จากกรณีที่วันนี้ (13 กรกฎาคม 2566) มีการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 1 จะเริ่มเวลา 09.30 น. ณ ห้องประชุมชั้น 2 สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งวันนี้จะมีการโหวตนายกรัฐมนตรี
โดยเมื่อเวลา 10.12 น. ชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส. อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย อ่านแถลงการณ์พรรค (17 พ.ค. 66) ว่าจะไม่สนับสนุนแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคที่จะแก้ไข ม.112 และเรียกร้องให้ 7 พรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลแสดงจุดยืนต่อเรื่องดังกล่าว โดยหากพรรคก้าวไกลได้เป็นรัฐบาล พรรคภูมิใจไทยพร้อมจะเป็นฝ่ายค้าน และยืนยันจะไม่จัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่ง
ต่อมาทางด้าน นายประพันธ์ คูณมี สมาชิกวุฒิสภา ได้อภิปรายเป็นคนแรก โดยกล่าวว่า แม้ส.ว.กับส.ส.มีที่มาต่างกันแต่กฎหมายให้ถือว่าเป็นผู้แทนจากปวงชนเหมือนกัน รักษาผลประโยชน์ประเทศ-ประชาชนเหมือนกัน ส.ส.มาจากประชาชน ส.ว.ก็มาจากประชามติของประชาชนเหมือนกัน
การออกความเห็นนี้เป็นความเห็นโดยสุจริต ตามที่มีการเสนอ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ขอเรียนว่าการเสนอชื่อครั้งนี้เป็นการเสนอบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามโดยชัดแจ้ง เฉพาะกรณีของพิธา การเสนอชื่อของรัฐสภาเพื่อให้ความเห็นชอบปรากฎชัดแจ้งอยู่แล้วว่าขัดกับข้อบังคับฯ เพราะพิธามีลักษณะต้องห้าม จึงมีปัญหาว่าเป็นการเสนอชื่อโดยถูกต้องหรือไม่ ปัญหาที่ว่าต้องรอคำวินิจฉัยศาลรธน.หรือไม่นั้น ตนเห็นว่า คุณสมบัติของส.ส.กับนายกฯ เป็นเรื่องที่วิญญูชนก็วินิจฉัยได้
ต่อมาทางด้านของ นายศาสตรา ศรีปาน ส.ส. พรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวอภิปรายช่วงหนึ่งว่า อุดมการณ์ของพรรคชัดเจนว่า เราจะปกป้องและดำรงไว้ซึ่งสถาบันหลักของชาติ จึงไม่สนับสนุนนโยบายหรือพรรคที่แก้มาตรา 112 วันนี้บ้านเมืองสามารถเดินหน้าได้โดยไม่ต้องแก้ไขมาตรา 112
“รูปที่มีอยู่ทุกบ้านเนี่ย ก็อยู่ในบ้านของใครหลายๆ คนข้างนอก โครงการพระราชดำริทำให้เราไม่ต้องสูญเสียชีวิตและทรัพย์สิน วันนี้นักเรียนทุกที่ได้รับ คนยากจน เขายังซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบัน เพราะฉะนั้นอย่าเหยียบย่ำหัวใจคนไทยไปมากกว่านี้เลย ขอได้ไหม ไม่แก้ 112” ศาสตรากล่าว
ศาสตรา ยังกล่าวว่า การเสนอมาตรา 112 สร้างความแตกแยก รอยร้าวให้ประเทศไทย คนลงถนนมีแต่ความพินาศ ไม่มีประโยชน์ จะบอกว่า 151 เสียงที่ได้มาก็ไม่มีสิทธิทำลายสิ่งที่บรรพบุรุษสร้างมาแต่ต้น ขอให้ฟังเสียงส่วนน้อยและเสียงส่วนใหญ่
“การที่พิธาจะได้เป็นนายกฯ หรือไม่ อย่ามาโทษ กกต. ศาลรัฐธรรมนูญ แต่เป็นที่ตัวคุณเองที่ต้องมาตอบคำถามสังคมให้ได้ว่า วันนี้กฎหมายเราชัดเจนว่าจะเป็นนายกฯ เป็น ส.ส. ห้ามถือหุ้นสื่อ ตั้งแต่ก่อนพรรคอนาคตใหม่จะตั้งขึ้นมาอีก ทำไมไม่เอาออกตั้งแต่แรก จะได้เลือกนายกฯ คนที่ 30 ไปเลย ไม่ต้องโทษใครทั้งสิ้น” ศาสตรากล่าว
ศาสตราระบุอีกว่า คุณบอกจะแก้ไข บางวันบอกยกเลิก บางวันบอกแก้ไขแล้วไปยกเลิก นักการเมืองที่ปากอย่างใจอย่างจะเชื่อได้หรือไม่ การร่างมาตรา 112 ร่างจนไม่เหลือการคุ้มครองใด และไม่สอดคล้องกับมาตรา 6 ของรัฐธรรมนูญ และยืนยันว่า ไม่มีนิติสงคราม มีแต่นิติรัฐ ดังนั้นในฐานะผู้ที่รักและเทิดทูนสถาบัน ขอไม่โหวตนายกฯ คนที่ 30 ที่ชื่อพิธา ส่วนที่บอกว่า 14 ล้านคนพร้อมลงถนน ผมเห็นว่าอีก 20 กว่าล้านที่มีสิทธิ์เลือกตั้ง ก็พร้อมถวายชีวิต เพื่อสถาบัน ชัยชนะบนซากปรักหักพัง ชอบกันหรอครับ