สถานการณ์คาบสมุทรเกาหลีกลับมาคุกรุ่นอีกครั้งเมื่อสหรัฐจัดเรือดำน้ำนิวเคลียร์ มาจอดที่เกาหลีใต้ เกาหลีเหนือจึงยิงขีปนาวุธนำวิถี ๒ ลูก ตอบโต้เรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์สหรัฐฯเยือนเกาหลีใต้ ในขณะเดียวกันรัฐบาลเปียงยางควบคุมตัวทหารอเมริกันนายหนึ่ง ซึ่งลักลอบข้ามแดนมาจากเกาหลีใต้
กรณีเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐ เยือนเกาหลีใต้ครั้งแรกในรอบ ๔๒ ปี
นายเคิร์ต แคมป์เบลล์ ผู้ประสานงานด้านกิจการอินโด-แปซิฟิก สภาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ กล่าวหลังเสร็จสิ้นการประชุมกลุ่มที่ปรึกษาด้านนิวเคลียร์ ครั้งแรก ที่กรุงโซล เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่าเรือดำน้ำติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ “ยูเอสเอส เคนทักกี” กำลังจอดเทียบท่า ณ เมืองปูซาน ทางตอนใต้ของเกาหลีใต้ โดยนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี ๒๕๒๔ ที่สหรัฐส่งเรือดำน้ำรุ่นดังกล่าว เข้ามาเทียบท่าเรือของเกาหลีใต้
ความเคลื่อนไหวดังกล่าว เป็นไปตามเนื้อหาตอนหนึ่งของ “ปฏิญญาวอชิงตัน” ที่สหรัฐและเกาหลีใต้ ลงนามร่วมกันเพื่อยกระดับความร่วมมือด้านความมั่นคง ระหว่างประธานาธิบดียุน ซอก-ยอล เยือนกรุงวอชิงตัน เมื่อเดือนพ.ค.ปีนี้
ศูนย์บัญชาการสหประชาชาติ (UNC) ที่มีสหรัฐเป็นหัวเรือใหญ่ ในการรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณเขตปลอดทหาร บนคาบสมุทรเกาหลี ออกแถลงการณ์ว่า “พลเมืองสหรัฐคนหนึ่ง” ลักลอบเดินทางข้ามเส้นแบ่งเขตแดนทางทหาร MDL: Military Demarcation Line ไปยังเกาหลีเหนือ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
ทางกองทัพสหรัฐออกแถลงการณ์ว่าบุคคลดังกล่าวเป็นทหารอเมริกัน ยศระดับจ่าชื่อ ทราวิส คิง เข้าร่วมกองทัพตั้งแต่ปี ๒๕๖๔ เดินทางข้ามพรมแดนบริเวณพื้นที่ความมั่นคงร่วม (JSA) “ด้วยความสมัครใจแต่ไม่ได้รับอนุญาต”
ยูเอ็นซีเชื่อว่า คิงอยู่ในความควบคุมตัวของรัฐบาลเปียงยางแล้ว ขณะที่ทุกภาคส่วนในเกาหลีใต้กำลังพยายาม ประสานงานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของเกาหลีเหนือ เพื่อติดตามความคืบหน้า และหาทางช่วยเหลือคิงต่อไป อนึ่งJSA ระบุถึงหมู่บ้านปันมุนจอม พื้นที่แห่งเดียวบนชายแดนความยาว ๒๕๐ กิโลเมตร ที่ทหารเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยืนประจันหน้ากันตลอด ๒๔ ชั่วโมง นั่นก็คือพื้นที่เปราะบางทางการเกาหลีเหนือคงไม่เชื่อว่าทหารมะกันแอบข้ามแดนไปอย่างบริสุทธิ์ใจเป็นแน่แท้
วันที่ ๑๙ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า เกาหลีเหนือยิงขีปนาวุธ๒ ลูกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น นับเป็นการแสดงอาวุธทางยุทธศาสตร์อีกครั้งท่ามกลางความตึงเครียดด้านนิวเคลียร์กับวอชิงตันที่เพิ่มสูงขึ้น
ขีปนาวุธทั้งสองถูกปล่อยในเช้าวันพุธจากพื้นที่ซูนัน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเปียงยาง และเดินทางเป็นระยะทาง ๕๕๐-๖๐๐ กิโลเมตร หรือ ๓๔๐-๓๗๐ ไมล์ ก่อนที่จะตกลงสู่ทะเลญี่ปุ่น ซึ่งรู้จักกันในชื่อทะเลตะวันออกโดยทั้งสองเกาหลี อ้างอิงจากถ้อยแถลงทางทหารของญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ พวกเขาขึ้นไปที่ระดับความสูงประมาณ ๕๐ กิโลเมตร
การทดสอบครั้งล่าสุดมีขึ้นเพียงหนึ่งวันหลังจาก USS Kentucky เทียบท่าที่เมืองปูซาน นับเป็นการเทียบท่าครั้งแรกบนคาบสมุทรโดยเรือดำน้ำติดขีปนาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่ทศวรรษ ๑๙๘๐ เรือดำน้ำชั้น Ohio สามารถบรรทุกขีปนาวุธข้ามทวีป Trident II D5 ได้มากถึง ๒๐ ลูก
ลี จอง-ซุป(Lee Jong-sup) รัฐมนตรีกลาโหมของเกาหลีใต้กล่าวโอ้อวดเมื่อวันอังคารว่า”การติดตั้งเรือดำน้ำขีปนาวุธนิวเคลียร์ (SSBNs) ของสหรัฐฯ บนคาบสมุทรเกาหลีเป็นตัวอย่างของการกระทำที่แสดงให้เห็นว่าสหรัฐฯ ขยายการป้องปรามต่อสาธารณรัฐเกาหลี”
ปีนี้เปียงยางและวอชิงตันเพิ่มข้อกล่าวหายั่วยุซึ่งกันและกัน รวมถึงการทดสอบขีปนาวุธหลายครั้งโดยเกาหลีเหนือ และการซ้อมรบครั้งใหญ่โดยกองกำลังสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ เกาหลีเหนือยืนยันว่าพวกเขาต้องแสดงแสนยานุภาพทางทหารของประเทศตนต่อไป รวมถึงโครงการอาวุธนิวเคลียร์ เพื่อรับประกันสันติภาพและเสถียรภาพท่ามกลางภัยคุกคามที่ทวีความรุนแรงขึ้นจากสหรัฐฯและพวก
เจค ซัลลิแวน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐฯ กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า วอชิงตันยินดีที่จะจัดการเจรจาสันติภาพกับเกาหลีเหนือ
น้องสาวของผู้นำเกาหลีปฏิเสธข้อเสนอในวันต่อมา และกล่าวว่า มันไม่มีเหตุผลที่จะละทิ้งโครงการอาวุธนิวเคลียร์ของเปียงยางเป็นการถาวร เพื่อแลกกับสัมปทานที่สหรัฐฯจะเสนอ ซึ่งสามารถยกเลิกได้อย่างรวดเร็วตามความพอใจของตัวเอง
คิม โย-จอง น้องสาวของนายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดแห่งเกาหลีเหนือ กล่าวว่า การดำเนินการลักษณะนี้ของสหรัฐมีแต่จะยิ่งทำให้รัฐบาลเปียงยางถอยห่างจากโต๊ะเจรจามากขึ้นเท่านั้น การจะให้เกาหลีเหนือเจรจาโดยตรงกับสหรัฐจึง “เป็นเรื่องฝันกลางวัน”