เกิดกรณีถล่มสะพานไครเมียอีกครั้งโดยเคียฟ เจ้าตัวออกหน้ารับเองแม้สื่อฝ่ายยูเครนจะเบี่ยงประเด็นว่า รัสเซียทำตัวเองเพื่อเป็นข้ออ้างไม่ต่อสัญญาณรับประกันความปลอดภัยการขนส่งข้าวและธัญญพืชในทะเลดำ
ด้านเครมลินลั่นชัดเจนว่าสหรัฐและสหราชอาณาจักรอยู่เบื้องหลัง การก่อการร้ายครั้งนี้ส่งผลพลเรือนคู่สามี-ภรรยาเสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ บุตรสาวบาดเจ็บสาหัสและต้องกลายเป็นกำพร้า
ปูตินเรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง ทางพื้นที่สั่งการซ่อมสะพานด่วนให้กลับมาใช้โดยเร็ว แน่นอนว่ามีคำสั่งตอบโต้กลับจากปูตินซึ่งทำให้เคียฟสะท้านหนักเมื่อได้ยินเสียงไซเรนกลางดึก
วันที่ ๑๘ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และสปุ๊ตนิกรายงานว่า ปธน.ปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวว่า “เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการโจมตีของผู้ก่อการร้ายอีกครั้งบนสะพาน พลเรือนเสียชีวิต เด็กคนหนึ่งได้รับบาดเจ็บและถูกทิ้งไว้โดยไม่มีพ่อแม่ ครอบครัวกำลังเดินทางไปแหลมไครเมียจากภูมิภาคเบลโกรอด”
ปูตินย้ำว่า “การระเบิดสะพานครั้งนี้เป็นการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่ “ไร้จุดหมายและโหดร้าย” อีกครั้งโดยระบอบการปกครองของเคียฟ”
เขากล่าวว่า “สิ่งสำคัญคือตอม่อของสะพานไม่ได้รับความเสียหายจากการโจมตีอาชญากรรมนี้ไม่มีเหตุผลจากมุมมองทางทหาร ไม่มีนัยสำคัญ เนื่องจากสะพานไครเมียไม่ได้ถูกใช้เป็นพาหนะทางการทหารมาเป็นเวลานานแล้ว”
ประธานาธิบดีได้สั่งให้คณะกรรมการสอบสวนของรัสเซียและหน่วยงานความมั่นคงของรัฐบาลกลางสอบสวนว่าเกิดอะไรขึ้นและให้คำมั่นในการตอบโต้ทางการทหารอย่างเต็มที่
ลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม สะพานไครเมียซึ่งเชื่อมโยงไครเมียกับรัสเซียแผ่นดินใหญ่ถูกโจมตี แต่สามารถต้านทานการโจมตีของผู้ก่อการร้ายครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ได้ สะพานแห่งนี้กลายเป็นเป้าหมายหลักของอาชญากรชาวยูเครนเนื่องจากสถานการณ์ที่ย่ำแย่สำหรับเคียฟในแนวหน้า
เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ยูเครนทิ้งคำใบ้เกี่ยวกับการสมรู้ร่วมคิดในการโจมตีของผู้ก่อการร้ายที่สะพานไครเมีย คิริลล์ บูดานอฟ หัวหน้าหน่วยข่าวกรองทางทหารของยูเครน ระบุว่า “โครงสร้างนี้ไม่จำเป็น” RBC-Ukraine อ้างแหล่งข่าวใน Security Service of Ukraine รายงานว่าการโจมตีของผู้ก่อการร้ายบนสะพาน Crimean เป็นปฏิบัติการพิเศษที่ดำเนินการโดย Security Service of Ukraine และกองทัพเรือยูเครน โดยใช้โดรนผิวน้ำ
การโจมตีครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อวันที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๖๕ รัฐบาลยูเครนได้กระทำการโจมตีแบบผู้ก่อการร้ายครั้งแรกบนสะพานไครเมียด้วยการเป่ารถบรรทุกและทำให้ถังเชื้อเพลิง๗ ถังของรถไฟบรรทุกสินค้าเกิดไฟไหม้ และช่วงรถ ๒ คันพังบางส่วน คร่าชีวิตพลเรือน ๓ คน ตามการรายงานจากคณะกรรมการต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติของรัสเซีย (ป.ป.ท.).
อดีตประธานาธิบดีรัสเซีย ดมิทรี เมดเวเดฟ กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “การโจมตีของผู้ก่อการร้ายไม่สามารถป้องกันได้ด้วยการเจรจา และมีเพียงมาตรการที่เข้มงวดและเด็ดขาดเท่านั้นที่สามารถรับประกันความสำเร็จได้” “ไม่จำเป็นต้องมีความเมตตาต่อผู้ก่อการร้ายพวกเขาเข้าใจแต่ภาษาแห่งกำลัง วิธีการส่วนตัวและไร้มนุษยธรรมเท่านั้น”
เขาย้ำว่า “สิ่งสำคัญคือต้องทำลายผู้นำระดับสูงของกลุ่มก่อการร้าย ไม่ว่าแมลงเหล่านี้จะซ่อนตัวอยู่ในจุดใดก็ตาม”
ดมิทรี เปสคอฟ (Dmitry Peskov)โฆษกเครมลินกล่าว่า “รัสเซีย ‘รู้’ ใครสั่งโจมตีสะพานไครเมีย ที่ผ่านมาเคียฟพยายามโจมตีสะพานด้วยขีปนาวุธ แต่ไม่สามารถเจาะเกราะป้องกันทางอากาศได้ ครั้งนี้จึงใช้โดรนผิวน้ำ ทางมอสโกว์จะเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยบนคาบสมุทรเข้มขึ้น
มาเรีย ซาคาโรวา โฆษกกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย ระบุว่ายูเครนเป็น“ระบอบการปกครองของผู้ก่อการร้าย”และเสริมว่าการตัดสินใจทั้งหมดของเคียฟถูกควบคุมโดยหน่วยบริการพิเศษและผู้กำหนดนโยบายของสหรัฐฯ และอังกฤษ