ข่าวล่ามาอย่างฮือฮา เมื่อมินสค์เผยเครื่องบินรบ Wagner PMC อยู่ในเบลารุส ทำการฝึกยุทธวิธีให้ทหารเบลารุส ซึ่งมีการจัดเตรียมค่ายพักเพียบพร้อมโดย กองกำลังวากเนอร์มีภารกิจหลักเพื่อฝึกหน่วยป้องกันดินแดนของประเทศ
ปลายเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก (Alexander Lukashenko) ปธน.เบลารุสยืนยันว่าเขาได้เสนองานและฐานทัพทหารร้างในเบลารุสให้หัวหน้า Wagner เพื่อประจำการนักรบของเขาในการถ่ายทอดฝีมือการรบแก่กองทัพของเบลารุส และด้วยเหตุนี้โปแลนด์จึงนำไปอ้างขอเมกามาติดตั้งนิวเคลียร์บ้าง แต่ทั้งเมกา-นาโต้ยังไม่ตอบสนอง
วันที่ ๑๖ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซซ์และรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ยูริ เซลิเวอร์สตอฟ(Yuri Seliverstov) รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมเบลารุสรายงานเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า “เครื่องบินรบของบริษัททหารเอกชน Wagner กำลังเข้าร่วมในโครงการฝึกหน่วยกองกำลังรักษาดินแดนเบลารุสใกล้กับโอสิโปวิชี (Osipovichi) ในภูมิภาคโมกิเลฟ (Mogilev)”
“การฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับหน่วยป้องกันดินแดนในท้องถิ่นกำลังเกิดขึ้นนอก Osipovichi ทหารเกณฑ์ได้เรียนรู้ทักษะการเคลื่อนที่ ซี่งใช้ในสนามรบและการยิงทางยุทธวิธี และพวกเขากำลังอยู่ระหว่างการฝึกอบรมด้านวิศวกรรมและโปรแกรมการแพทย์ทางเทคนิค”
ย้อนอดีตที่เป็นที่มาของการที่วากเนอร์เข้ามาผงาดในเบลารุส เหตุการณ์อันโด่งดังเกิดขึ้นในตอนเย็นของวันที่ ๒๓ มิถุนายน มีการโพสต์การบันทึกเสียงหลายรายการในช่อง Telegram ของ Yevgeny Prigozhin ผู้ก่อตั้ง Wagner PMC โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เขาอ้างว่าหน่วยของเขาถูกโจมตีโดยกล่าวโทษกองทัพรัสเซีย ในทางกลับกัน กระทรวงกลาโหมรัสเซียประณามข้อกล่าวหาของหัวหน้าวากเนอร์เรื่องการโจมตีทางทหารใน “ค่ายด้านหลัง” ของ PMC ว่าเป็นข่าวปลอม
หน่วย PMC ที่สนับสนุน Prigozhin ได้เข้ายึดครอง Rostov-on-Don แล้วมุ่งหน้าไปยังมอสโกว์ ทางหน่วยFSBของรัสเซีย จึงเปิดคดีอาญาเกี่ยวกับการเรียกร้องให้มีการกบฏด้วยอาวุธ ประธานาธิบดีรัสเซีย วลาดิมีร์ ปูติน กล่าวปราศรัยทางโทรทัศน์แก่ประชาชนทั้งประเทศเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน โดยกล่าวถึงการกระทำของกลุ่มวากเนอร์ว่าเป็นการกบฏด้วยอาวุธและการทรยศ
ต่อมา ประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก เบลารุส ร่วมกับปูติน จัดการเจรจากับพริโกซิน ส่งผลให้วากเนอร์ต้องหยุด หันหน่วยไปรอบๆ และถอยกลับไปยังค่ายฐานของตน เครมลินกล่าวว่าทางการรัสเซียให้คำมั่นว่าจะไม่ดำเนินคดีกับนักสู้ PMC ของแวกเนอร์ที่มีส่วนร่วมในการก่อกบฏเนื่องจาก “ความสำเร็จในแนวหน้า” ของพวกเขา คดีอาญาเกี่ยวกับการกบฏโดยใช้อาวุธได้ถูกยกเลิก และล่าสุดปริโกชินกับทีมได้เข้าร่วมประชุมกับปธน.ปูตินและทีมนายทหารประกาศโอนอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลรัสเซียคืนกองทัพและลดบทบาทในนามกลุ่มสลายเป็นส่วนหนึ่งของกองกำลังรัสเซีย ซึ่งปธน.บอกสื่อว่า วากเนอร์ยังมีแบบไม่มีในกองทัพรัสเซีย
ด้วยเหตุนี้ โปแลนด์จึงใช้เป็นเหตุผลถึงความวิตกกังวล พยายามขอNATO ไฟเขียวให้เข้าร่วม ข้อตกลงแบ่งปันอาวุธนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ ซึ่งหมายถึงจะได้เห็นระเบิดนิวเคลียร์ B61 ของวอชิงตันถูกนำติดตั้งบนแผ่นดินโปแลนด์ แต่ผลการประชุมครั้งนี้นาโต้ยังคงนิ่งเฉย
คำร้องขอจากรัฐบาลของนายกรัฐมนตรีแมตติอุส โมราวิกคิ (Mateus Morawiecki) อาวุธเหล่านี้จะถูกส่งให้กับลูกเรือกองทัพอากาศโปแลนด์ที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษเพื่อใช้ในความขัดแย้งของ NATO กับรัสเซียในอนาคต ความจริงที่ยังไม่ได้กล่าวถึงคือความขัดแย้งใด ๆ ที่โปแลนด์ส่งอาวุธนิวเคลียร์ไปยังเป้าหมายของรัสเซียจะบานปลายกลายเป็นการแลกเปลี่ยนนิวเคลียร์ทั่วไประหว่างสหรัฐอเมริกาและรัสเซียในทันที ส่งผลให้เกิดการทำลายล้างของมนุษยชาติส่วนใหญ่หรือทั้งหมดอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คำขอของโปแลนด์ได้รับแจ้งจากการตัดสินใจของรัสเซียเมื่อเร็วๆนี้ ที่จะติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีในเบลารุส ซึ่งพวกเขาจะใช้เครื่องบิน SU-25 และขีปนาวุธ Iskander-M ซึ่งดำเนินการโดยลูกเรือเบลารุสที่ได้รับการฝึกฝนมาเป็นพิเศษ
ข้อตกลงแบ่งปันนิวเคลียร์ระหว่างรัสเซีย-เบลารุสมีความคล้ายคลึงกันอย่างใกล้ชิดระหว่างสหรัฐฯ และนาโต้ โดยระเบิดนิวเคลียร์ B-61 ประมาณร้อยลูกถูกประจำการบนดินของ 4 ประเทศในนาโต้ ซึ่งจะมีการแบ่งปันกับกองทัพอากาศของ ๕ประเทศในนาโต้ คือตุรกี เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ อิตาลี และเยอรมนี ในช่วงเวลาแห่งสงคราม การตัดสินใจติดตั้งอาวุธนิวเคลียร์บนผืนดินของเบลารุส และเตรียมทรัพย์สินทางทหารของเบลารุสไว้ใช้งานในช่วงที่เกิดสงคราม เป็นการบ่งบอกถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดที่เกิดขึ้นระหว่างมอสโกว์และมินสค์หลังเหตุการณ์ความไม่สงบในประเทศเบลารุสหลังปี ๒๐๒๐ การเลือกตั้งประธานาธิบดีและ Alexander Lukashenko ได้รับตำแหน่งเป็นสมัยที่หก ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครนทำให้ทั้งสองประเทศใกล้ชิดกันมากขึ้นเท่านั้น
คำขอของ Morawiecki ไม่ใช่ครั้งแรก เกี่ยวกับการขออาวุธนิวเคลียร์ของสหรัฐฯไปติดตั้งบนแผ่นดินโปแลนด์ ในปี ๒๐๒๐ Richard Grenell เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำเยอรมนีในขณะนั้น และ Georgette Mosbacher เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำโปแลนด์ขณะนั้น แลกเปลี่ยนทางประเด็นทางTwitter เพราะถูกกระตุ้นโดยความลังเลใจของเยอรมันในการเข้าร่วมข้อตกลงแบ่งปันนิวเคลียร์ของ NATO ซึ่งตกลงกันว่ามีการประจำการ B-61 จำนวน ๒๐ ลูก บนแผ่นดินเยอรมัน และในที่สุดก็ได้ติดตั้ง ทำให้โปแลนด์แห้วไป ฝูงบินทิ้งระเบิดทอร์นาโดของเบอร์ลินมีกำหนดปลดระวางในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า และสมาชิกรัฐสภาของเยอรมนีกำลังลังเลกับค่าใช้จ่ายที่คาดการณ์ไว้ในการแทนที่ด้วยเครื่องบินรบที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ในที่สุดเยอรมนีตกลงซื้อเครื่องบิน F-35A จำนวน ๓๕ ลำในราคา ๘.๔ พันล้านดอลลาร์ เยอรมนีจะเริ่มการฝึกเครื่องบินในปี ๒๕๖๙ โดยคาดว่าจะมีเครื่องบินรบ F-35A ลำแรกเข้าประจำการภายในปี ๒๕๗๑
แม้ว่าในอนาคตอันใกล้ สหรัฐฯ หรือ NATO ไม่น่าจะยอมรับคำขอของนายกรัฐมนตรีโปแลนด์ในการวางระเบิดนิวเคลียร์ B-61 ของสหรัฐฯ บนพื้นดินในโปแลนด์ แต่แถลงการณ์ของ NATO ดูเหมือนจะปูทางให้ฝูงบิน F-35A ของโปแลนด์ ซึ่งสามารถบรรทุกระเบิดเหล่านั้นได้ รวมเข้ากับกลุ่มเครื่องบินที่มีในสต็อค NATO
รับประกันว่ารัสเซียจะถูกบังคับให้มองว่า F-35A ทุกลำในคลังแสงของ NATO เป็นภัยคุกคามนิวเคลียร์ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเพื่อปรับการตอบสนองให้เหมาะสม สิ่งนี้ทำให้นาโต้และรัสเซียเข้าใกล้ความเป็นไปได้ของความขัดแย้งทางนิวเคลียร์อย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง!!
