จากเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2566 Blockdit World Update เปิดเผยถึงเหตุการณ์บริเวณท่าเรือสำคัญของยูเครน ที่โดนโจมตีได้รับความเสียหาย ซึ่งกำลังเป็นที่จับตากันว่า รัสเซียจะปฏิบัติการอย่างไรต่อไป และฝ่ายยูเครนเองจะรับมือได้หรือไม่
ทั้งนี้รายละเอียดบางส่วนที่ Blockdit World Update ได้ออกมาระบุว่า “ภายหลัง 1 เดือนแห่งความพ่ายแพ้ในการบุกตีหาเรื่องชายแดนชั้นแรกรัสเซีย แค่ 15 กิโลเมตร ก็ยังไม่สามารถเจาะผ่านด่านโหดไปได้ เสมือนวิ่งเอาหัวไปโขกกำแพง ทำฝ่ายสัมพันธมิตร NATO อับอายและเครียดจัด
จึงตัดสินใจแก้หน้าโดยการใช้เส้นทางขนส่งธัญพืชทางทะเลดำ ที่รัสเซียเว้นวรรคไว้ให้ ลอบส่งโดรนทะเลของอังกฤษ และสอดแนมโดยอากาศยานโดรนสหรัฐ ระเบิดใต้สะพานไครเมีย เสียหายบางส่วน
ทำให้รัสเซีย หัวร้อนยกเลิกข้อตกลงรับประกันความปลอดภัยธัญพืช จากท่าเรือโอเดสซา ยูเครน ผ่านทะเลดำ ในช่วงหลายวันที่ผ่านมากองทัพรัสเซีย ใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ Tu-95MS ปล่อยขีปนาวุธ Kh-555/101
ปล่อยโดรน Geran-2 จากหลายทิศทาง มุ่งเป้าถล่มไปที่โรงงานต่างๆ และคลังเก็บเชื้อเพลิง ในแคว้นโอเดสซา น้ำหนักเชื้อเพลิงราว 70,000 ตัน เกิดระเบิดไฟลุกไหม้ครั้งใหญ่ และยังถล่มแคว้นนี้ และแคว้นนิโคลาเยพไม่หยุด
ขณะที่ในวันเดียวกัน ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้โพสต์ข้อความลง Blockdit ถึงกรณีดังกล่าวด้วยว่า “รัสเซียถล่มโครงสร้างพื้นฐานที่โอเดสซา:
ตามแผนเดิม รัสเซียจะค่อยๆ บดกองทัพยูเครนไปทีละขั้นสองขั้น แต่พอยูเครนไปถล่มสะพานไครเมียรัสเซียเข้าเท่านั้นแหละ เจอสวนเลย หนักกว่าเดิมเป็นร้อยเท่า คลิปที่เห็นคือโครงสร้างพื้นฐานที่เมืองโอเดสซาโดนถล่ม ทั้งขีปนาวุธ Kh-22 ยิงจากเครื่องบินรบ, ทั้งขีปนาวุธกาลิบร์จากเรือรบที่ทะเลดำและจากโดรน
ไม่เพียงโอเดสซาในภาคใต้ เมืองซาปอโรเชียในภาคตะวันออกเฉียงใต้ เมืองคาร์กอฟ ซึ่งอยู่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมืองดนีปรอ ซึ่งตั้งอยู่ตอนกลางค่อนไปทางตะวันออก เมืองกูปิยันสก์และเมืองลิมันซึ่งอยู่ทางภาคตะวันออก ไม่เว้นแม้แต่กรุงเคียฟ ต่างโดนถล่มถ้วนหน้า ตะวันตกจะได้จำเอาไว้”
นอกจากนี้สื่อต่างประเทศยังรายงานด้วยว่า ประธานาธิบดีโวโลดีมาร์ เซเลนสกี ของยูเครน ออกมาโพสต์ข้อความผ่านแอปเทเลแกรม กล่าวหาว่า “พวกผู้ก่อการร้ายรัสเซียมีความจงใจอย่างเต็มที่ในการพุ่งเป้าเล่นงานใส่โครงสร้างพื้นฐานของข้อตกลงธัญพืช”
พร้อมกับโวยว่า ขีปนาวุธรัสเซียทุกๆ ลูก ไม่เพียงถล่มใส่ยูเครนเท่านั้น แต่ยังเป็นการถล่มใส่ทุกๆ คนในโลกซึ่งต้องการชีวิตที่ปกติและปลอดภัย
ด้าน มีโคลา โวลสกี รัฐมนตรีเกษตรระบุว่า โครงสร้างพื้นฐานเพื่อการส่งออกธัญพืชที่ท่าเรือโครโนมอร์สก์ ที่ตั้งอยู่ทางด้านตะวันตกเฉียงใต้ของโอเดสซา ได้รับความเสียหายไปหลายส่วน รวมทั้งมีธัญพืช จำนวน 60,000 ตันถูกทำลาย
เซอร์ฮีย์ บรัตชุค โฆษกสำนักงานบริหารฝ่ายทหารในแคว้นโอเดสซา ระบุทางข้อความเสียงผ่านช่องเทเลแกรมว่า การโจมตีคราวนี้ รุนแรงมาก ใหญ่โตจริงๆ และ มันเป็นคืนแห่งนรกแตก
อย่างไรก็ตามกองบัญชาการทหารภาคใต้ของยูเครน กล่าวว่า การโจมตีคราวนี้รัสเซียได้ใช้พวกขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียง รวมทั้ง Kh-22 ซึ่งออกแบบมาเพื่อใช้ยิงจากเรือบรรทุกเครื่องบิน มาถล่มโครงสร้างพื้นฐานท่าเรือของโอเดสซา
“ท่าเรือ 3 แห่งในแคว้นโอเดสซา คือท่าเรือที่ยังคงมีการดำเนินงานกันอยู่ในยูเครนระหว่างเกิดสงครามคราวนี้ โดยเป็นไปตามข้อตกลงที่มียูเอ็นและตุรกีเป็นคนกลาง ซึ่งมุ่งเปิดทางให้สามารถส่งออกธัญพืชยูเครนผ่านท่าเรือต่างๆ ของยูเครนที่ต่างถูกรัสเซียปิดล้อม”
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454
