จากที่7นักวิชาการนำเรื่องฆ่าตัวตายมาปั่นกับกระแสโควิด-19 โดยอ้าง”การวิจัย”เอาตัวเลขฆ่าตัวตาย 38 คน ระหว่างวันที่1-21 เม.ย.63 มาโยงว่าเป็นเพราะความผิดพลาดของรัฐ ต่อมาสกสว.ออกมาชี้แจง รวมทั้งผอ.ที่ร่อนหนังสือถึงคอลัมนิสต์ด้วย
ทั้งนี้โดยเมื่อวันที่ 24 เม.ย.โครงการวิจัยคนจนเมืองที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองที่กำลังเปลี่ยนแปลง ภายใต้การสนับสนุนของ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) แถลง ผลการรวบรวมข้อมูลผู้เสียชีวิตและคนที่ “ฆ่าตัวตาย” จากไวรัส COVID-19
โดยมีนักวิจัย คือ 1.ศ.ดร.อรรถจักร์ สัตยานุรักษ์ คณะมนุษยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 2.รศ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล คณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ 3.รศ.ดร.ประภาส ปิ่นตบแต่ง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 4.ผศ.ดร.บุญเลิศ วิเศษปรีชา คณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 5.รศ.ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ รองอธิการบดีฝ่ายวิจัย มหาวิทยาลัยทักษิณ 6.ผศ.ดร.ธนิต โตอดิเทพย์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา 7.ผศ.ดร.ธนพฤกษ์ ชามะรัตน์ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
ขณะที่คอลัมนิสต์ชื่อดังแห่งหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ เปลว สีเงิน ได้เขียนบทความถึง7นักวิชาการ เมื่อวันที่ 27 เม.ย.63 ที่ผ่านมา ซึ่งมีบางช่วงที่ระบุถึงผอ.สกสว.ด้วย โดยเป็นการตั้งคำถาม และล่าสุดวันนี้(29เ.ม.ย.63) ศาสตราจารย์ นพ.สุทธิพันธ์ จิตพิมลมาศ ผู้อำนวยการ สกสว.ได้ออกมาชี้แจงเปลว สีเงิน โดยมีข้อความบางช่วงว่า
(เปลว สีเงิน) ๒-๓ วันก่อน ….. ผมคุยเรื่อง “อภินิหาร ๗ อาจารย์เพี้ยน” ประเด็นพาดพิงถึงท่านผู้อำนวยการ สกสว. (สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม) เมื่อวาน (๒๘ เม.ย.๖๓) ท่านกรุณาส่งหนังสือชี้แจง ดังนี้จากกรณีบทความลงในไทยโพสต์ เรื่อง “อภินิหาร ๗ อาจารย์เพี้ยน” เรียน คุณเปลว สีเงิน ที่นับถือ
“ในเรื่อง มาตรฐาน สกสว. ในการให้งบสนับสนุนการวิจัยโครงการ “คนจนเมืองที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองที่กําลังเปลี่ยนแปลง”เนื่องจากมีการแถลงผลการรวบรวมข้อมูลผู้เสียชีวิตและคนที่ฆ่าตัวตายฯ ของคณะนักวิจัย ทางสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ใคร่ขอชี้แจง เพื่อความเข้าใจในข้อเท็จจริง 3 ประเด็น คือ
1.นักวิจัยคณะดังกล่าว เป็นคณะนักวิจัยในโครงการ “คนจนเมืองที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองที่กําลังเปลี่ยนแปลง :การสังเคราะห์ภาพรวม”(Dynamics of Urban Poor in the Changing Urban Society) ซึ่งรับทุนสนับสนุนการวิจัยไว้เมื่อปี พ.ศ.2562 และยังดำเนินการวิจัยอยู่ จึงยังไม่มีรายงานฉบับสมบูรณ์ของการวิจัยดังกล่าว แต่คณะนักวิจัยได้มีข้อค้นพบระหว่างการวิจัยที่คณะนักวิจัยเห็นว่ามีความสำคัญ จึงจัดการแถลงข่าวดังที่ปรากฏ แต่มิใช่ขั้นตอนที่ สกสว.กําหนดให้ดำเนินการ
2.หลักปฏิบัติซึ่งใช้กับทุกโครงการวิจัย และเป็นข้อความที่กําหนดอยู่ในสัญญารับทุนวิจัยด้วย คือ ความเห็นที่เผยแพร่นั้น เป็นของผู้วิจัย สกสว.ไม่จำเป็นต้องเห็นด้วยเสมอไปทั้งนี้ เพราะสำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว. เดิม ซึ่งเปลี่ยนมาเป็น สกสว.โดยผลของกฎหมาย) ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยในทุกสาขาวิชาการอย่างกว้างขวาง
ให้ความสำคัญกับเสรีภาพในทางวิชาการของนักวิจัย และการเผยแพร่เพื่อให้ข้อมูลหรือเพิ่มการตระหนักรู้ของสังคม ย่อมเป็นสิ่งที่สามารถกระทําได้ การเผยแพร่นั้นนักวิจัยย่อมต้องรับคำวิพากษ์วิจารณ์ ตลอดถึงการตรวจสอบจากวงวิชาการและสังคมด้วย
3.การพิจารณาให้ทุนแต่ละโครงการ ทาง สกสว.มีขั้นตอนการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ ดังนั้น จึงเป็นการยืนยันถึงมาตรฐานทางวิชาการโครงการ “คนจนเมืองที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองที่กําลังเปลี่ยนแปลง” ในขณะที่รับทุน ในปี 2562 ก็ได้ผ่านกระบวนการนี้เช่นเดียวกัน หากแต่ในส่วนของผลสำรวจข้อมูลผู้เสียชีวิตและคนที่ฆ่าตัวตายจากโควิด-19 นักวิจัยได้ดำเนินการเพิ่มเติมเองโดย สกสว.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และโครงการไม่ได้ใช้ทุนจาก สกสว.แต่อย่างใด” ผอ.สกสว. กล่าว
(เปลว สีเงิน) ครับ ขอบคุณท่าน ผอ.สกสว.ด้วยเคารพในเกียรติท่าน จากคำชี้แจงนั้น ทำให้ผมหมดข้อสงสัย จึงไม่ขอรบกวนข้อมูลเพิ่มเติมชัดเจนว่า โครงการ “คนจนเมืองที่เปลี่ยนไปในสังคมเมืองที่กําลังเปลี่ยนแปลง” ได้รับทุนจาก สกสว.จริง “หากแต่ในส่วนของผลสำรวจข้อมูลผู้เสียชีวิตและคนที่ฆ่าตัวตายจากโควิด-19 นักวิจัยได้ดำเนินการเพิ่มเติมเองโดย สกสว.ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง และโครงการไม่ได้ใช้ทุนจาก สกสว.แต่อย่างใด”
ที่มา : เว็บไซต์นสพ.ไทยโพสต์ ๗ อาจารย์เพี้ยน”ภาอวตาร” (อ่านรายละเอียด https://www.thaipost.net/main/detail/64566)
“อภินิหาร ๗ อาจารย์เพี้ยน” (อ่านยราละเอียด https://www.thaipost.net/main/detail/64351)
สกสว.กระเตง7นักวิชาการ??? รับให้ทุนแล้วให้เสรีภาพด้วย วิจัยกำมะลอทำได้??? ถ้าโดนด่ารับเอาเอง(https://thaimoveinstitute.com/9227/)