จากเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม 2566 สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานถึง เบน วอลเลซ รัฐมนตรีกลาโหมสหราชอาณาจักร ได้ออกมาแถลงถึงความไม่ลงรอยระหว่างลอนดอนกับเคียฟ แนะยูเครนควรแสดงความกตัญญูรู้คุณบรรดาพันธมิตรมากกว่านี้นั้น
ทั้งนี้รายงานข่าวยังระบุว่า วอลเลซย้ำคำพูด “คุณต้องโน้มน้าวบรรดาสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในสภาคองเกรส คุณจำเป็นต้องโน้มน้าวบรรดานักการเมืองที่คลางแคลงใจในประเทศอื่นๆว่ามันมีค่าพอและคุ้มค่าไหม และพวกเขาจะได้อะไรบางอย่างจากมัน”
นอกจากนี้ วอลเลซ ยังได้เท้าความว่าครั้งที่ได้รับรายชื่ออาวุธที่ยูเครนร้องขอมา เขาได้บอกกับบรรดาเจ้าหน้าที่ในเคียฟกลับไปว่า “ผมไม่ใช่แอมะซอน”
ขณะที่สื่อต่างประเทศรายงานด้วยว่า ริชี ซูแน็ก นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร เคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วออกมาสยบข้อบ่งชี้ที่ว่าลอนดอนรู้สึกรำคาญประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ที่พยายามล็อบบี้อย่างดุเดือด ณ ที่ประชุมซัมมิตนาโต
สำหรับร้องขออาวุธจากตะวันตกเพิ่มเติม ในการต่อสู้สกัดการรุกรานของรัสเซีย เช่นเดียวกัน ทาง เซเลนสกี ก็ออกมาปฏิเสธข้อสันนิษฐานใดๆ ว่ายูเครนมีความสัมพันธ์อันตึงเครียดกับสหราชอาณาจักร
โดยเมื่อถูกสอบถามเกี่ยวกับคำพูดของวอลเลซ ทางนายกรัฐมนตรีซูแน็ก พยายามสยบรอยร้าว โดยบอกว่าเซเลนสกี “ได้แสดงออกถึงความซาบซึ้งใจในสิ่งที่เราทำ ในหลายๆโอกาส ไม่ใช่แค่ตอนกล่าวปราศรัยกับรัฐสภาเมื่อช่วงต้นปี
เขาได้แสดงความซาบซึ้งใจอีกครั้งกับผม นอกจากนี้ เขายังทำเช่นนั้นอีกหลายครั้งนับไม่ถ้วน ในทุกครั้งที่ผมพบเจอกับเขา” ซูแน็กกล่าวกับผู้สื่อข่าวในกรุงวินีอัส
“ผมรู้ว่าเขา และประชาชนของเขารู้สึกขอบคุณอย่างสุดซึ้งต้องแรงสนับสนุนที่เราแสดงออก รู้สึกยินดีต่อสิ่งที่เรามอบให้ครอบครัวชาวยูเครนมากมาย เช่นเดียวกับความเป็นผู้นำที่เราแสดงออกตลอดความขัดแย้งนี้” นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักรกล่าว
ด้าน เซเลนสกี ก็ถูกถามเกี่ยวกับความเห็นของ วอลเลซ เช่นกัน ระหว่างการแถลงข่าวในที่ประชุมซัมมิต และเขาตอบกลับด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว
“ผมเชื่อว่า เรารู้คุณสหราชอาณาจักรมาตลอด เราขอบคุณนายกรัฐมนตรี และกระทรวงกลาโหมเสมอมา” เขาบอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมกับขอบคุณประชาชนชาวสหราชอาณาจักร สำหรับแรงสนับสนุน และขอบคุณรัฐบาลสำหรับความร่วมมือใกล้ชิด