จากผลพวงจากการคว่ำบาตรทำให้ธนาคารล้มละลายอย่างโดมิโน ทั้งพลังงาน และสินค้ารัสเซีย ซึ่งราคาแพงขึ้นหลายเท่า ส่งผลกระทบต่ออัตราเงินเฟ้อสหรัฐ สูงขึ้น ทำให้ธนาคารกลาง FED ทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยหลายระลอก
ทั้งนี้ยังมีความเคลื่อนไหวที่น่าติดตามที่ชาติพันธมิตรรัสเซีย โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างผู้นำที่ทำให้สหรัฐอเมริกาต้องเฝ้าจับตา ซึ่ง Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความไว้เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566 ถึงเหตุการณ์ในอุซเบกิสถานว่า
“เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาอุซเบกิสถาน มีการเลือกตั้งใหญ่ กกต.นับคะแนนแล้วประกาศให้ นายชัฟคัต มีร์ซิโยเยฟ ที่เป็นโปรรัสเซีย ได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีซ้ำอีกครั้ง โดยได้รับคะแนนเสียงถล่มทลายมากถึง 87.05%
มีชัยชนะเหนือหัวหน้าพรรคที่อ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย โปรตะวันตกอีก 3 พรรค ที่ได้คะแนน 4.43% , 4.02% และ 3.74% ตามลำดับ
ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ต่อสายแสดงความยินดี และส่งสารแสดงความมั่นใจว่าทั้งสองประเทศจะส่งเสริมความสัมพันธ์ที่เป็นประโยชน์ร่วมกัน
อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แคนดิเดตผู้สมัครชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในปลายปีหน้า 2567 ประกาศหาเสียงให้คำมั่นว่าจะยุติสงครามยูเครน ได้ภายใน 24 ชั่วโมง งดให้กู้ยืมอาวุธแล้วนำเงินมาดูแลชาวอเมริกัน
ส่วนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ประกาศหาเสียงข่มว่า สามารถยุติสงครามยูเครนได้ภายใน 5 นาที ด้วยการยอมยกดินแดนยูเครนทั้งหมดให้กับรัสเซีย สร้างความหัวร้อนให้ผู้นำยูเครนอย่างมาก
วิเคราะห์ว่าเริ่มเห็นสัญญาณนานาชาติหวาดระแวง การเกิดความแตกแยกไม่เป็นเอกภาพในสหภาพยุโรป และฝ่ายสัมพันธมิตร NATO จากปัญหาวิกฤติเศรษฐกิจ และความวุ่นวายทางสังคม การประท้วงและก่อจลาจลภายในชาติ
ชาติที่ส่งอาวุธให้ยูเครน กู้ยืมทำสงคราม อาวุธเหล่านี้กลับกระตุ้นความรุนแรงสงครามยูเครน เพิ่มอัตราเร่งผู้อพยพลี้ภัยทะลักเข้าสู่ยุโรป จำนวนหลายล้านคน แต่สหรัฐ ปฏิเสธรับผู้อพยพชาวยูเครนเหล่านี้
ตั้งแต่ปี 2565 รัฐบาลในสหภาพยุโรป ที่โปรสหรัฐ ทยอยล่มเก้าอี้หักไปแล้วเกือบ 50% ความเจริญทางเศรษฐกิจ GDP ถดถอย ส่วนรัฐบาลที่โปรรัสเซีย กลับมีชัยชนะในการเลือกตั้งต่อเนื่องจากสมัยเดิม และเศรษฐกิจ GDP ขยายตัว
ปัญหาใหญ่คือ ทองคำที่นานาชาติขอทวงคืนส่งกลับ สหรัฐจะยอมคืนให้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมาจะบ่ายเบี่ยง ให้มาแต่ตัวเลขทางบัญชี แต่ไม่ยอมคืนทองคำจริงๆ ให้
กระทรวงการคลังไทย สมัยยุคนายปรีดี ฝากสหรัฐฯ ไว้จำนวน 1 ล้านออนซ์ หรือ 31,104 กิโลกรัม หรือ 31 ตัน จนป่านนี้ไทยทวงผ่านไปเกือบ 90 ปี ก็ยังไม่ได้คืน ทองคำในคลังสำรองของสหรัฐฯ ที่อ้างว่ามีมากที่สุดในโลกกว่า 8,000 ตันนั้น
จริงๆ แล้วส่วนใหญ่น่าจะเป็นทองคำสำรองของประเทศต่างๆ ที่เคยฝากไว้ แล้วสหรัฐ ส่งมอบแต่เอกสารตัวเลขทางบัญชีให้เจ้าของเอาไปนอนกอดฝันหวานแทนทองคำจริงแน่นอน”