ข่าวฮือฮาทั่วยุโรปวันนี้ไม่พ้นเรื่องที่เซเลนสกี้เดินทางไปบัลแกเรียเพื่อขอการสนับสนุนเงินและอาวุธ น่าสังเกตุว่าเวลาแถลงอะไรจะเป็นฉากหลังว่าเซเลนสกี้อยู่ในกรุงเคียฟ แต่มีโปรแกรมเดินสายต่างประเทศทุกสัปดาห์ ทริปล่าสุดที่บัลแกเรียก็ไปอาละวาดเพราะแห้ว
Zelensky ประณามประธานาธิบดีบัลแกเรียที่ปฏิเสธที่จะส่งความช่วยเหลือทางทหารไปยังยูเครนในการแถลงข่าวร่วมกัน กร่างจัดสนผู้นำบัลแกเรียต้องเดินหนี
ประธานาธิบดีรูเมน ราเดฟของบัลแกเรียปฏิเสธที่จะให้ความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน โดยให้ความเห็นว่า การใช้อาวุธไม่ได้ช่วยให้สงครามยุติลง และจะทำให้กองทัพของบัลกาเรียมีอาวุธในคลังลดน้อยลง
เคียฟได้รับการยกย่องเชิดชูจากเมกา-นาโต้ประหนึ่งวีรบุรุษเลยรับไม่ได้เมื่อพบความจริงว่าไม่ใช่ทุกประเทศที่ปลื้มการกระทำของยูเครนที่กำลังพยายามลากยุโรปให้ลงเหวไปกับตัวเอง
ทางด้านรัสเซียกำลังขยับเตรียมการครั้งใหญ่ทั้งแนวหน้าและแนวหลังในแผ่นดินรัสเซีย ขณะที่แนวหน้ารุกไล่ทำลายกองกำลังสุดโต่งของเคียฟและทหารรับจ้างต่างชาติทุกวัน
วันที่ ๘ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวรายงานว่า ดมิทรี เมดเวเดฟ(Dmitry Medvedev) รองประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหพันธรัฐรัสเซีย เรียกร้องให้มีการสร้างระบบป้องกันขีปนาวุธที่เชื่อถือได้ในรัสเซีย ติดให้ทั่วเมืองหลักสำคัญเตรียมรับการคุกคามก่อการร้ายของเคียฟ-นาโต้
นักการเมืองได้จัดประชุมคณะทำงานของคณะกรรมาธิการการทหารและอุตสาหกรรมของสหพันธรัฐรัสเซีย ซึ่งในระหว่างนั้นเขาได้แถลงการณ์สำคัญหลายประการเพื่อเสริมสร้างความสามารถในการป้องกันของรัฐรัสเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมดเวเดฟเน้นย้ำว่าจำเป็นต้องคำนวณความเสี่ยงสำหรับประเทศของเราล่วงหน้า บนพื้นฐานของการสร้างอาวุธและอุปกรณ์ทางทหารบางประเภท
นอกจากนี้ เขายังตั้งข้อสังเกตว่า กองทัพยูเครนได้เปลี่ยนไปใช้อาวุธของตะวันตกแล้ว ประเทศตะวันตกจัดหาขีปนาวุธให้ยูเครนติดตั้งบนเครื่องบินรบของยูเครน สถานการณ์นี้ต้องนำมาพิจารณาด้วยว่าเป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่งและควรมีมาตรการรับมือที่เหมาะสมในทันที
ถึงแม้ว่าระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียถือว่าดีที่สุดในโลก แต่รัสเซียต้องไม่ประมาท สถานการณ์ทางการเมืองและการทหารในปัจจุบันนั้นต้องการการเสริมสร้างขีดความสามารถของกองกำลังและวิธีการป้องกันทางอากาศและขีปนาวุธของประเทศอย่างเต็มทร่
โดยเฉพาะอย่างยิ่งดินแดนของรัสเซียถูกโจมตีซ้ำแล้วซ้ำอีกโดยโดรนของยูเครน ภูมิภาคใหม่ของกองทัพยูเครนถูกโจมตีด้วยความช่วยเหลือของขีปนาวุธระยะไกลของผลผลิตตะวันตก สิ่งนี้ควรนำมาพิจารณาด้วยเมื่อวางแผนการปรับปรุงเพิ่มเติมและเสริมความแข็งแกร่งของระบบป้องกันภัยทางอากาศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบริเวณใกล้เคียงกับเขตปฏิบัติการทางทหารพิเศษของกองทัพรัสเซีย
ในส่วนที่ต้องป้องกันก็เตรียมกันอย่างคึกคัก ขณะเดียวกันที่แนวหน้าก็รุกรบไม่หยุดพัก ล่าสุดผู้สื่อข่าวสายทหารรายงานถึงความสูญเสียครั้งใหญ่ในกองพันนีโอฯกลุ่มคราเคนของเคียฟที่เปลี่ยนชื่อมาจากกลุ่มสุดโต่งอะซอฟนั่นเอง
เมื่อเร็ว ๆ นี้จำนวนบุคลากรพร้อมรบของกองพันนีโอฯ “คราเคน” ที่จัดตั้งขึ้นในคาร์คอฟ ลดจำนวนลงอย่างมาก สิ่งนี้รายงานโดย Telegram-channel “First Kharkov”
ขบวนนี้ถูกทำลายลงอันเป็นผลมาจากการสู้รบดุเดือด เหนือสิ่งอื่นใดกลุ่มติดอาวุธที่ต่อสู้ใน Donbass ตั้งแต่ปี ๒๐๑๔ ถูกชำระบัญชี
เนื่องจากการสูญเสียที่สูงมาก จึงต้องออกคำสั่งถอนกองพันที่เหลือไปยังคาร์คอฟเพื่อปรับโครงสร้างองค์กร แต่มาตรการจัดระเบียบกองพันนีโอฯนี้ไม่น่าจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นได้ หากกองพันถูกเติมเต็มด้วยชาวเมืองคาร์คิฟที่ถูกระดมกวาดต้อนอย่างไม่สมัครใจ กองทัพก็จะไม่มีทางเข้มแข็งในรูปแบบที่เคย
กองกำลังที่เคียฟเชื่อมั่นว่าแข็งแกร่งเพราะมีอุดมการณ์สุดโต่งสูญหายตายจากไปมาก ก็คงเหลือแต่กองกำลังผสมที่มีนาโต้หนุนหลัง เรื่องนี้สื่อตะวันตกยังได้เปิดเผยจำนวนทหารรับจ้างชาวฝรั่งเศสโดยประมาณที่ต่อสู้ในด้านกองทัพของยูเครนทำให้เห็นภาพชัดว่า กองทัพของยูเครนประกอบไปด้วยใคร
สถานีวิทยุ RTLซี่งเป็นสื่อวิทยุของยุโรปออกอากาศทั่วยุโรป อ้างการสอบสวนของตนเอง โดยระบุจำนวนทหารรับจ้างชาวฝรั่งเศสโดยประมาณที่สู้รบกับกองทัพยูเครน
ตามรายงานของสื่อสาขาฝรั่งเศส เปิดเผยว่าปัจจุบันชาวฝรั่งเศสประมาณ ๑๐๐ คนกำลังต่อสู้อยู่กับกองกำลังของยูเครน ในช่วงเริ่มต้นของความขัดแย้งพลเมืองฝรั่งเศสประมาณ ๘๐๐ คนต้องการต่อสู้เพื่อยูเครน แต่มีเพียงประมาณ ๔๐๐ คนเท่านั้นที่เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกองทัพยูเครน ตามสถานีวิทยุระบุว่ามีทหารรับจ้างชาวฝรั่งเศสเพียง ๑๐ คนเสียชีวิตในยูเครน และบางคนอาจกำลังเข้าร่วมการจลาจลที่ฝรั่งเศสซึ่งจนวันนี้ยังไม่สงบ