เพื่อตอบโต้รัฐบาลเคียฟก่อเหตุบนสะพานไครเมีย รัสเซียโจมตีเมืองโอเดสซา ซึ่งเป็นหนึ่งในเมืองใหญ่ที่สุดของยูเครนเป็นท่าเรือที่เก็บโดรนและบินรบพร้อมทั้งระบบต่อต้านอากาศยานจากตะวันตก ขณะเดียวกันก็เตือนเรื่องความปลอดภัยในทะเลดำ หลังข้อตกลงส่งออกธัญพืชสิ้นสุด เนื่องจากเคียฟใช้ทะเลดำเคลื่อนไหวทางทหารแอบหลังการส่งออกธัญญพืช และที่ผ่านมาตะวันตกเปิดทางแต่เรือของยูเครนที่ขายให้กับประเทศร่ำรวย แต่กักเรือของรัสเซียที่ส่งให้อาฟริกาและประเทศยากจนโดยอ้างมาตรการคว่ำบาตร แล้วรัสเซียจะต่อเวลาข้อตกลงที่เอาแต่ได้ฝ่ายเดียวไปทำไม
สำหรับกรณีการโจมตีสะพานไครเมีย ดมิทรี โปลีอันสกี รองผู้แทนถาวรของรัสเซียประจำสหประชาชาติ เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า หน่วยข่าวกรองของสหราชอาณาจักรน่าจะมีบทบาทอย่างมากในการตั้งเวทีสำหรับการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนบนสะพานไครเมีย ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือน ๒ คน
ด้านคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซีย (NAK) กล่าวว่าเคียฟจัดฉาก“การโจมตีของผู้ก่อการร้าย”บนจุดเชื่อมโยงสำคัญระหว่างคาบสมุทรไครเมียกับแผ่นดินใหญ่ของประเทศ โดยใช้โดรนผิวน้ำ ๒ ลำ
นักการทูตรัสเซียกล่าวเสริมว่าเขา“ไม่เคยได้ยินการประณามการก่อการร้ายครั้งนี้เลยจากผู้สนับสนุนเคียฟในฝั่งตะวันตก” แอนโทนี บลินเกน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการโจมตีก่อนหน้านี้ว่า ขึ้นอยู่กับยูเครนที่จะตัดสินใจว่าจะปกป้อง“ดินแดนของตน” อย่างไร
แอนโตลี แอนโตนอฟ(Anatoly Antonov)เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ ตีความคำพูดของ Blinken ว่าเป็นความพยายามที่จะ”สร้างความชอบธรรมให้กับการกระทำของผู้ก่อการร้ายในเคียฟต่อพลเมืองและสิ่งอำนวยความสะดวกของรัสเซีย”
เขากล่าวว่า “ข้อเท็จจริงที่ว่าวอชิงตันปกปิดกลุ่มหัวรุนแรงในเคียฟ ทำให้เราสามารถระบุได้อย่างมั่นใจว่าสหรัฐฯ มีส่วนรู้เห็นในอาชญากรรมของเคียฟการสนับสนุนของสหรัฐฯกระตุ้นให้ยูเครนกระทำ “ความโหดร้ายครั้งใหม่”ซ้ำอีก”
วันที่ ๑๙ ก.ก.๒๕๖๖ สำน้กข่าว้สเซียทูเดย์รายงานว่ากองทัพรัสเซียได้ทำการโจมตีโรงงานของยูเครนที่ใช้เตรียมการโจมตีของผู้ก่อการร้าย กระทรวงกลาโหมรายงานเมื่อวันอังคาร การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อตอบโต้การโจมตีสะพานไครเมียเมื่อวันจันทร์ ซึ่งคร่าชีวิตพลเรือน ๒ คน และทำให้เด็ก ๑ คนได้รับบาดเจ็บ
ในถ้อยแถลง กระทรวงฯ ระบุว่า กองกำลังรัสเซียเปิด“การโจมตีตอบโต้แบบกลุ่ม” ในชั่วข้ามคืน โดยใช้อาวุธที่มีความแม่นยำสูงจากทะเล การโจมตีมุ่งเป้าไปที่สถานที่ที่ใช้ในการเตรียม“ปฏิบัติการก่อการร้าย”กับรัสเซียที่เกี่ยวข้องกับโดรนไร้คนขับ เช่นเดียวกับอู่ต่อเรือในเมืองโอเดสซาทางตอนใต้ของยูเครนที่ผลิตโดรนดังกล่าว
นอกจากนี้ เขื่อนยังกำหนดเป้าหมายคลังน้ำมันใน Odessa และ Nikolaev ซึ่งมีเชื้อเพลิงประมาณ ๗๐,๐๐๐ ตันสำหรับกองทัพยูเครน “เป้าหมายทั้งหมดถูกโจมตีแล้ว มีการลงทะเบียนไฟและการระเบิดที่สิ่งอำนวยความสะดวกที่ถูกทำลาย”ตามคำแถลง
เมื่อวันอังคาร เซอร์เกย์ แบรชัค หัวหน้าฝ่ายบริหารโอเดสซา (Sergey Bratchuk, the head of the Odessa administration) รายงานการโจมตีด้วยจรวดในเมืองนี้ ซึ่งเกี่ยวข้องกับขีปนาวุธคาลิบร์ ๖ ลูก แต่อ้างว่ายิงถล่มทั้งหมด อย่างไรก็ตาม เขาตั้งข้อสังเกตว่า“โครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือ”และอาคารอื่นๆ อีกหลายแห่งได้รับความเสียหายจากการโจมตี
วิตาลี คิม(Vitaly Kim) หัวหน้าฝ่ายบริหารของเมืองนิโคเลฟ (Nikolaev) กล่าวว่าการโจมตีดังกล่าวกระทบกับ“โรงงานอุตสาหกรรม”ทำให้เกิดไฟดับทันที
ภาพที่ไม่ได้รับการยืนยันที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นการป้องกันทางอากาศของยูเครนยิงใส่เป้าหมายที่ไม่รู้จักในเขตโอเดสซา โดยเกิดการระเบิดรุนแรงในไม่กี่วินาทีต่อมา สื่อท้องถิ่นเสนอว่าการโจมตีอาจทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศ Gepard ที่เยอรมันจัดหาให้
ทางด้านกลาโหมรัสเซียรายงานว่ากองทัพรัสเซียสกัด UAV อย่างน้อย ๒๘ ลำในเช้าวันอังคารที่ผ่านมา UAV ของยูเครน ๑๗ ลำถูกทำลายโดยระบบป้องกันภัยทางอากาศ UAVอีก ๑๑ ลำถูกปราบปรามโดยสงครามอิเล็กทรอนิกส์และตกก่อนที่จะถึงเป้าหมาย” การถล่มฐานเก็บโดรนและบินรบของยูเครนจึงเป็นเป้าหมายที่ถูกต้องและชอบธรรมที่รัสเซียจะถล่มกลับเป็นการตอบแทน!!