มหาอำนาจโลกหมดท่า! แฉ สหรัฐฯ ขอร้องจีนไม่ให้ค้าขายกับรัสเซีย-เป็นลูกหนี้ แบขอยืมเงินทำศึกนอกประเทศ

0

มหาอำนาจโลกหมดท่า! แฉ สหรัฐฯ ขอร้องจีนไม่ให้ค้าขายกับรัสเซีย-เป็นลูกหนี้ แบขอยืมเงินทำศึกนอกประเทศ

จากกรณีเมื่อวันที่ 9 ก.ค.2566 นางเจเน็ต เยลเลน รมว.กระทรวงการคลังสหรัฐ ได้กล่าวหลังเสร็จสิ้นการเยือนจีนอย่างเป็นทางการนาน 4 วัน และพบหารือกับเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลปักกิ่งหลายคน รวมถึงนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรี ว่าทั้งสองประเทศต้องบริหารจัดการความสัมพันธ์ครั้งนี้ด้วยความรับผิดชอบ ซึ่งการเยือนกรุงปักกิ่งของเยลเลน ซึ่งถือเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลวอชิงตันคนที่สอง ต่อจากนายแอนโทนี บลิงเคน รมว.กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ เมื่อเดือนที่แล้ว กลับไม่ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ใดมากนัก

ต่อมาเมื่อวานนี้ (10 กรกฎาคม 2566) Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีการเจรจาระหว่างสหรัฐฯและจีน โดยบอกว่า เมื่อปี 2526 จีนจัดเป็นประเทศยากจนมาก แต่ผ่านมาแค่ 40 ปี ระบอบการปกครองแบบอนุรักษ์นิยม ส่งผลให้จีนพลิกกลับมีระบบเศรษฐกิจใหญ่เบอร์ต้นของโลก เป็นเจ้าหนี้อันดับ 2 ของสหรัฐ รายได้ต่อหัวพลเมืองสูงมาก

ปี 2565 ที่ผ่านมาจีนร่วมกับรัสเซีย จัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว ไม่นานจากนั้นหมู่บ้านฮัวหยวน แปลว่า “หมู่บ้านสวนดอกไม้” อยู่ที่เมืองตงหยาง มณฑลเจ้อเจียง ภาคตะวันออกของจีนได้รับความสนใจอย่างมาก เพราะคณะกรรมการหมู่บ้านกำหนดว่า ครอบครัวที่มีสินทรัพย์น้อยกว่า 5 ล้านหยวน (ราว 25 ล้านบาท) จะถูกจัดเข้ารายชื่อ “ครอบครัวยากจน” จะมีนโยบายให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ

เมื่อกว่า 40 ปีก่อน เป็นหมู่บ้านที่ยากจนและล้าหลัง รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีของชาวบ้านไม่เกิน 100 หยวน (500 บาท) รัฐบาลจีน ดำเนินนโยบายปฏิรูปประเทศ ส่งผลให้หมู่บ้านนี้เปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง มีอาคารสูงและสิ่งอำนวยความสะดวกทางการค้าที่ทันสมัย มีบ้านแบบวิลล่าจำนวนมาก บางคนถึงกับมีคฤหาสน์หรู ทั้งหมู่บ้านไม่เหมือนชนบทเช่นในอดีต แต่กลายเป็นเมืองทันสมัย ผู้ใหญ่บ้านให้ข้อมูลว่า ได้จำแนกรายได้ครอบครัวในหมู่บ้าน เป็น 3 ระดับ คือ

1. มีสินทรัพย์น้อยกว่า 5 ล้านหยวน (25 ล้านบาท) เป็นครอบครัวยากจน
2. มีสินทรัพย์ 10 ล้านหยวน (50 ล้านบาท) เป็นครอบครัวธรรมดา
3. มีสินทรัพย์ 50 ล้านหยวน (250 ล้านบาท) เป็นครอบครัวที่มั่นคง
4. มีสินทรัพย์มากกว่า 100 ล้านหยวน (500 ล้านบาท) เป็นครอบครัวที่ร่ำรวย

ในช่วงต้นของการปฏิรูปและเปิดประเทศ รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีของชาวบ้านมีเพียง 78 หยวน (390 บาท) เท่านั้น ใช้ชีวิตยากลำบากมาก หลังจากรัฐบาลประกาศนโยบายปฏิรูปและเปิดประเทศ ชาวนาในท้องถิ่นปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตโดยพยายามเข้าร่วมกิจการพัฒนาเศรษฐกิจต่างๆ กับรัฐ โดยเริ่มจากการพัฒนาอุตสาหกรรมเกษตร ปลูกผลไม้ที่ขายได้ราคา เลี้ยงสัตว์ปีก ฯลฯ หลังจากนั้นก็ลงทุนพัฒนาอุตสาหกรรมการผลิต เริ่มตั้งแต่โรงงานผลิตธูปเทียน โรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า

ระยะต่อมาเป็นเครื่องจักรอิเล็กทรอนิกส์ ยาชีวภาพ เฟอร์นิเจอร์ไม้มะฮอกกานี อุตสาหกรรมการผลิตระดับสูง เช่น วิตามินดี3 ฯลฯ บรรยากาศประกอบกิจการที่รุ่งเรือง ดึงดูดพ่อค้าจากพื้นที่ต่างๆ มาลงทุนด้วย หมู่บ้านแห่งนี้พัฒนาด้วยนวัตกรรมใหม่อย่างไม่ขาดสาย และกลายเป็นแบบอย่างของการพัฒนาหมู่บ้านชนบทในประเทศจีน ได้รับการขนานนามว่า “หมู่บ้านอันดับ 1 ของมณฑลเจ้อเจียง” และ “1 ใน 10 ของหมู่บ้านสวยงามและมั่งคั่งของจีน”

ปี 2022 รายได้โดยรวม GDP ของหมู่บ้านสวนดอกไม้ สูงถึง 65,500 ล้านหยวน (327,000 ล้านบาท) รายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีพุ่งพรวดเป็น 165,000 หยวน (825,000 บาท เฉลี่ยเดือนละ 68,750 บาท)
เมื่อเทียบกับรายได้เฉลี่ยต่อคนต่อปีเมื่อ 40 ปีก่อน เพิ่มขึ้นมามากกว่า 1,650 เท่าตัว แตกต่างกันราวฟ้ากับดิน ผู้ใหญ่บ้าน ตั้งเป้าหมายว่า จะสร้างหมู่บ้านนี้ให้เป็นหมู่บ้านที่สวยงามที่สุดและร่ำรวยที่สุดของโลก ทำให้ชาวนาในหมู่บ้าน เป็นชาวนาที่รวยที่สุดและมีความสุขมากที่สุดในโลก

เมื่อวันที่ 6-9 ก.ค.2566 นางเจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีคลังสหรัฐ เดินทางไปพบรองนายกรัฐมนตรีจีน เหอ ไลฟ์เซิน ของจีน ขอร้องวิงวอนให้บริษัทจีน ปฏิเสธที่ค้าขายพลังงาน สินแร่ กับรัสเซีย เธออ้างว่าเป็นการฝ่าฝืนการคว่ำบาตรของชาติตะวันตกฝ่ายเดียว แต่สหรัฐ จะยังคงให้กู้ยืมอาวุธแก่ยูเครนทำสงครามยืดเยื้อต่อไปเพื่อรุมรัสเซีย จึงขอร้องไม่ให้จีนเข้ามาค้าขายกับรัสเซีย เพราะจะทำให้สหรัฐ และชาติตะวันตกพ่ายแพ้หมดรูปในที่สุด

เธอถูกสังคมสหรัฐ วิจารณ์อย่างหนักว่าโค้งคำนับอ่อนน้อมขณะจับมือกับจีน เพราะชาวอเมริกันจะไม่เคยยอมอ่อนน้อมต่อชาติใด เพราะคือสัญลักษณ์ของความอ่อนแอ นายวิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการองค์กร CIA สหรัฐ โวยวายว่า รัสเซียได้ปฏิบัติการทางทหารปลดปล่อยดินแดนยูเครน ขัดต่อระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวที่ให้อำนาจสหรัฐ กระทำต่อชาติอื่นได้ฝ่ายเดียวเท่านั้น

จีน กับรัสเซีย กำลังวางแผนล้มระเบียบโลกเก่าขั้วเดียวที่สหรัฐเป็นใหญ่ แล้วจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว กระจายอำนาจไปยังทวีปต่างๆ ทำให้สหรัฐ สิ้นอำนาจปกครองโลก เขาบอกว่าประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ก้าวขึ้นสู้ผู้นำจีนสมัยที่ 3 ครองอำนาจมากและยาวนานอย่างไม่เคยมีมาก่อนจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้วแข็งแกร่งขึ้นมาแทนที่ระเบียบโลกเก่าที่สหรัฐกำหนด จีนจึงเป็นคู่แข่งทางภูมิรัฐศาสตร์และข่าวกรองที่ใหญ่ที่สุด เป็นคู่แข่งลำดับความสำคัญสูงสุดในระยะยาว

ตอนนี้สีจิ้นผิง มีอำนาจมากกว่าเหมาเจ๋อตุง แต่แทนที่เขาจะใช้พลังอำนาจนั้นเพื่อเสริมสร้าง ฟื้นฟู และต่ออายุระเบียบโลกเก่า ก้มหัวต่อสหรัฐ แต่จีน กลับแข็งข้อจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้ว หวังมีอำนาจขึ้นมาแทนที่

วิเคราะห์ว่า..สหรัฐ ยังเป็นลูกหนี้แบมือขอกู้เงินจากจีนมาใช้ แถมรุมสู้รบกับรัสเซีย ก็ยังไม่ไหวอ่อนแอลงทุกวัน ข่มขู่สั่งชาติใดในตะวันออกกลาง และทวีปอื่นนานาชาติก็เอาหูทวนลม แค่หมู่บ้านสวนดอกไม้แห่งเดียวของจีน ยังมีเงินรวยอู่ฟู่มากกว่าเมืองในสหรัฐ ตราบเท่าที่ สหรัฐ ยังกู้เงินจีน เอามาทำสงครามนอกประเทศไปวันๆ คนไร้บ้านเกลื่อนเมือง ก็ต้องสูญเสียอำนาจให้จีน รัสเซีย ที่ร่ำรวยกว่าอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454