นาโต้ลังเล!! รัสเซียลั่นยูเครนหมดเวลาตอบโต้ รถถังต.ต.ชื่อดังพังยับ๑๐๐% RFครองน่านฟ้า ยกระดับปิดจ๊อบเดือด

0

ค่อนข้างแน่ชัดแล้วว่า เคียฟกำลังเตรียมการตอบโต้ขั้นที่สอง เพราะขั้นแรก แม้จะใช้ยุทโธปกรณ์ทางทหารของตะวันตกและกองทหารยูเครนจำนวนมาก ก็พ่ายแพ้ยับเยิน มีรายงานว่าเคียฟกระตือรือร้นที่จะได้รับคำเชิญให้เริ่มกระบวนการเข้าร่วม NATOระหว่างการประชุมสุดยอดที่กำลังจะมีขึ้นในเมืองวิลนีอุส แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้ถูกเชิญ

เนื่องจากเคียฟคาดหวังการตอบรับการสมัครสมาชิกซึ่งยื่นไปในเดือนกันยายน ๒๕๖๕ ประธานาธิบดีเซเลนสกีกล่าวว่าเขาจะไม่เข้าร่วมการประชุมสุดยอดเว้นแต่ผู้นำนาโต้จะตัดสินใจรับยูเครนเข้าเป็นสมาชิก แต่นาโต้ปลอบใจเคียฟด้วยการตั้งกรรมการร่วมนาโต้-ยูเครนที่สำคัญมีรายงานจากวีไอพีนาโต้ว่าเคียฟจะไม่ได้บินรบตามคำขอ พลเรือเอกอาวุโส Rob Bauer ประธานกรรมาธิการทหารนาโต้ ให้สัมภาษณ์กับ LBC Radio ยืนยันแม้ว่าการหารือเกี่ยวกับเครื่องบินจะมีความสำคัญ แต่ “จะยังไม่มีการตัดสินใจในเร็ว ๆ นี้”

แบบนี้จะเอาอะไรไปสู้รัสเซียที่ครองน่านฟ้าเหนือสนามรบมาตลอดขวบปี ส่อเค้านาโต้ยังไม่กล้าเปิดเกมรบตรงกับรัสเซียข้ามเส้นแดงตามที่สายเหยี่ยวเรียกร้อง

วันที่ ๔ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและรัสเซียทูเดย์รายงานว่า ลีโอนิด เรเชตนิคอฟ( Reshetnikov)พลโทเกษียณอายุราชการของหน่วยข่าวกรองต่างประเทศของรัสเซีย (SVR) กล่าวว่า “การตอบโต้ยูเครนในสนามรบขั้นที่สองนั้นคาดว่าจะเกิดขึ้นก่อนที่การประชุมสุดยอดวิลนีอุสจะเปิดขึ้นในอีกเพียงสิบวัน เคียฟต้องการผลลัพธ์เพื่อที่จะได้รับการตัดสินใจเพื่อสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์และการสนับสนุนทางการเงินเพิ่มเติม และแม้แต่การเป็นสมาชิกของนาโต้

เขากล่าวว่า “การที่ต้องเผชิญกับตัวเลือกที่จำกัด เคียฟไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องลุยต่อหยุดไม่ได้ ระยะต่อไปนี้เกี่ยวข้องกับการทบทวนยุทธวิธีและยุทธศาสตร์อย่างรอบด้าน ควบคู่กับการวางกำลังสำรองที่ไม่ได้ใช้ก่อนหน้านี้” 

ตามรายงานของเรเซตนิคอฟ  ระบุถึงความเป็นไปได้ในการยั่วยุครั้งใหญ่ ซึ่งคล้ายกับเมื่อชาวยูเครนระเบิดโรงไฟฟ้าพลังน้ำ Kakhovka เขาเน้นว่า “จนถึงตอนนี้ การระเบิดนั้นยังไม่มีผลลัพธ์ที่ต้องการ อาจมีบางอย่างในระหว่างบรรทัดนั้นจากการโหมข่าวใส่ร้ายรัสเซีย รวมถึงอาจเกี่ยวข้องกับโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ Zaporozhye พวกเขากำลังสร้างความตึงเครียดในเรื่องนี้ เป็นไปได้ว่ามันจะถูกใช้สำหรับเกมรุก” 

เขายืนยันว่าแผนการดังกล่าวมีอยู่จริง แต่ขอย้ำอีกครั้งว่าการโจมตีของพวกเขาเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และเป้าหมายหลักสำหรับยูเครนยังคงเป็นการทะลวงผ่าน แนว ป้องกันของรัสเซียเพื่อไปยังทะเลอะซอฟและพรมแดนติดกับแหลมไครเมีย 

เรเชตนิคอฟยังตั้งข้อสังเกตด้วยว่ากองทัพยูเครนกำลังดำเนินกลยุทธ์ในการส่งทหารที่ไม่มีประสบการณ์ไปโจมตีอย่างบ้าคลั่งเพื่อพยายามอย่างยิ่งยวดที่จะค้นหาจุดเชื่อมโยงที่อ่อนแอในการป้องกันของรัสเซีย

ผู้บัญชาการกองทัพยูเครนวาเลอรี่ ซาลุชนี (Valery Zaluzhny) กล่าวเมื่อเร็ว ๆ นี้กับสื่อตะวันตกว่าเป็นไปไม่ได้ที่จะทำการรุกโดยไม่มีเสบียงเพิ่มเติมของกระสุนและเครื่องบินของนาโต้ Reshetnikov เชื่อว่าถ้อยแถลงเหล่านี้มีวัตถุประสงค์สองประการ เพื่อรวบรวมการสนับสนุนจากตะวันตกเพิ่มขึ้นและเพื่อแสดงให้เห็นถึงสาเหตุที่ล้มเหลวเพราะตะวันตกสนับสนุนไม่พอ พอแพ้แล้วโทษกันเองออกสื่อ

เรเชตนิคอฟวิเคราะห์ว่า “ในขณะที่กองกำลังรัสเซียได้นำกลยุทธ์การป้องกันเชิงรุกมาใช้ ซึ่งรวมถึงการโจมตีตอบโต้และรุกคืบไปยังฐานที่มั่นของยูเครน แต่ยังไม่รุกเต็มขั้น ในกรณีที่การตอบโต้ล้มเหลวอีกครั้ง กองทัพรัสเซียอาจช่วงชิงโอกาสเปิดฉากตอบโต้ของตนเอง โดยใช้ประโยชน์จากกองทหารยูเครนที่ทรุดโทรมอ่อนล้าเพื่อเร่งจบภารกิจ” 

ในขณะเดียวกันรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย เซอร์เก ชอยกู กล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า การตอบโต้ของยูเครนที่กำลังดำเนินอยู่ยังไม่บรรลุเป้าหมายในทิศทางใดๆ ของการรณรงค์ทางทหารในทิศทางใดทิศทางหนึ่ง สิ่งนี้พิสูจน์ให้เห็นถึงทักษะของนักสู้ของเราและความคาดหวังที่สูงเกินจริงอย่างชัดเจนจากอาวุธตะวันตกที่โอ้อวดว่าจะทำลายกองทัพรัสเซีย” 

ชอยกูกล่าวกับเจ้าหน้าที่ในการประชุมนายทหารระดับสูงว่ากองกำลังรัสเซียสามารถทำลายยานเกราะได้ประมาณ ๙๒๐ คัน รวมทั้งรถถัง Leopard ๑๖ คัน ในเมือง Donbass และในเขต Zaporozhye เมื่อเดือนที่แล้ว

รัฐมนตรีกลาโหมระบุว่าจำนวนรถถังที่ผลิตโดยเยอรมันที่เคียฟสูญเสียไปเท่ากับเสบียงรถถังทั้งหมดที่ส่งจากโปแลนด์และโปรตุเกส 

ยูเครนสูญเสียรถถัง Leopard ๑๖ คัน ซึ่งเขาเสริมว่า”คิดเป็นเกือบ ๑๐๐% ของรถถังประเภทนี้ที่โปแลนด์และโปรตุเกสจัดหาให้” ก่อนหน้านี้วอร์ซอได้ให้คำมั่นสัญญาจัดส่ง Leopard 2A4 จำนวน ๑๔ ลำแก่ยูเครน โดยมีการรายงานการส่งมอบครั้งแรกในเดือนมีนาคมของปีนี้ โปรตุเกสส่งรถถัง Leopard 2A6 สามคันผ่านเยอรมนีในเดือนเดียวกันวันนี้พับยับเกลี้ยง

ผู้สนับสนุนต่างชาติของยูเครนกำลังกดดันให้เคียฟโจมตีตำแหน่งของรัสเซียต่อไป แม้ว่าจนถึงขณะนี้จะสูญเสียอาวุธหนักไปแล้วกว่า ๒,๕๐๐  ชิ้นก็ตาม