การประชุมนาโต้ที่เมืองวิลนีอุส, ลิทัวเนียกำลังจะสิ้นสุดลง นอกจากมุ่งถกกันเรื่องสงครามตัวแทนยูเครน กับรัสเซียแล้ว อีกประเด็นสำคัญก็คือ ต้านจีนนั่นเอง หลังมีการแถลงร่วมเกี่ยวกับจุดยืนและท่าทีของนาโต้ต่อจีนแล้ว จีนได้ออกมาประณาม ‘การขยายตัวไปทางตะวันออก’ ของ NATO สู่เอเชียแปซิฟิกว่า มีจุดมุ่งหมายเพื่อต่อต้านอิทธิพลจีนทั้งทางเศรษฐกิจ การเมืองและการทหาร ฟาดหน้าเมกายุยงผลักดันพันธมิตรนิวเคลียร์มาป่วนทำภูมิภาคสั่นคลอน
วันที่ ๑๒ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวโกลบัลไทมส์และสปุ๊ตนิก รายงานว่า เยนส์ สโตลเตนเบิร์ก เลขาธิการ NATO กล่าวว่า “ประเทศสมาชิก NATOตกลงที่จะร่วมกันตอบโต้อิทธิพลและอำนาจทางทหารที่เพิ่มขึ้นของจีน”
ในขณะเดียวกัน สมาชิก NATO กล่าวในแถลงการณ์ร่วมหลังการประชุมสุดยอดวันแรกว่า นโยบายของจีนเป็นสิ่งที่ท้าทายต่อผลประโยชน์ ความมั่นคง และคุณค่าของพันธมิตร แต่ NATO จะยังคงเปิดรับปฏิสัมพันธ์กับจีนไปด้วย ข้อสังเกตุคือประเด็นไต้หวันไม่ได้ถูกระบุไว้ในแถลงการณ์ของนาโต้แต่อย่างใด
โฆษกของคณะผู้แทนจีนประจำสหภาพยุโรป (EU) ตอบโต้ว่า “จีนต่อต้านอย่างแข็งกร้าวต่อ “การขยายตัวไปทางตะวันออก” ของ NATO ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก” ถ้อยแถลงระบุว่าแถลงการณ์ดังกล่าวของNATO เต็มไปด้วยวาทศิลป์ซ้ำซากที่สะท้อนความคิดแบบสงครามเย็น และอคติเชิงอุดมการณ์ โดยไม่สนใจข้อเท็จจริงพื้นฐานและจงใจบิดเบือนจุดยืนและนโยบายของจีน ทำให้ภาพลักษณ์ของจีนเสื่อมเสีย”
โฆษกกล่าวว่าา “ในฐานะที่NATOเป็นองค์กรผลผลิตของสงครามเย็น มีประวัติที่น่าสงสัยอย่างชัดเจน ท่ามกลางฉากหลังของภูมิทัศน์ด้านความมั่นคงระหว่างประเทศที่เสื่อมโทรม แทนที่จะสะท้อนความรับผิดชอบของตนเอง นาโต้ในฐานะกลุ่มทหารระดับภูมิภาค ยังคงกล่าวโทษประเทศอื่นอย่างไม่เป็นธรรม และยังแทรกแซงกิจการนอกพรมแดน สร้างความขัดแย้งบ่งบอกธรรมชาติที่เจ้าเล่ห์”
ถ้อยแถลงระบุว่า “ความทะเยอทะยานของลัทธิขยายอำนาจ มีแรงจูงใจในการครอบงำนั้นเห็นได้ชัดเจน การประกาศตัวเป็นพันธมิตรด้านอาวุธนิวเคลียร์ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในแถลงการณ์ นาโต้มีแต่จะทำให้ความตึงเครียดในภูมิภาคทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งจีนมีความกังวลอย่างยิ่ง”
จีนเรียกร้องให้ NATO ปฏิบัติตามกระแสนิยมและรับฟังเสียงอันชอบธรรมของประชาคมระหว่างประเทศ ซึ่งสนับสนุนสันติภาพ การพัฒนา และความร่วมมือ
ภารกิจเรียกร้องให้ NATO แก้ไขความเข้าใจผิดและมีบทบาทที่สร้างสรรค์ในการส่งเสริมสันติภาพและเสถียรภาพของโลก
จีนเตือนอย่างจริงจังว่าจีนจะปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และผลประโยชน์ในการพัฒนาของตนอย่างหนักแน่น และต่อต้านอย่างแข็งกร้าวต่อการขยายตัวทางตะวันออกของนาโต้สู่เอเชียแปซิฟิก การกระทำใดๆ ที่บ่อนทำลายสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีนจะต้องพบกับมาตรการตอบโต้ที่เฉียบขาด
ในการประชุมนาโต้ครั้งนี้ญี่ปุ่นและเกาหลีใต้ได้เข้าร่วมประชุม ประกาศจุดยืนต้านจีนตามวาระวอชิงตันอย่างออกนอกหน้า
นายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ แห่งญี่ปุ่นเข้าร่วมประชุมซัมมิตนาโตเป็นครั้งที่ 2 มุ่งหวังที่จะย้ำเตือนให้กลุ่มพันธมิตรตระหนักถึงความเสี่ยงในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ขณะที่ประธานาธิบดี ยุน ซุกยอล แห่งเกาหลีใต้ต้องการยกระดับความร่วมมือในด้านความมั่นคงกับนานาชาติเพื่อรับมือภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือและปัญหาความตึงเครียดกับจีน
คิชิดะ ประกาศเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมาว่า ญี่ปุ่นไม่มีแผนที่จะเข้าเป็นสมาชิกนาโต้ แม้ว่าทางนาโต้เองกำลังพิจารณาขอเปิดสำนักงานที่กรุงโตเกียวเป็นแห่งแรกในเอเชีย โดยอ้างว่าเพื่อช่วยให้การปรึกษาหารือในภูมิภาคเป็นไปโดยสะดวกแต่ประเด็นนี้ฝรั่งเศสได้ออกมาคัดค้าน
คณะทูตจีนประจำยุโรประบุว่า จีนขอคัดค้านความพยายามของนาโต้ ที่จะขยายขอบเขตไปทางตะวันออกสู่เอเชีย-แปซิฟิก พร้อมเตือนว่าปักกิ่งจะใช้มาตรการตอบโต้อย่างเด็ดเดี่ยวหากถูกคุกคามสิทธิ
“การกระทำใดก็ตามที่เป็นภัยต่อสิทธิและผลประโยชน์อันชอบธรรมของจีน จะเผชิญกับมาตรการตอบโต้ที่จริงจัง”
แถลงการณ์ร่วมของนาโต้ยังอ้างอีกว่าจีนมุ่งควบคุมอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสำคัญๆ โครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นยิ่งยวด รวมถึงวัตถุดิบทางยุทธศาสตร์และห่วงโซ่อุปทาน นอกจากนี้ยังใช้อำนาจต่อรองทางเศรษฐกิจเพื่อสร้างการพึ่งพาในเชิงยุทธศาสตร์ (strategic dependencies) และสยายอิทธิพลออกไปโดย ไม่ระบุถึงความพยายามกีดกันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ของจีนที่สหรัฐเป็นผู้เริ่มก่อนแต่อย่างใด
สำนักข่าวซินหัวของจีนได้ออกมาตอบโต้แถลงการณ์ร่วมครั้งนี้โดยระบุว่า สงครามและความขัดแย้งที่รัฐนาโตเข้าไปเกี่ยวข้องสะท้อนให้เห็นว่ากลุ่มพันธมิตรแห่งนี้ต่างหากที่เป็น “ภัยคุกคามร้ายแรง” ต่อสันติภาพและเสถียรภาพโลก
“ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายและความขัดแย้งที่เกิดขึ้น นาโตยังคงพยายามสยายปีกเข้ามาสู่เอเชีย-แปซิฟิก โดยแสดงออกซึ่งเจตนาในการปิดล้อมจีนอย่างชัดเจน”