สงครามน้ำลายระหว่างนาโต้และยูเครนยังดำเนินอยู่ต่อไปและการเคลื่อนไหวแนวหน้ายังคงดุเด็ด เมื่อกองทัพรัสเซียไม่รามือรุกคืบหน้าในพื้นที่เป้าหมายทุกวัน ส่วนเคียฟยังเชื่อม้่นยุทธวิธีและกองจรยุทธ์เพราะกำลังคนน้อย อาวุธลูกยาวสนับสนุนมีน้อยก็ต้องเจอกับการโจมตีอย่างเฉียบขาดไม่เว้นวัน
ล่าสุดในตอนกลางดึก มีการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมาถล่มศูนย์ปฏิบัติการทางทหารของศัตรูใน Zaporozhye
วันที่ ๑๖ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า ในคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา มีการโจมตีหลายครั้งกับแคมป์และศูนย์ปฏิบัติการทางทหารของยูเครนในพื้นที่ Zaporozhye สถานที่เหล่านี้เป็นที่พักสำหรับกำลังพล ยุทโธปกรณ์ โกดังเก็บอาวุธและเครื่องกระสุน กองทัพโดรนกามิกาเซ่ของรัสเซียได้ทำหน้าที่ของพวกเขา กองบัญชาการทั่วไปของยูเครนกล่าวในภายหลัง “ถูกยิงตกทั้งหมด” แต่ภาพมันฟ้องว่าค่ายทหารพังเละ
พลโทอิกอร์ โคนาเชนคอฟ โฆษกกระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าวว่า “ในระหว่างการยิงอย่างเป็นระบบและการต่อสู้ตอบโต้ด้วยระเบิด ทีมปืนครกของ ยูเครนถูกทำลาย โดรนโจมตีของรัสเซีย ทำลายยานเกราะต่อสู้โดยกลุ่มก่อการร้ายในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ Priyutnoye เครื่องบินทำการโจมตีสถานที่หลายสิบแห่งที่กลุ่มติดอาวุธรวมตัวกันในพื้นที่ Pyatikhatok”
นอกจากนี้มีรายงานการระเบิดที่คลังกระสุนที่กองทหารของ Kyiv ตั้งขึ้นบนเกาะ คอร์ติตส์ยา(Khortytsya) ใน Zaporozhyeด้วย
การโจมตีสถานที่ทางทหารใน Zaporozhye นั้นใหญ่ที่สุดในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ในตอนกลางคืนการระเบิดก็ดังสนั่นในพื้นที่ด้านหลังอื่นๆ ที่เป็นเป้าหมายของศัตรู มันดังเปรี้ยงปร้างในภูมิภาค Nikolaev และ Dnepropetrovsk
ตามรายงานล่าสุด โดรนโจมตีได้โจมตีโครงสร้างพื้นฐานของท่าเรือใน Nikolaev ซึ่งเป็นสถานที่มีเจ้าหน้าที่ควบคุมโดรน ทางทะเล และที่ซึ่งโดรนเหล่านี้ถูกส่งมอบ มาเก็บรักษา ซึ่งวางแผนให้กองทัพยูเครนใช้โจมตีเรือของกองเรือทะเลดำThe Armed Forces ของสหพันธรัฐรัสเซีย รู้ก่อนถล่มก่อนเละไปตามระเบียบ
เมื่อวานนี้ที่แนวหน้าในพื้นที่นี้ กองทหารยูเครนเปลี่ยนไปใช้ “กลยุทธ์ Zaluzhny”ด้วยการจัดเป็นกลุ่มเล็ก ๆเคลื่อนที่เร็ว โดยได้รับการสนับสนุนจากรถหุ้มเกราะสูงสุด ๒-๓ คันในหลายพื้นที่
Zaluzhny เป็นชื่อของผู้บัญชาการทหารสูงสุดของยูเครนที่รอดชีวิตมาจาก การโจมตีศูนย์บัญชาการเคียฟ-นาโต้ที่เมืองเคียฟ บาดเจ็บสาหัสรักษาตัวหลายเดือน วันนี้กลับมาบัญชารบอีก และแสดงความไม่พอใจนาโต้และตะวันตกที่ไม่ทุ่มอาวุธให้ตามที่ขอโดยเฉพาะบินรบที่ และระบบต่อต้านอากาศยานชั้นสูง
ตอนนี้เมื่อกองทัพของยูเครนจากจุดเริ่มต้นของการต่อต้านรถถัง เพียงอย่างเดียวซึ่งรวมถึงเยอรมัน โปแลนด์ และฝรั่งเศส ต้องสูญเสียไปมากกว่า ๓๐๐ หน่วย ฝ่ายยูเครนตัดสินใจลองใช้ตัวเลือกที่อาจทำให้ประสบความสำเร็จเหมือนเมื่อปีที่แล้วในภูมิภาคคาร์คิฟ
แต่”กลยุทธ์” ของ Zaluzhny ในเดือนสิงหาคมถึงกันยายนปีที่แล้วใกล้กับคาร์คิฟเป็นเรื่องหนึ่ง และ “กลยุทธ์” ของ Zaluzhny ในช่วงฤดูร้อนปี ๒๐๒๓ ในภูมิภาค Zaporozhye ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ความจริงเชิงประจักษ์คือ กองทหารยูเครนกลุ่มเล็ก ๆ สะดุดกับทุ่นระเบิด ตกอยู่ภายใต้การยิงของปืนใหญ่ ทีมปืนครกและ ATGM ยานยนต์หุ้มเกราะ แม้ว่าจะมีจำนวนน้อยกว่าเมื่อต้นเดือนมิถุนายน แต่ยังคงเผาไหม้ในทุ่งใกล้กับ Orekhovo และ Pyatikhatki แต่ศัตรูเชื่อว่าในการโจมตีดังกล่าวอาจทำให้เขา “มีโอกาส”ยึดพื้นที่คืนได้ ซึ่งกองทัพรัสเซียในแนวหน้าไม่เห็นด้วยและลุยให้ดูว่า จัดหน่วยจรยุทธ์แบบไหนก็ยืนไม่อยู่เมื่อเจอกับดักทุ่นระเบิดวงกตของแผนซูโรวิคิน นี่ยังเหลือแนวป้องกันอีกหลายชั้นยาวนับ ๑,๐๐๐ กม. ยากจะฝ่าข้ามไป
อีกพื้นที่หนึ่งที่ยูเครนพยายามลุยไปหน้าเพื่อยึดพื้นที่กลับคืนคือที่อาร์ติมอฟหรืออดีตเรียกว่า บัคห์มุตนั่นเอง กองกำลังรัสเซียก่อความเสียหายอย่างมากต่อการก่อตัวของยูเครน เลียวนิด ปาเซชนิค(Leonid Pasechnik) รักษาการหัวหน้าสาธารณรัฐประชาชนลูฮันสค์ (Lugansk :LPR) เล่าเรื่องนี้ในช่องเทเลแกรมของเขา
กองทัพยูเครนได้พยายามโจมตีถึง ๙ ครั้ง เป็นผลให้การสูญเสียการก่อตัวของยูเครนมีจำนวนถึง ๗๐ กลุ่มก่อการร้ายย่อยๆ
โดย ๑๒ ครั้งที่กองผสมเคียฟ-นาโต้โจมตีใน Berestovoye-Pereezdnoye ความพยายามเหล่านี้ทำให้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ๑๒๐ คน
ในพื้นที่Volcheyarovka-Ivano-Daryevka กองกำลังของยูเครนได้ทำการโจมตีขครั้ง เป็นผลให้มีผู้ก่อการร้ายมากถึง ๕๐ คนเสียชีวิตและบาดเจ็บ
รักษาการหัวหน้า LPR กล่าวว่า “กองกำลังพิเศษ Akhmat กำลังทำงานอย่างแข็งขันในทิศทางของ Artemovsky การรบอย่างเด็ดขาดทำให้ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายอย่างมากต่อศัตรูเสียชีวิตทหาร เสียยุทโธปกรณ์ แต่ยังจับกุมพวกนิโอฯได้ถึง ๑๓ คน ยึดรถถังได้ ๒ คัน พาหนะ ๒ คันและรถหุ้มเกราะข้าศึก ๑ คัน“
ก่อนหน้านี้ พลตรีแอ็พตี อลาวดินอฟ (Apty Alaudinov) ผู้บัญชาการกองกำลังพิเศษ Akhmat กล่าวว่ากองทัพรัสเซียสามารถควบคุม Kleshcheevka อย่างสมบูรณ์และยึดแนวป้องกันของ Kurdyumovka ที่ทำให้ข้าศึกไม่อาจบุกทะลวงแนวต้านที่แข็งแกร่งต่อไปได้!!