แฉสหรัฐทำทุกอย่างก่อศึกเอเซีย เตือนระวังอุบัติเหตุสะเทือนขวัญ หลังยั่วยุส่งเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ เข้าใกล้ชายแดน
จากกรณีที่วันนี้ (10 กรกฎาคม 2566) สำนักข่าว RT ได้รายงานว่า เกาหลีเหนือเตือนสหรัฐฯ ระวัง อุบัติเหตุสะเทือนขวัญ โดยมีรายละเอียดระบุว่า เปียงยางกล่าวหาวอชิงตันว่า “แบล็กเมล์นิวเคลียร์” และสอดแนม “เกินกว่าระดับสงคราม”
กองทัพเกาหลีเหนือกล่าวหา เพนตากอนว่าเพิ่มความตึงเครียดจนถึงระดับวิกฤตและผลักดันให้ภูมิภาคนี้เข้าใกล้หายนะนิวเคลียร์มากขึ้นกว่าเดิม พร้อมเตือนว่าการก้าวพลาดใดๆ อาจนำไปสู่ “อุบัติเหตุที่น่าตกใจ” ตามถ้อยแถลงโดยสื่อของรัฐ
สถานการณ์ในคาบสมุทรเกาหลีกำลังจวนเจียนจะเกิดความขัดแย้งทางนิวเคลียร์อันเนื่องมาจากปฏิบัติการทางทหารที่ยั่วยุของสหรัฐฯ กระทรวงกลาโหมในกรุงเปียงยางอ้างโดยอ้างถึง แผนการของวอชิงตัน ที่จะส่งเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ไปยังเกาหลีใต้แบบผลัดเปลี่ยนหมุนเวียน
“ความพยายามของสหรัฐฯ ในการส่งอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธศาสตร์เข้าสู่คาบสมุทรเกาหลีเป็นการแบล็กเมล์นิวเคลียร์ที่ไม่เปิดเผยที่สุดต่อเกาหลีเหนือและประเทศเพื่อนบ้าน ทั้งยังเป็นภัยคุกคามร้ายแรงและท้าทายต่อสันติภาพและความมั่นคงในระดับภูมิภาคและระดับโลก” โฆษกกองทัพกล่าว
เปียงยางกล่าวหา วอชิงตันว่าเพิ่มกิจกรรมการสอดแนมอย่างรุนแรงและละเมิดน่านฟ้าของเกาหลีเหนือซ้ำแล้วซ้ำเล่า พร้อมเสริมว่าสหรัฐฯ“จะต้องจ่ายแพงอย่างแน่นอนสำหรับการจารกรรมทางอากาศที่ยั่วยุ ไม่มีการรับประกันว่าอุบัติเหตุที่น่าตกใจ เช่น เครื่องบินสอดแนมทางยุทธศาสตร์ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ตก จะไม่เกิดขึ้นในทะเลตะวันออกของเกาหลี พร้อมเรียกร้องให้สหรัฐฯ “ระลึกถึงชะตากรรมอันน่าสลดใจ” ของสายลับทางอากาศของตน ได้แก่ การตกของเครื่องบิน EC-121 ในปี 2512 และเฮลิคอปเตอร์ OH-58 ในปี 2537
เกาหลีเหนืออ้างว่าพวกเขา“รักษาความอดทนและควบคุมตนเองอย่างเต็มที่”แต่เตือนว่า“ทุกอย่างมีขีดจำกัด”และ“สหรัฐฯ ใกล้ถึงจุดวิกฤตที่ต้องกังวล”
สหรัฐฯ และเกาหลีใต้เพิ่มการซ้อมรบร่วมกันทางอากาศและกองทัพเรือในปีนี้ โดยเพนตากอนได้ส่งกำลังบำรุงทางยุทธศาสตร์ เช่น เครื่องบินทิ้งระเบิดหนักและเรือบรรทุกเครื่องบิน เกาหลีเหนือถือว่าการส่งกำลังพลของสหรัฐฯ เข้าใกล้ดินแดนของตนเป็น“การยั่วยุ”และมักจะตอบโต้ด้วยการขู่ด้วยวาจา การซ้อมรบของตนเอง หรือการทดสอบอาวุธใหม่
ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ และนายยุน ซุก-ยอล ประธานาธิบดีเกาหลีใต้ ประกาศเมื่อเดือนเมษายนถึงโครงการความร่วมมือด้านนิวเคลียร์ที่เพิ่มขึ้น ภายใต้สิ่งที่เรียกว่าปฏิญญาวอชิงตัน สหรัฐฯ จะส่งเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์และเครื่องบินทิ้งระเบิดไปยังประเทศในเอเชียเป็นระยะๆ เป็นครั้งแรกในรอบเกือบครึ่งศตวรรษ แม้ว่าจะไม่มีการประกาศกรอบเวลาที่ชัดเจนสำหรับการติดตั้งดังกล่าว แต่เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ของสหรัฐฯ ติดอาวุธด้วยขีปนาวุธร่อน แต่ไม่มีนิวเคลียร์ ได้ทำการเทียบท่าที่เมืองปูซานเมื่อเดือนที่แล้ว
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.rt.com/news/579453-korea-us-spy-plane-shocking-accident/
