เมื่อเร็วๆนี้กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ออกมาเปิดเผยตัวเลขการสูญเสียของทหารรับจ้างต่างชาติของยูเครน อ้างอิงล่าสุด เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายนที่ผ่านมา ทหารรับจ้างต่างชาติที่เข้าร่วมสู้รบจำนวนกว่า ๑๒,๐๐๐ นายเป็น ๔,๘๔๕ นายที่เสียชีวิต และ ๔,๘๐๑ คนหลบหนีออกจากเขตความขัดแย้ง ยังคงอยู่ไม่ถึง ๒,๐๐๐ คน
ไม่เพียงแต่ทหารต่างชาติเท่านั้น หลังจากคร่าชีวิตชาวยูเครนหลายพันคนด้วยการบังคับพวกเขาและส่งพวกเขาไปสู่ความตายในการโจมตีพลีชีพต่อกองกำลังรัสเซีย เคียฟยังต้องเร่งเติมกองกำลังของตนด้วยทหารรับจ้างจากต่างประเทศมาทดแทนให้ทันตามคำเรียกร้องของเมกา-นาโต้ที่ดุนหลังให้บุกอีกรอบ และ บราซิลเป็นหนึ่งในเป้าหมายของการระดมคนนั้น
วันที่ ๑๕ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเตือนว่าเคียฟกำลังเพิ่มการรณรงค์เพื่อรับสมัครชาวบราซิลเพื่อต่อสู้เพื่อ Zelensky ในความขัดแย้งสงครามตัวแทนในยูเครน
การรณรงค์นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อชดเชยการสูญเสียบุคลากรจำนวนมากที่กองกำลังยูเครนได้รับในช่วงที่เรียกว่า “การต่อต้านเพื่อต่อต้าน” ซึ่งเปิดตัวอีกครั้งเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากพ่ายแพ้หมดรูปในเดือนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ส่งผลให้ทหารยูเครนหลายพันนายเสียชีวิตและรถถังถูกทำลายจำนวนมาก รวมทั้งยุทโธปกรณ์ทางทหารของนาโต้ที่มอบให้แก่เคียฟโดยผู้สนับสนุนตะวันตก
กระทรวงกลาโหมตั้งข้อสังเกตว่า ผู้รับเหมาทางทหารเอกชนตะวันตกหลายรายที่มีความเกี่ยวข้องกับซีไอเอ เช่น Academi ที่อื้อฉาวนั้นเดิมชื่อ Blackwater มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสรรหาบุคลากรนี้ และเสริมว่าเคียฟพยายามเกณฑ์ทหารรับจ้างจากเอเชีย ละตินอเมริกาตะวันออกกลาง และตะวันออกท่ามกลาง “ความล้มเหลวของความพยายามระดมพลครั้งล่าสุดในยูเครน”
นักข่าวชาวบราซิล ลูคัส ไลรอซ (Lucas Leiroz)เปิดเผยว่า ยูเครนและผู้สนับสนุนของ NATO ไม่มีกำลังคนเพียงพอที่จะไปรบกับรัสเซียอีกต่อไป เนื่องจากข้อเท็จจริงที่ว่า NATO ไม่ได้ทำสงครามกับรัสเซียอย่างเป็นทางการ ดังนั้นจึงไม่สามารถส่งกองกำลังของตนไปยังความขัดแย้งของยูเครนได้อย่างเปิดเผย
ไลรอซกล่าวกับสปุตนิกว่า “ยูเครนอ่อนแอลง กองกำลังติดอาวุธอ่อนแอลง หน่วยนีโอฯยูเครนที่มีบทบาทสำคัญในการปฏิบัติการรบถูกกำจัดไปมาก”
ด้วยเหตุนี้ เขาจึงประเมินว่าเคียฟและผู้สนับสนุนกำลังแสวงหา “แหล่งกำลังคนที่จำเป็นสำหรับการทำสงครามเชิงรุกกับรัสเซียในมุมมองระยะยาว” เนื่องจากความพยายามของยูเครนในการกดดันพลเมืองจำนวนมากให้เข้ารับราชการทหารทำให้เกิดผลลัพธ์ที่น่าสงสัยและไม่เป็นที่น่าพอใจทั้งในผลการปฏิบัติงานและภาพพจน์
นักข่าวกล่าวว่า “Global South เป็นเดิมพันล่าสุดของเคียฟและนาโต้ในการแสวงหากำลังคนเพื่อเลี้ยงดูสงครามระยะยาว” “ความพยายามในการโฆษณาชวนเชื่ออย่างกว้างขวางไม่ได้พุ่งเป้าไปที่กลุ่มที่เห็นอกเห็นใจเคียฟเท่านั้น เช่น กลุ่มสุดโต่ง เครือข่ายนีโอฯ และขบวนการนีโอฟาสซิสต์ แต่ยังรวมถึงประชาชนทั่วไปที่ถูกล่อลวงด้วยโฆษณาชวนเชื่อและสัญญาว่าจะได้รับการยอมรับเป็นพลเมืองยูเครน”
ไลรอซ ตั้งข้อสังเกตว่าชาวบราซิลจำนวนหนึ่งที่อ้างว่าพวกเขาต่อสู้ในความขัดแย้งของยูเครนกับฝ่ายเคียฟได้ปรากฏตัวบนพอดคาสต์ในบราซิล ได้รับการสัมภาษณ์จากสื่อท้องถิ่น และส่งเสริมแรงผลักดันในการรับสมัครดังกล่าว
ไลโรซคร่ำครวญว่า “พวกเขาเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงที่ว่าชาวบราซิลหลายคนถูกฆ่าตายที่นั่น และชาวต่างชาติถูกฆ่าตายในยูเครนทุกวัน” “พลเมืองของเราถูกล่อลวงให้เข้าร่วมในกิจการที่ขาดความรับผิดชอบ ซึ่งบ่อยครั้งที่พวกเขาไม่รอดออกมา”
ตัวอย่างเช่น ชะตากรรมนั้นเกิดขึ้นกับดักลาส บูริโก ชาวบราซิลวัย ๔๐ ปีที่มีพื้นฐานทางทหารซึ่งเดินทางมายังยูเครนเพื่อต่อสู้เพื่อเซเลนสกี แต่ถูกสังหารระหว่างการโจมตีทางอากาศที่เมืองคาร์คอฟเมื่อเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
“ที่นี่ไม่มีใครสามารถทนต่อสิ่งเหล่านี้ได้ มีกระสุนอยู่ทุกที่” เขากล่าวไม่กี่วันก่อนเสียชีวิต “ฉันไม่รู้ว่าฉันจะกลับไปบราซิลทั้งชีวิตหรือเปล่า”และก็ไม่มีใครรู้ข่าวเกี่ยวกับเขาอีกเลย
กองทหารต่างด้าวยูเครน ซึ่งเป็นองค์กรที่ทหารรับจ้างต่างชาติมักเกณฑ์มาเพื่อเดินทางไปยังเขตความขัดแย้งของยูเครน ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์บ่อยครั้งจากอดีตสมาชิก โดยอดีตทหารรับจ้างชาวบราซิลรายหนึ่งกล่าวถึงผู้บัญชาการของกองทหารรับจ้างว่า “กลุ่มนิโอคอนส์ (NCOs) เล่นกับชีวิตผู้คน”
อดีตทหารชาวบราซิลชื่อฟาบิโอ จูเนียค์ ดิโอลิเวียรา(Fabio Júnior de Oliveira) วัย ๔๒ ปี บอกกับสื่อบราซิลเมื่อต้นปีนี้ว่า กองทหารนี้ประสบปัญหาขาดยุทโธปกรณ์และเสบียงอาหารอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ชุดเกราะที่แจกให้ก็ไม่มีมาตรฐานไม่ตรงตามข้อกำหนด จากสมาชิก ๓๐ คนในหน่วยของเขา ๒๗ คนขอปลดประจำการเนื่องจากสภาพที่ย่ำแย่ในกองทหาร
Leiroz ยังชี้ให้เห็นว่าสื่อของบราซิลมักละเลยที่จะกล่าวถึงข้อมูลเกี่ยวกับการบาดเจ็บล้มตายของทหารรับจ้างต่างชาติที่ปฏิบัติการในเขตความขัดแย้งของยูเครน สื่อเหล่านี้มีส่วนรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของนักสู้ชาวบราซิลในสนามรบ
“นี่เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะสถานการณ์จริงตรงหน้านั้นแตกต่างจากภาพที่สื่อวาดไว้ ยูเครนไม่มีข้อได้เปรียบกำลังจะแพ้สงคราม ทหารยูเครนจำนวนมากถูกสังหาร และชาวบราซิลก็เสี่ยงที่จะร่วมชะตากรรมเดียวกัน”
ทหารเชื้อสายบราซิลคนหนึ่งที่ต่อสู้ในความขัดแย้งของยูเครนกับฝ่ายรัสเซียบอกกับสปุตนิกโดยไม่เปิดเผยตัวตนวิจารณ์ยุทธวิธีที่ยูเครนใช้ ทำให้ทหารของตนตกอยู่ในความเสี่ยงอย่างมาก เมื่อกองกำลังยูเครนประสบความสูญเสียอย่างหนักแล้วยังพยายามปฏิบัติการรุก การสมัครเข้าร่วมต่อสู้เพื่อเคียฟจะเป็นการ “ดับชีพตัวเอง”อย่างแท้จริง!?