จากที่เว็บไซต์ TOP WAR ได้รายงานถึงการประท้วงในอังกฤษ มีการนัดหยุดงานของพนักงานคลังสินค้าที่ส่งจรวดไปยังยูเครน โดยสื่ออังกฤษกำลังรายงานเกี่ยวกับการนัดหยุดงานที่คลังอาวุธยุทโธปกรณ์ และคลังกระสุนในสกอตแลนด์นั้น
ทั้งนี้ตามรายงานของ The Mirror เจ้าหน้าที่ด้านโลจิสติกส์ และคนงานในคลังแสงที่เก็บขีปนาวุธ Brimstone และ Storm Shadow ได้นัดหยุดงานเพื่อเรียกร้องค่าแรงที่สูงขึ้น
โดยคนงานในคลังสินค้ากล่าวว่า เนื่องจากการจัดส่งขีปนาวุธไปยังยูเครน สถานการณ์เริ่มเข้าสู่กระบวนการดำเนินการ ในขณะที่การจัดทำดัชนีค่าจ้างไม่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่ปี 2564 โดยที่อัตราเงินเฟ้อเป็นสิ่งต้องห้ามสำหรับอังกฤษ
อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตว่า บริษัทแห่งนี้เป็นผู้จัดหาขีปนาวุธ Storm Shadow และ Brimstone ให้กับยูเครน รวมถึงอาวุธสำหรับเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของอังกฤษที่ฐานทัพในสกอตแลนด์ หากการกระทำของคนงานดำเนินต่อไปและใช้เวลานานขึ้น ในที่สุดอาจส่งผลกระทบต่อขีปนาวุธที่ส่งไปยังยูเครนหรือฐาน Faslane
ขณะที่ Blockdit World Update ก็ได้ออกมารายงานถึงกรณีดังกล่าวด้วย โดยข้อมูลเผยแพร่ไว้เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2566 ว่า “สหราชอาณาจักร คว่ำบาตรรัสเซีย เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้พลังงานสูงอัตราเงินเฟ้อสูงราว 10% ติดอันดับต้นในทวีปยุโรป ส่งผลค่าแรงไม่เพียงพอต่อค่าครองชีพ เกิดม็อบมากว่า 1 ปีแล้ว จนรัฐบาลถังแตก
กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร มีข้อพิพาทเรื่องค่าจ้างกับคนงานในโรงงานประกอบอาวุธ ที่จะได้รับค่าจ้าง 16.82 ปอนด์ /ชั่วโมง พร้อมด้วยโบนัสและเบี้ยเลี้ยง รวมเป็นเงิน 38,000 ปอนด์/ต่อปี
อีกกลุ่มคือพนักงานด้านโลจิสติกส์ที่ไม่ใช่ช่างฝีมือ มีรายได้เพียง 10.42 ปอนด์/ชั่วโมง และไม่ได้รับโบนัส ทำให้มีเงินเดือน 20,500 ปอนด์/ปี ในขณะที่ค่าครองชีพในสหราชอาณาจักรอยู่ที่ 10.90 ปอนด์/ชั่วโมง
รายได้ที่ชักหน้าไม่ถึงหลัง ทำให้ติดลบมีหนี้สิน ดำรงชีพอยู่ไม่ได้ พวกเขามีรายได้น้อยกว่าพนักงานซุเปอร์มาร์เก็ต ล่าสุดพนักงานโรงงานผลิตอาวุธ Defense Equipment and Support ใน Beith สกอตแลนด์ ผลิตขีปนาวุธ Storm Shadow และ Brimstone
สมาชิกสหภาพแรงงานได้นัดหยุดงานโดยใช้ขีปนาวุธเป็นตัวประกัน เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่มีการสร้างโรงงานตั้งแต่ปี 2486 นายคริส เคนเนดี แกนนำสหภาพแรงงานได้ยื่นข้อเสนอให้นายเบน วอลเลซ รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเข้ามาแทรกแซง
โดยขู่ว่าถ้าไม่เพิ่มค่าแรงให้ จำนวนการผลิตขีปนาวุธสำคัญก็จะลดลงจนไม่เหลือเลย ทำให้กลาโหมของอังกฤษ เต้นออกมาสั่งให้ใช้มาตรการฉุกเฉินเพื่อผลิต และส่งอาวุธต่อไปได้เพราะอังกฤษกำลังแพ้สงครามในยูเครน
วิเคราะห์ว่าการหยุดงานอาจเรียกร้องความสนใจขึ้นค่าแรงได้ไม่ทันใจนัก แต่ถ้าคนงานทำให้เกิดอุบัติขีปนาวุธระเบิดในโรงงานสัก 10 ลูกพร้อมกัน ข้อเรียกร้องจะเสียงดังมาก ทั้งประเทศจะหันมาสนใจทันที เพราะถ้ายังไม่ยอมขึ้นค่าแรงให้สหภาพแรงงานอีก ขีปนาวุธที่เหลือในคลังเก็บทั้งหมด อาจเกิดอุบัติเหตุระเบิดพร้อมกันได้แน่นอน”
