พรรคปากอย่างใจอย่าง! โบว์ หวด “พิธา” โผล่อ้างจงรักภักดีสถาบัน แต่ไล่ดูส.ส.ในพรรค โพสต์หมิ่น-โดนคดี 112 เพียบ

0

จากกรณีที่วันนี้ (12 กรกฎาคม 2566) นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ได้ให้สัมภาษณ์พิเศษกับสรยุทธ สุทัศนะจินดา ในรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เปิดเผยความพร้อมของการโหวตเหลือกนายในวันพรุ่งนี้ว่า

ถึงตอนนี้มั่นใจว่าจะได้เป็นนายก แต่ไม่ประมาท เนื่องจากมีหลากหลายสถานการณ์ มีความเคลื่อนไหวมากมายในช่วงโค้งสุดท้าย แต่มั่นใจว่าตนได้สื่อสารกับประชาชน และพร้อมทำงานอย่างเต็มที่ ส่วนกรณีที่มีการส่งต่อ ข้อความต่างๆของ ส.ว. ตนเห็นแล้ว มองว่าการนำสถาบันมาโหน ยิ่งจะทำให้เสียงของประชาชนแตกแยก ไม่เป็นผลดีต่อสถาบันเลย

ตนมองว่าพระองค์ท่านอยู่เหนือการเมือง ไม่ควรจะนำมาเป็นเหตุและผลตรงนี้ อยากวอนให้หยุดนำสถาบันลงมาเป็นข้ออ้างบังหน้า ยืนยันว่าพิธาและพรรคก้าวไกลจงรักภักดี และต้องการธำรงค์ให้การปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นระบบต่อไป พร้อมยืนยันไม่ได้ปลุกประชาชนเพื่อมาปกป้อง แต่เป็นหน้าที่ของตนที่จะปกป้องประชาชน

ต่อมาทางด้านของ โบว์ ณัฏฐา มหัทธนา นักกิจกรรมนักเคลื่อนไหวทางการเมือง ได้โพสต์ข้อความบนเฟซบุ๊กถึงกรณีดังกล่าว โดยบอกว่า ยังไม่ได้ดูเรื่องเล่าเช้านี้ และไม่ทราบว่าคุณพิธาได้ให้สัมภาษณ์ไว้อย่างไรบ้าง แต่หากมีการยืนยันความจงรักภักดีขนาดนั้นจริง เราคิดว่าพรรคก้าวไกลต้องตอบคำถามสังคมจริงๆแล้วค่ะ ว่าทำไมจึงเลือกคนที่โด่งดังมาจากการแสดงความคิดเห็นสาธารณะตามที่ปรากฏในภาพนี้มาเป็นส.ส.ของพรรคได้ จะอ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นคงไม่ได้จริงๆ

เพราะไม่ใช่เหตุการณ์เก่าๆและไม่ได้ไปแอบโพสต์ที่ไหน แต่โพสต์ในขณะที่เริ่มมีชื่อเสียงจากการ “ขับเคลื่อนสังคมด้วยการด่า” แล้ว และในพรรคก็ไม่ได้มีแบบนี้คนเดียวด้วย โดนคดีจากการแสดงออกลักษณะนี้ก็หลายคน นับเท่าที่เป็นการแสดงออกต่อสาธารณะ

ยังไม่ต้องอภิปรายว่าคนเราต้องจงรักภักดีหรือไม่แค่ไหนอย่างไร (ส่วนตัวคิดว่าแค่ไม่ทำร้ายทำลายกันก็ยังดี) แต่ถามว่าสิ่งที่พูดกับการกระทำที่ผ่านมาหลายอย่าง มันย้อนแย้งกันมากเกินไปหรือไม่? กลุ่มเคลื่อนไหวที่มีพฤติกรรมหนักกว่านี้มาก พรรคก้าวไกลเอื้อเฟื้อเกื้อกูลกันมาขนาดไหน ทุกคนก็เห็น
ร่างเสนอแก้ 112 ของพรรคก้าวไกล ก็มีเนื้อหาที่มีปัญหาและไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 6 ร่างมาแบบแทบไม่เหลือความคุ้มครอง โทษต่ำกว่าหมิ่นประมาทบุคคลธรรมดาด้วยการโฆษณา มีเจตนาดึงสำนักพระราชวังมาเป็นผู้ฟ้อง ด้วยเหตุผลว่าคนที่เดือดร้อนจากการถูกหมิ่นก็ต้องฟ้องเอง เปิดช่องให้เกิดการลดทอนสถานะสถาบันหลักของชาติอย่างชัดเจน แล้วยังผลักดันการนิรโทษกรรมให้การกระทำเหล่านี้ ที่เกิดขึ้นภายใต้การรับรู้และติดตามอย่างใกล้ชิดของพรรคก้าวไกลในช่วงสามปีที่ผ่านมา ถ้าเป็นเช่นนั้น เราจะไว้ใจพรรคการเมืองที่ปากอย่างใจอย่างได้อย่างนั้นหรือ?
นอกจากนี้ ทางด้านของโบว์ ณัฏฐา ยังมีการโพสต์ภาพ ซึ่งเป็นข้อความของ ไอซ์ รักชนก ศรีนอก ส.ส.กทม. เขต 28 พรรคก้าวไกล ได้โพสต์ข้อความที่เข้าข่ายหมิ่นสถาบัน ย้อนไปเมื่อ วันที่ 23 มี.ค. 2565 พนักงานอัยการ สำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา 10 ได้มีคำสั่งฟ้องคดีของ ไอซ์ รักชนก ศรีนอก ต่อศาลอาญา ในคดีความตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ
กรณีทวีตข้อความวิจารณ์รัฐบาลว่า ผูกขาดการจัดซื้อจัดหาวัคซีนโควิด-19 ไว้กับสถาบันพระมหากษัตริย์ และกรณีรีทวิตภาพถ่ายในการชุมนุม #16ตุลาไปแยกปทุมวัน ปี 2563 ซึ่งมีข้อความที่ถูกกล่าวหาว่าต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วย