เปิดผลประชุมนาโต้ทำสหรัฐกระอัก! สะเทือนส่งรมต.คลังโร่คุยจีนล้ม? จบเห่ตัวแปรดอลลาร์พัง ขอชะลอเททิ้งมหาศาล

0

จากที่มีการประชุมสุดยอดผู้นำนาโต้ท่ามกลาง การเตรียมกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์บริเวณชายแดนเบลารุส ขณะที่สหรัฐก็ส่งบุคคลสำคัญไปเคลื่อนไหวที่ประเทศจีนด้วยนั้น

ล่าสุดวันนี้ 13 กรกฎาคม 2566 ดร.ปฐมพงษ์ โพธิ์ประสิทธินันท์ นักวิชาการทางบูรพคดีศึกษา มหาวิทยาลัยมหิดล โพสต์ข้อความผ่าน Blockdit ถึงผลการประชุมนาโต้เบื้องต้น รวมทั้งความเคลื่อนไหวของสหรัฐว่า “สายเกินไปแล้วที่โจ ไบเดนจะเป็นมิตรกับจีน:

ที่จริง ไม่ใช่สายเกินไปอะไรหรอกครับ แต่ทรรศนะคติของเฒ่าโจ ไบเดน ผู้นำของอเมริกาก็คือตนจะหาเรื่องกับจีนเป็นประจำแต่อยากให้จีนเป็นมิตรกับตนเหมือนเดิม พูดง่ายๆ ก็คือตนจะคว่ำบาตรจีนยังไงก็ได้ แต่จีนต้องดีกับตนตลอดเวลา ซึ่งเป็นไปไม่ได้

ตอนนี้ จีนคือตัวแปรสำคัญที่จะทำให้ดอลลาร์พัง เพราะจีนถือครองดอลลาร์ไว้มาก อเมริกาก็พยายามจะพูดดีกับจีนเพื่อชะลอมิให้จีนทิ้งดอลลาร์มาก แต่การประชุมนาโต้ล่าสุด กลับมีมติ *สวนทางกัน* อย่างชัดเจน

๑.Deepening the strategic partnership between China and Russia is contrary to the values ​​and interests of the alliance. ความร่วมมือทางยุทธศาสตร์ระหว่างจีนกับรัสเซียที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ทำให้ชาตินักล่าอาณานิคมอย่างเราหาผลประโยชน์ได้ลำบาก

๒.China’s ambitions challenge NATO’s interests, security and values. การมุ่งพัฒนาประเทศอย่างก้าวกระโดดของจีนทำให้ชาตินักล่าอาณานิคมอย่างเราเสียผลประโยชน์ยิ่งขึ้น

มติที่ประชุมนาโต้ยังทำตัวเป็นศัตรูกับจีน แล้วจะให้จีนญาติดีด้วยได้อย่างไร ตนเองหาทางทำร้ายจีนตลอดเวลา แล้วคาดหวังจะให้จีนเป็นมิตรกับตน”

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566  ดร.ปฐมพงษ์ ได้โพสต์ถึงสหรัฐอเมริกาที่ได้ส่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเดินทางไปเยือนปักกิ่ง ซึ่งมีเนื้อหาบางส่วนที่สำคัญระบุว่า “อเมริกาส่งรมว.คลังไปจีนแล้วได้อะไร?

สรุปให้อ่านกันว่าอเมริกาส่งรมว.คลังไปจีนแล้วได้อะไร? คำตอบจากข้อสังเกตผมครับ ๑.อเมริการู้ตัวดีแล้วว่าดอลลาร์กำลังจะพังและไม่อยากให้จีนเทดอลลาร์มากก็เลยส่งนางเยลเลนไปจีนเพื่อ *ขอความร่วมมือกับจีน* หมายความว่าถ้าเกิดความร่วมมือกันแล้ว ต่อไปก็อย่าทิ้งดอลลาร์

๒.หัวข้อใหญ่ที่อเมริกาต้องการให้จีนทำคือปฏิรูปตลาด (market reforms) ซึ่งเป็นการแสดงให้เห็นว่าอเมริกาพยายามเอาเปรียบจีนอยู่นั่นแหละ

เรื่องของเรื่องก็คือ รัฐบาลอเมริกาสั่งแบนสินค้าจำพวก semiconductor (สารกึ่งตัวนำ) ที่พวกตนเองผลิต มิให้ส่งออกไปขายยังประเทศจีนเด็ดขาด เพราะไม่อยากให้จีนได้ใช้สินค้าของตนไปพัฒนาประเทศเพื่อแข่งกันกับตน

แต่บังเอิญว่าสินค้าประเภทสารกึ่งตัวนำ (semiconductor) ที่ผลิตในอเมริกาและยุโรปเหล่านี้ ส่วนใหญ่บริษัทในอเมริกาและยุโรปได้วัตถุดิบจากจีนไปผลิต จีนจึงตอบโต้โดยการไม่ขายวัตถุดิบให้อเมริกาเสียเลย

พอรัฐบาลจีนไม่ขายวัตถุดิบให้  บรรดาโรงงานที่ผลิตสินค้าประเภทสารกึ่งตัวนำในอเมริกาจึงเจอปัญหาไม่มีวัตถุดิบมาป้อนโรงงาน เดือดร้อนกันไปทั่ว

รัฐมนตรีคลังของอเมริกาจึงวิ่งแจ้นไปขอให้จีนปฏิรูปตลาด (market reforms) ความหมายโดยตรงก็คือขอให้รัฐบาลเลิกคว่ำบาตร กลับมาขายวัตถุดิบให้อเมริกาเหมือนเดิมเสีย โรงงานผลิตสินค้าประเภทสารกึ่งตัวนำในอเมริกาจะได้ไม่สะดุด”