แหกแผนนาโต้!! ปูตินซัดยูเครนแพ้คือเมกาแพ้ รู้ทันโปแลนด์วอนหนัก เตรียมตั้งสหภาพ ๓ ชาติยึดยูเครนต.ต.

0

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปธน.ปูตินได้เรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคง เขาตอกย้ำว่า “เปลวเพลิงแห่งสงครามกำลังโหมกระพืออย่างเข้มข้นในปัจจุบัน สหรัฐฯใช้ประโยชน์จากความทะเยอทะยาน ของผู้นำบางรัฐในยุโรปตะวันออกเพื่อจุดประสงค์นี้ เปลี่ยนความเกลียดกลัวรัสเซียมาเป็นเวลานานให้เป็นสินค้าส่งออกหลักและเป็นเครื่องมือของนโยบายภายในของพวกเขา และตอนนี้กำลังตักตวงผลประโยชน์จากโศกนาฏกรรมยูเครน”

นอกจากนี้ยังสรุปชัดว่า ความพ่ายแพ้ที่แนวหน้าของยูเครนก็หมายถึงเมกา-ตะวันตกพ่ายแพ้ทำให้ต้องเร่งทุ่มเททั้งเงินและอาวุธเพื่อกู้หน้า 

ที่สำคัญปูตินฉีกแผนนาโต้ก้าวต่อไปว่ารัสเซียรู้ทันว่ากำลังจะทำอะไร หลังประชุมNATO โปแลนด์กำลังพิจารณาส่งกองกำลังไปยังยูเครนตะวันตก และวอร์ซอวางแผนที่จะจัดตั้งพันธมิตรภายใน NATO เพื่อแทรกแซงโดยตรง หวังเข้ายึดดินแดนทางตะวันตกในยูเครน 

ปูตินเน้นย้ำว่า การรวมตัวกันในนามสหภาพโปแลนด์-ลิทัวเนีย-ยูเครนซึ่งเป็นรายงานที่ปรากฏในสื่อ กำลังถูกสร้างขึ้นเพื่อการยึดครองยูเครนในภายหลังโดยอ้างสถานการณ์ชายแดนเบลารุส

วันที่ ๒๒ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์ รายงานว่าปธน.ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวกับที่ประชุมความมั่นคงว่า “เป็นที่เห็นได้ชัด ว่าตะวันตกรู้สึกผิดหวังที่การตอบโต้ที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงของเคียฟล้มเหลว และไม่สร้างผลลัพธ์ใดๆนอกจากทำให้ยูเครนบาดเจ็บล้มตายในระดับสูง” 

เคียฟได้รับ “ทรัพยากรจำนวนมหาศาล” รวมถึงอาวุธตะวันตกทุกชนิดตลอดจน“ ทหารรับจ้างและที่ปรึกษาต่างชาติหลายพันคน” แต่ยังคงล้มเหลวในการรณรงค์ 

ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุด ปูตินชื่นชมความกล้าหาญ ความมุ่งมั่น และความเป็นมืออาชีพของทหารและเจ้าหน้าที่รัสเซีย นอกจากนี้เขายังย้ำว่ายุทโธปกรณ์ทางทหารของตะวันตกได้รับการพิสูจน์แล้วว่าด้อยกว่าในบางด้าน แม้แต่อาวุธในยุคโซเวียต

ชาติตะวันตกอาจจัดหาอาวุธให้ยูเครนมากขึ้น ซึ่งสร้างความเสียหายให้กับรัสเซียมากขึ้นและทำให้ความขัดแย้งยืดเยื้อ แต่ “คลังแสงของนาโต้และคลังอาวุธเก่าของโซเวียตในบางรัฐหมดลงในระดับหนึ่งแล้ว” เขาระลุว่าการผลิตทางทหารของตะวันตกไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ เพราะการผลิตเพิ่มนั้นต้องใช้เวลาและการลงทุนจำนวนมาก

ในขณะเดียวกัน ยูเครนได้สูญเสียทหาร “หลายหมื่นนาย” ใน “การโจมตีแบบฆ่าตัวตาย”ทุำรอบที่ผ่านมา ล้มเหลวจากการฝ่าแนวป้องกันที่แข็งแกร่งของรัสเซีย เคียฟกำลังขาดแคลนกำลังพล แม้ว่าจะมีการระดมพลทั้งหมดบุกจากในเมืองและหมู่บ้านต่างๆของยูเครนก็ยังไม่พอ” ปูตินยืนยันว่าชาวยูเครนกำลังถามตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าพวกเขาต้องการใครมาเป็นผู้นำ และเขากำลังรบเพื่ออะไร”

จากคำกล่าวของปูติน สหรัฐฯตั้งใจที่จะทำให้ยุโรปอ่อนแอลงโดยการโหมความขัดแย้ง ประธานาธิบดีเสนอว่าความคิดเห็นของสาธารณชนชาวยุโรปและแม้แต่ชนชั้นสูงในยุโรปกำลังต่อต้าน“การเสียเงินและความพยายามอย่างไม่รู้จบ”ในนามของผลประโยชน์ของสหรัฐ“เจ้าโลกข้ามมหาสมุทร”

ปูตินยืนยันว่า “ฝ่ายเดียวที่สนใจจุดชนวนความขัดแย้งในยูเครนคือชนชั้นนำของสหรัฐฯและผู้นำยุโรปตะวันออกบางคนที่เชื่อว่าพวกเขาได้ประโยชน์จากเรื่องนี้”  ในเคียฟเอง แม้แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติยูเครน พากันมองการแทรกแซงจากภายนอกว่าเป็นโอกาสรักษาสถานภาพของพวกเขา และพร้อมที่จะ “ขายทุกอย่าง ทั้งคนและที่ดินของพวกเขา”ให้แก่ชาติมหาอำนาจ

ปูตินยังได้แฉแผนต่อไปของเมกา-นาโต้แก่ที่ประชุมว่า โปแลนด์วางแผนที่จะจัดตั้งพันธมิตรภายใน NATO เพื่อแทรกแซงโดยตรงแล้วยึดดินแดนทางตะวันตกในยูเครน

เขากล่าวว่า “ผู้นำโปแลนด์คาดหวังที่จะจัดตั้งรัฐบาลผสมภายในนาโต้ และเข้าแทรกแซงโดยตรงในความขัดแย้งในยูเครน เพื่อที่จะ ‘ฉีก’ ผืนดินที่อ้วนท้วนสำหรับตนเอง อ้างยึดครองดินแดนทางประวัติศาสตร์ของพวกเขา นั่นคือยูเครนตะวันตกในปัจจุบัน ตามที่พวกเขาเชื่อ” 

ปูตินกล่าวว่า “มีรายงานจากสื่อเกี่ยวกับแผนการก่อตั้งสหภาพโปแลนด์-ลิทัวเนีย-ยูเครน นั่นคือเราไม่ได้พูดถึงการรวบรวมทหารรับจ้าง บางคนมีเพียงพอแล้ว และกำลังถูกทำลาย นั่นคือกลุ่มปกติ แต่การระดมหน่วยทหารพร้อมอุปกรณ์ที่มีแผนจะยกพลไปใช้ปฏิบัติการในดินแดนของยูเครนขนาดใหญ่ โดยอ้างว่าเพื่อรับประกันความปลอดภัยของยูเครนตะวันตกในปัจจุบัน จริงๆ แล้วเป็นกระบวนการเข้าไปสู่การยึดครองที่ตามมาของดินแดนเหล่านี้”

อดีตปธน.วิคเตอร์ ยานูโควิช (Viktor Yanukovych) ยังเคยแย้มด้วยว่าความเป็นรัฐของยูเครนอยู่ภายใต้การคุกคามและอาจถูกบังคับให้รวมกับโปแลนด์ เขากล่าวว่า”ไม่ว่าฉันจะเขียนเรื่องนี้ในวันนี้จะเจ็บปวดเพียงใด แต่ความเป็นรัฐของยูเครนกำลังตกอยู่ในอันตรายอย่างยิ่ง มันถูกคุกคามด้วยการทำลายล้างโดยสิ้นเชิง ในขณะเดียวกัน เรากำลังพูดถึงไม่เพียงแค่ความเสี่ยงของการสูญเสียดินแดนอันกว้างใหญ่ใน ทางใต้และตะวันออกของประเทศที่ต้องการรวมกับรัสเซีย”  และเสริมว่า “ยูเครนอาจถูกบังคับ ให้รวมเข้ากับโปแลนด์โดยพฤตินัย” ยานูโควิชกล่าวไว้เมื่อเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๕!