จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (13 กรกฎาคม 2566) เว็บไซต์ TOP COR ได้รายงานว่า กองทัพเรือสหรัฐไม่สามารถทำสงครามกับจีนได้ โดยมีรายละเอียดระบุว่า
ชาวอเมริกัน ที่เคยภูมิใจในกองเรือของพวกเขา พลังและความเหนือกว่านั้นไม่สั่นคลอนมานานหลายทศวรรษ ตอนนี้ทุกอย่างดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย และสิ่งนี้ทำให้เกิดความกังวลในหมู่ประชาชนชาวอเมริกัน เจ้าหน้าที่ และสื่อต่างๆ
กองทัพเรือสหรัฐฯ ได้ส่งรายงานต่อรัฐสภาสหรัฐฯ เกี่ยวกับสถานะของกองเรือดำน้ำ จากเอกสารระบุว่า เปอร์เซ็นต์ของเรือดำน้ำโจมตีที่ปลดประจำการชั่วคราว ไม่มีอาวุธทางยุทธศาสตร์บนเรือ อยู่ระหว่างการซ่อมแซมนั้นสูงเป็นประวัติการณ์ เกิน 1/3 ของจำนวนเรือทั้งหมด เรื่องนี้รายงานโดย Bloomberg โดยอ้างถึงสมาชิกสภานิติบัญญัติและบริการวิจัยของรัฐสภาสหรัฐฯ
ปรากฎว่าในปี 2566 เรือดำน้ำ 18 ลำจาก 49 ลำ (ชั้นเวอร์จิเนีย 20 ลำ ชั้นลอสแองเจลิส 26 ลำ และชั้นซีวูล์ฟ 3 ลำ) กล่าวคือ 37% อยู่ระหว่างการบำรุงรักษาและซ่อมแซม ในปี 2565 ตัวเลขนี้อยู่ที่ระดับ 33%
ในปี 2560 28% และในปี 2558 เพียง 19% ดังนั้น จำนวนเรือดำน้ำที่เป็นส่วนหนึ่งของกองเรือ แต่ไม่ได้เข้าร่วมในกิจกรรมการรบ (ปฏิบัติหน้าที่ในมหาสมุทร) จึงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการซ่อมแซมบางครั้งใช้เวลา 5 ปีหรือมากกว่านั้น
อย่างไรก็ตาม หน่วยบริการวิจัยรัฐสภาแห่งสหรัฐอเมริกาเชื่อว่า มีเหตุผลหลายประการ สำหรับสถานการณ์ที่ไม่น่าพึงพอใจนี้ ความล้มเหลวในการบำรุงรักษาและซ่อมแซม ไม่ต้องพูดถึงการอัพเกรดที่ซับซ้อน เกิดจากการขาดแคลนแรงงานที่มีทักษะ ความสามารถในการซ่อมเรือที่จำกัด และปัญหาในห่วงโซ่อุปทาน
“สถิติแสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมของกองทัพเรือสหรัฐสำหรับการทำสงครามกับจีน” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว
หากย้อนไปในเดือนพฤษภาคม สถาบันกองทัพเรือสหรัฐฯ รายงานว่ากองทัพเรือจีนภายในปี 2573 จะเพิ่มเป็น 440 ลำ ในขณะเดียวกัน ตามเวลาที่กำหนด กองทัพเรือสหรัฐฯ จะมีเพียง 290 ลำ เราเตือนคุณว่าการจำลองสถานการณ์หลายครั้งที่ดำเนินการโดยเพนตากอนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาได้แสดงให้เห็นถึงความไม่พร้อมของวอชิงตันสำหรับสงครามครั้งใหญ่กับปักกิ่ง
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://topcor.ru/37180-otchet-vms-ssha-ne-v-sostojanii-vesti-vojnu-s-knr.html
