เกลือจิ้มเกลือ!! รัสเซียซัดเมกา-นาโต้ประเคนอาวุธยูเครนดันWWIII โจมตีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์มอสโกว์จะเจอสวน

0

โลกจับตาการประชุมพันธมิตรนาโต้ ซึ่งจะเป็นผู้กำหนดอนาคตความขัดแย้งในสงครามยูเครน ดมิทรี เปสคอฟ(Dmitry Peskov)โฆษกเครมลินฟันธงว่า เหตุการณ์นี้เป็นกิจกรรมการต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรง โดยมองว่ารัสเซียเป็นศัตรูตัวฉกาจ

เขากล่าวว่า “นี่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการประชุมสุดยอดของกลุ่มพันธมิตรที่ต่อต้านรัสเซียอย่างรุนแรงโดยธรรมชาติ พวกเขา มองว่ารัสเซียเป็นศัตรู เป็นปฏิปักษ์ และการหารือจะจัดขึ้นอย่างแม่นยำด้วยจิตวิญญาณนี้  เรากำลังติดตามเหตุการณ์นี้อย่างละเอียดถี่ถ้วน เพราะแน่นอนว่า ข้อคิดเห็นจำนวนมากจะต้องได้รับการวิเคราะห์อย่างรอบคอบเพื่อใช้มาตรการที่เหมาะสมมุ่งสร้างหลักประกันความปลอดภัยของเราเอง”

ในขณะที่ปธน.ปูตินยังไม่ออกความเห็นอย่างไร อดีตประธานาธิบดีออกมาเตือนทั้งเมกา-นาโต้ว่ากำลังจะผลักดันโลกเข้าสู่สงครามใหญ่อย่างเห็นแก่ตัว และถ้าบังอาจถล่มโรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์สโมเลนสก์ ของรัสเซียด้วยขีปนาวุธของนาโต้ รัสเซีย ก็อาจจะโจมตีโรงงานนิวเคลียร์ในยุโรปตะวันออกเช่นกัน แลกหมัดกันให้แหลกกันไปข้าง

วันที่ ๑๒ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ(Dmitry Medvedev) อดีตประธานาธิบดีรัสเซียและรองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งรัสเซีย ได้เตือนว่าคำมั่นสัญญาใหม่ของ NATO สำหรับเคียฟกำลังเพิ่มความเสี่ยงของความขัดแย้งให้ขยายวงกว้างขึ้น

ความช่วยเหลือทางทหารของตะวันตกที่ดำเนินต่อไปยังเคียฟรังแต่จะเพิ่มความเสี่ยงในการเพิ่มความขัดแย้งกับรัสเซีย และทำให้โลกเข้าใกล้สงครามโลกมากขึ้น 

ในโพสต์บนช่องโทรเลขของเขา เมดเวเดฟได้วิพากษ์ถึงแพ็คเกจการป้องกันใหม่ที่สนับสนุนอาวุธชั้นสูงเพิ่มขึ้นแก่ยูเครนและประกาศโดยผู้สนับสนุนตะวันตกอย่างเย่อหยิ่ง

เมดเวเดฟกล่าวว่า“ชาติตะวันตกที่คลั่งไคล้เต็มที่ไม่สามารถคิดอะไรได้อีก” “ในความเป็นจริงมันเป็นทางตัน สงครามโลกครั้งที่ 3 กำลังใกล้เข้ามาแล้ว” เขาเสริมว่าการตัดสินใจช่วยเหลือนั้น“สามารถคาดเดาได้สูงจนถึงจุดที่โง่เขลาเบาปัญญา”

“ทั้งหมดนี้มีความหมายต่อเราอย่างไร? ทุกอย่างชัดเจน ปฏิบัติการทางทหารพิเศษจะดำเนินต่อไป โดยเป้าหมายยังคงเดิม”

ความเห็นของเมดเวเดฟมีขึ้นในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญทั้งสองฝ่ายแสดงความกังวลว่าความตึงเครียดระหว่างรัสเซียและตะวันตกในปัจจุบันอาจนำไปสู่สงครามโลกครั้งใหม่ และถึงขั้นจุดชนวนการใช้อาวุธนิวเคลียร์ 

แม้ว่ายูเครนจะถูกปฏิเสธการเป็นสมาชิก NATO ในทันที เนื่องจากกลัวว่ายูเครนจะทำให้สงครามลุกลามกลายเป็นสงครามเปิดระหว่างรัสเซียและพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ แต่ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของเคียฟให้คำมั่นว่าจะยังคงให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม นั่นคือจะใช้ไม้เดิมแอบหลังยูเครนรบกับรัสเซียเพราะไม่กล้าปะทะกับรัสเซียโดยตรง

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ อนุญาตให้โอนกลุ่มอาวุธยุทโธปกรณ์ที่รู้จักกันในนามคลัสเตอร์บอมไปยังยูเครน แม้ว่าก่อนหน้านี้ทำเนียบขาวจะประณามการใช้อาวุธดังกล่าวว่าเป็นอาชญากรรมสงครามก็ตาม 

ฝรั่งเศสวางแผนที่จะจัดหาขีปนาวุธร่อนระยะไกล SCALP ให้แก่เคียฟ ในขณะที่เยอรมนีให้คำมั่นว่าจะจัดหารถถังต่อสู้หลัก Leopard 1 A5 เพิ่มเติมอีก ๒๕ คัน และรถหุ้มเกราะ Marder ๔๐ คัน รวมถึงแบตเตอรี่ป้องกันภัยทางอากาศ Patriot ที่ผลิตในสหรัฐฯ อีก ๒ กระบอก แค่นี้ไม่คาระนามือรัสเซียรอบก่อนมากกว่านี้ยังโดนทุบเรียบ

เจ้าหน้าที่รัสเซียเตือนหลายครั้งว่าการส่งอาวุธหนักและความช่วยเหลือทางทหารอื่น ๆ ไปยังยูเครนทำให้สมาชิก NATO มีส่วนร่วมโดยตรงในความขัดแย้งระหว่างมอสโกว์กับเคียฟ มอสโกว์ยังยืนกรานว่าการสนับสนุนจากตะวันตกจะไม่เปลี่ยนแนวทางการต่อสู้และไม่ทำให้กองกำลังรัสเซียพ่ายแพ้และล้มเหลวจากการบรรลุเป้าหมายในสนามรบอย่างแน่นอน!