อิสราเอลหนาว!? อิหร่านมีฐานขีปนาวุธยักษ์ ๓ แห่งพร้อมลุย เทลอาวีฟรีบสั่ง F-35 สองโหลเอาใจเมกาหวั่นถูกเท

0

ฝั่งตะวันออกกลางก็ระอุคุเดือดไม่แพ้ยุโรป ล่าสุดThink Tank ของอิสราเอล ‘ค้นพบ’ ฐานขีปนาวุธขนาดใหญ่ของอิหร่านในป้อมปราการที่ซ่อนอยู่บนภูเขาอีกแห่งหลังจากที่อิหร่านเปิดเผยว่ามีฐานขีปนาวุธใต้ดิน ๒ แห่ง

สาธารณรัฐอิสลามและรัฐยิวกลายเป็นศัตรูคู่อาฆาตในชั่วข้ามคืนหลังการปฏิวัติอิหร่านในปี ๒๕๒๒ โดยเตหะรานตัดสัมพันธ์ทั้งหมดกับเทลอาวีฟ ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทั้งสองประเทศได้ใส่กันแหลกว่าต่างทำสงครามตัวแทนและแอบแฝงโจมตีและผลัดกันลอบสังหารวีไอพีทางทหารของแต่ละฝ่าย

วันที่ ๓ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและไทมส์ออฟอิสราเอล รายงานว่า กองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามได้สร้างฐานขีปนาวุธใต้ดินขนาดใหญ่ในป้อมปราการบนภูเขานอกเมืองเคอร์มันชาห์ (Kermanshah) ทางตะวันตกของอิหร่าน ซึ่งเป็นการวิเคราะห์รถถังและด้านความมั่นคงของอิสราเอลตามข่าวกรองของดาวเทียม

จากข้อมูลของศูนย์วิจัยและการศึกษา Alma ของเจ้าหน้าที่ IDF อิหร่านมีสิ่งอำนวยความสะดวกใต้ดินขนาดใหญ่ ๓ แห่งในพื้นที่ รวมถึงฐานบนภูเขาในหุบเขา Konesht ซึ่งมีหลุมหลบภัยขีปนาวุธอย่างน้อย ๖๑ แห่งที่ซ่อนอยู่จากการสอดแนมดาวเทียมที่ขุดลงไปในพื้นดิน

มีรายงานว่าบังเกอร์ขีปนาวุธอีก ๘๐ แห่งตั้งอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงของปันจ์ เปลเลห์ (Panj Pelleh) โดยมีระบบป้องกันภัยทางอากาศ 2K12 Kub SAM และปืนต่อต้านอากาศยาน Zu-23 คอยปกป้องพื้นที่จากการโจมตีทางอากาศ

ขีปนาวุธที่ประจำการโดยฐานทัพดังกล่าวรวมถึงFateh-110 ซึ่งเป็นขีปนาวุธเชื้อเพลิงแข็งที่มีหัวรบหนัก ๕๐๐ กก. และระยะปฏิบัติการ ๓๐๐ กม. ขีปนาวุธQiam-1 ซึ่งมีหัวรบ ๗๕๐ กก. และพิสัยไกลถึง ๘๐๐ กม. ก็มีอยู่ในสถานที่นี้เช่นกัน

Alma อ้างว่าฐาน Kermanshah ถูกใช้ในระหว่างการโจมตีด้วยขีปนาวุธของหน่วยพิทักษ์การปฏิวัติในเดือนมกราคม ๒๐๒๐ ในฐานสองแห่งของสหรัฐฯ ในอิรัก หลังจากการสังหารผู้บัญชาการกองกำลังไออาร์จีซี คุ๊ดส์ (IRGC Quds) พลเอกคาสเซม โซไลมานี (Qassem Soleimani) ซึ่งทำให้ทหารสหรัฐฯ กว่า ๑๐๐ นายได้รับบาดเจ็บที่สมอง เป็นการเอาคืนที่อิหร่านยังไม่ถือว่าเป็นการเช็คบิลผุ้สั่งการ ได้แบล็คลิสทั้งทรัมป์ และผู้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ถึง ๕๑ คนรอการชดใช้

อิหร่านมีขีปนาวุธ และจรวดร่อน หลากหลายประเภทในคลังแสง และเพิ่งเปิดตัวขีปนาวุธความเร็วเหนือเสียงรุ่นใหม่ที่เรียกว่า ฟัตตาห์(Fattah)

สาธารณรัฐอิสลามถือว่าคลังแสงขีปนาวุธของตนเป็นเกราะป้องกันหลักในการต่อต้านการรุกรานของศัตรู และเตือนว่าจะไม่ลังเลที่จะใช้มันกับฐานทัพและนิวเคลียร์ของอิสราเอล ตลอดจนฐานทัพสหรัฐฯ และกลุ่มผู้ให้บริการในอ่าวเปอร์เซีย หากเทลอาวีฟหรือวอชิงตันพยายามที่จะดำเนินการโจมตีไซต์นิวเคลียร์ของเตหะราน

เทลอาวีฟใช้เวลากว่าทศวรรษกล่าวหาอิหร่านว่ากำลังไล่ตามนิวเคลียร์ เตหะรานปฏิเสธคำกล่าวอ้างดังกล่าว โดยกล่าวว่าอาวุธนิวเคลียร์และอาวุธทำลายล้างสูง

อื่นๆ ทั้งหมดไม่สอดคล้องกับความเชื่อของอิสลาม และชี้ไปที่สต็อกนิวเคลียร์ที่ต้องสงสัยของอิสราเอลเอง เทลอาวีฟไม่ยืนยันหรือปฏิเสธการครอบครองอาวุธดังกล่าว ขอตัวเองแล้วปิดเงียบแต่โวยวายเวลาอิหร่านมีไว้บ้าง

ขณะที่โลกหันมามองการกระทำโหดร้ายของอิสราเอลต่อปาเลสไตน์มากขึ้น แม้แต่สหรัฐฯยังต้องเล่นบทไม่พอใจท่วงทำนองหักดิบของรัฐบาลสุดโต่งเนทันยาฮูไม่เชิญไปวอชิงตันหลังเข้ารับตำแหน่ง ทำให้อิสราเอลรู้สึกเสียหน้าทำท่าไปซบจีนประชดเมกา แต่สถานการณ์ขัดแย้งในประเทศยังไม่ดีขึ้น ด้วยเกรงว่าสหรัฐฯจะเทอิสราเอลภายใต้การนำของเนทันยาฮูจึงสั่งซื้่อ F-35 จำนวน ๒๕ ลำเอาใจทุนค้าอาวุธขาใหญ่ในอเมริกาไว้ก่อน

ทางด้านอิหร่านนอกจากจะไม่หวั่นเกรงการคว่ำบาตรของสหรัฐฯและพวกแล้ว ยังเดินหน้าหามิตรเพิ่มอย่างคึกคักอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และกำลังจะได้เป็นสมาชิกองค์กรความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ หลังจากได้เข้าเป็นสมาชิกBRICS ซึ่งจะรับรองอย่างเป็นทางการในการประชุมครั้งล่าสุดเดือนสิงหาคมที่จะถึงนี้

รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่านและเลขาธิการองค์การความร่วมมือเซี่ยงไฮ้ (SCO) หารือเกี่ยวกับขั้นตอนสุดท้ายสำหรับการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของอิหร่านในองค์กรการเมือง เศรษฐกิจ ความมั่นคงและการป้องกันระหว่างประเทศของเอเชีย

ในการสนทนาทางโทรศัพท์เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีต่างประเทศอิหร่าน ฮอสเซน อะมิราบดอลลาเฮียน(Hossein Amirabdollahian) และฉาง หมิง (Zhang Ming) เลขาธิการ SCO ได้พูดคุยเกี่ยวกับแนวโน้มของความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายและการประชุมที่จะเกิดขึ้นขององค์กร

Amirabdollahian อ้างอิงถึงความพยายามอย่างกว้างขวางของรัฐบาลอิหร่าน รัฐสภา และกระทรวงต่างประเทศในการเตรียมและอนุมัติเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของอิหร่านใน SCO เขากล่าวว่าเขามั่นใจว่าการเข้าร่วมครั้งสุดท้ายของอิหร่านกับองค์กรจะทำให้องค์กรใหม่ขยายเติบโตทั้งในทางปริมาณและคุณภาพ

เลขาธิการ SCO แสดงความยินดีที่อิหร่านสามารถเข้าถึงกลุ่มดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ และเน้นย้ำว่าการเป็นสมาชิกเต็มรูปแบบของอิหร่านใน SCO จะประกาศอย่างเป็นทางการในการประชุมครั้งต่อไป วันที่ ๔กรกฎาคม อิหร่านจะได้รับประโยชน์อย่างเต็มที่จากการเป็นสมาชิกนี้ซึ่งสงวนไว้สำหรับประเทศสมาชิก SCOเท่านั้น!!

หัวหน้า SCO อธิบายเพิ่มเติมถึงบทบาทของอิหร่านในการส่งเสริมวัตถุประสงค์ขององค์กรว่ามีความสำคัญ โดยกล่าวว่า “เป็นเกียรติอย่างยิ่งสำหรับฉันที่กระบวนการเป็นสมาชิกถาวรของอิหร่านกำลังเกิดขึ้นในระหว่างที่ฉันดำรงตำแหน่งเลขาธิการ SCO”