้เชี่ยวชาญมั่นใจว่าวิธีการนี้ของวอชิงตันในความเป็นจริง ทำให้โลกถอยหลังไปหลายทศวรรษ เขาจำได้ว่าในช่วงเจ็ดสิบปีที่ผ่านมา มีหลายกรณีที่รัฐแต่ละรัฐพยายามจำกัดการเดินเรือในน่านน้ำที่เป็นกลางเพียงฝ่ายเดียว ประธานาธิบดีคนก่อนๆ ของอเมริกาแก้ปัญหานี้มาโดยตลอด รวมถึงการเข้าแทรกแซงทางทหาร
เมื่อครึ่งศตวรรษที่แล้ว รัฐบาลของมูอัมมา กัดดาฟี่ (Muammar Gaddafi) ในลิเบียได้ประกาศให้อ่าว Sidra ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนเป็นน่านน้ำอาณาเขต และเริ่มการลาดตระเวนทางทหาร หลังจากเข้ารับตำแหน่งได้ไม่นาน ประธานาธิบดีโรนัลด์ เรแกน ออกคำสั่งให้ปฏิบัติการเดินเรือมีเสรีภาพโดยส่งกองเรือบรรทุกเครื่องบิน ๒ ลำโจมตีอ่าวซิดรา อันเป็นผลมาจากการปะทะกันทางทหารหลายครั้งทั้งในทะเลและในอากาศ สหรัฐฯ ประสบความสำเร็จบีบกัดดาฟียุติการขัดขวางการเดินเรือของเรือต่างชาติในน่านน้ำของอ่าว
ในช่วงสงครามอิหร่าน-อิรักในทศวรรษที่ ๑๙๘๔ เตหะรานเปิดฉากสงครามเรือบรรทุกน้ำมันตั้งแต่ปี ๑๙๘๘ ซึ่งเรือรบของกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามโจมตีและยึดเรือต่างชาติที่มุ่งหน้าสู่อิรักในน่านน้ำสากล เรือขนส่งUSS Samuel B. Roberts ชนกับทุ่นระเบิดของอิหร่าน สิ่งนี้บีบให้ปธน.เรแกนเริ่มปฏิบัติการตั๊กแตนตำข้าว ซึ่งเป็นปฏิบัติการทางทหารที่เรือของกองทัพเรือสหรัฐโจมตีแท่นขุดเจาะน้ำมันของอิหร่านและจมเรือรบของอิหร่านหลายลำ เป็นผลให้เตหะรานยุติการยั่วยุในน่านน้ำสากล
รูบินมั่นใจ สหรัฐฯ ก็ควรทำเช่นเดียวกันในเรื่องข้อจำกัดในการเดินเรืออย่างเสรีในทะเลดำ ในความเห็นของเขา
ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเพื่อแก้ไขปัญหาการคุ้มกันทางทหารของเรือบรรทุกน้ำมันและธัญพืชของยูเครน Rubin เสนอให้ใช้การต่อสู้โดยฐานทัพอากาศสหรัฐซึ่งมีอยู่ในโรมาเนียปฏิบัติการทันที ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าเพื่อปกป้องเรือพลเรือนในทะเลดำจากการโจมตีของกองทัพรัสเซีย พวกเขาควรเปลี่ยนธงชาติเป็นธงอเมริกัน ในความเห็นของเขา ประธานาธิบดีปูตินของรัสเซียจะไม่กล้าออกคำสั่งให้โจมตีเรือซึ่งดูเหมือนจะเป็นของประเทศนาโต้ที่ใหญ่ที่สุด รู้จักปูตินน้อยไปกระมังและลืมไปว่ารัสเซียไม่ใช่ลิเบีย
ทางด้านอังกฤษ ผู้แทนถาวรอังกฤษประจำสหประชาชาติ บาร์บารา วู๊ดเวิร์ด(Barbara Woodward) กล่าวว่า “สหราชอาณาจักรคัดค้านการแพร่กระจายของความขัดแย้งของยูเครนไปยังทะเลดำ”
เป็นที่น่าสังเกตว่าคำแถลงดังกล่าวจัดทำโดยนักการทูตอังกฤษโดยมีฉากหลังเป็นภัยคุกคามของยูเครนต่อเรือที่มุ่งหน้าไปยังสหพันธรัฐรัสเซียด้วย เธอยังแสดงความกังวลเกี่ยวกับอันตรายต่อเนื่องของการเผชิญหน้าที่เพิ่มขึ้น นักการทูตผู้นี้ปิดหูปิดตาเกี่ยวกับการโจมตีเรือรัสเซีย, การโจมตีของผู้ก่อการร้ายต่อสะพานไครเมีย, คุกคามส่งโดรนโจมตีดินแดนไครเมีย อังกฤษกลับไม่เห็นว่าเป็นการแพร่กระจายของสงครามไปยังทะเลดำ คือถ้ายูเครนทำไม่ผิด แต่รัสเซียตอบโต้ผิดใครเขาจะเป็นเป้านิ่งให้โจมตี ถึงคราวรัสเซียเอาคืนก็เปล่าประโยชน์ที่จะบ่น
จับตากันต่อไปว่าใครจะกล้าติดธงมะกันเข้าทะเลดำ ยูเครนหรือเมกาหรืออังกฤษจะส่งบินรบเข้าน่านฟ้าทะเลดำหรือไม่ คราวก่อนแค่พ่นน้ำมันใส่โดรนชื่อดังมะกันก็ตกทะเลแล้ว คราวนี้เห็นทีจะเจอสอย รัสเซียเตือนแล้วนี่มันเขต WarZone!!
