ยังอยู่ในเกมพท.-ก้าวไกลว่าไง? เปิดผลประชุมเพื่อไทย เสนอชื่อ “วันนอร์” ชิงปธ.สภาฯ ย้อน หน.ประชาชาติ ไม่ใช่คนอื่นไกลก็อดีตทรท.

0

ยังอยู่ในเกมพท.-ก้าวไกลว่าไง? เปิดผลประชุมเพื่อไทย เสนอชื่อ “วันนอร์” ชิงปธ.สภาฯ ย้อน หน.ประชาชาติ ไม่ใช่คนอื่นไกลก็อดีตทรท.

จากกรณีที่วันนี้ ( 3 กรกฎาคม 2566) ได้มีรายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้าตำแหน่งประธานสภา ที่ยังอยู่ระหว่างการเจรจาของพรรคก้าวไกล (ก.ก.) และพรรคเพื่อไทย (พท.) ว่า ขณะนี้ได้รับแจ้งจาก ส.ส.พรรค พท.ตรงกันว่าพรรค พท.ได้ข้อสรุปในเรื่องดังกล่าวแล้ว โดยจะเสนอชื่อคนกลาง คือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคและ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชาติ (ปช.) ชิงตำแหน่งประธานสภา โดยการเสนอชื่อนายวันมูหะมัดนอร์ครั้งนี้ เพื่อเป็นทางออกและได้ข้อยุติ

อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอดังกล่าวขึ้นกับที่ประชุม ส.ส.รวมทั้งที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค พท.ว่าจะมีมติยืนตามนี้หรือไม่ ทั้งนี้ นายวันมูหะมัดนอร์ ถือเป็นบุคคลที่เหมาะสมที่สุด เพราะมีประสบการณ์ เคยดำรงตำแหน่งประธานรัฐสภามาแล้ว ไม่มีความด่างพร้อย สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเป็นกลาง เป็นที่ยอมรับและได้รับความเคารพจาก ส.ส.

ต่อมาก็ได้มีรายงานว่า “พรรคเพื่อไทย” ได้จัดประชุมส.ส.และกรรมการบริหารพรรคเพื่อลงมติหาทางออกกรณี การเสนอชื่อผู้เหมาะสมเป็นประธานสภา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ปมปัญหา ประธานสภา เกิดความเห็นไม่ลงรอยระหว่างสองพรรคร่วม คือ ก้าวไกล ยืนยันที่จะเสนอ “นายปดิพัทธ์ สันติภาดา”  ส.ส.พิษณุโลก เป็นแคนดิเดตประธานสภา พร้อมกับเดินสายเปิดตัว นายปดิพัทธ์ ว่าจะเป็น”ประธานสภาฯ” มาอย่างต่อเนื่อง

ขณะที่ “พรรคเพื่อไทย” โดยเฉพาะฟากฝั่งกลุ่มส.ส.อีสาน มีความเห็นว่า ตำแหน่ง”ประธานสภา” สมควรเป็น ของ “พรรคเพื่อไทย” โดยมีการสื่อสารผ่านคณะเจรจาพรรคให้ไปแจ้ง”พรรคก้าวไกล”ไปแล้ว แต่ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมากลับไม่ได้ข้อสรุป เพราะ”พรรคก้าวไกล” ยังยืนยันที่จะขอรับตำแหน่ง”ประธานสภา”

โดยการประชุม 8 พรรคร่วม เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ณ ที่ทำการ “พรรคก้าวไกล” ที่ผ่านมา “นายพิธา  ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงว่า จะรอคำตอบจากที่ประชุมกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยในวันที่ 3 กรกฎาคมก่อน ท่ามกลางกระแสข่าวที่มีการปล่อยออกมาเป็นระยะ ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 2 กรกฎาคม จนถึงเช้าวันที่ 3 กรกฎาคม ด้วยการระบุว่า เพื่อยุติปัญหา หาทางออกให้ประเทศไทยเดินหน้าต่อไปได้”พรรคเพื่อไทย”เตรียมเสนอคนกลาง คือ “นายวันมูหะหมัดนอร์ มะทา” หัวหน้าพรรคประชาชาติ รับตำแหน่ง”ประธานสภา”

ขณะที่ เมื่อเวลา 09.30 น.”พรรคเพื่อไทย” ได้มีการประชุม ส.ส.และกรรมการบริหารพรรค ณ ที่ทำการพรรค อาคารโอเอไอ  ซึ่งเป็นที่น่าสังเกต “พรรคก้าวไกล” ได้มาปักหลักรอฟังคำตอบ จากคณะเจรจาเพื่อไทย อยู่ที่ อาคารไทยซัมมิท ซึ่งอยู่ติดกับ อาคารโอเอไอ เช่นกัน

ล่าสุด มีรายงานข่าวจาก”พรรคเพื่อไทย”ระบุว่า ที่ประชุมส.ส. และกรรมการบริหารพรรค เห็นควรเสนอชื่อ “นายวัน มูหะหมัด นอร์มะทา “ต่อคณะเจรจาก้าวไกล ในการสนับสนุนให้เป็น “ประธานสภา” เพื่อยุติปัญหาและเป็นการหาทางออกให้กระบวนการนิติบัญญัติได้เดินหน้า โดยจะมีการออกแถลงการณ์ ในช่วงเย็นวันนี้

นอกจากนี้ ทางด้านของ นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ได้กล่าวว่า มีข้อสรุปแน่นอน มีแนวทางที่ดี ประชาชนไม่ผิดหวัง-มีความสุข กก.บริหารพรรคฯ น่าจะแถลงข่าว ค่ำๆ หรือดึกๆ วันนี้ เชื่อรัฐบาลไม่ล่ม

อยา่งไรก็ตาม ย้อนไปเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2566 ไทยโพสต์ได้เผยแพร่บทความหัวข้อ ส่องฟอร์ม “พรรคประชาชาติ” อะไหล่ “ทักษิณ-พท.” ตั้งรัฐบาล โดยมีเนื้อหาบางส่วนระบุว่า

วันนอร์ก็เคยอยู่กับไทยรักไทยมาก่อน ตั้งแต่ยุคไทยรักไทย พลังประชาชน จนถึงเพื่อไทย ก่อนจะนำนักการเมืองในสาย 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ หรือกลุ่มวาดะห์ ยกทีมออกมาจากพรรคเพื่อไทยเพื่อตั้งพรรคประชาชาติ โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ อดีตเลขาธิการ ศอ.บต.ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร มาร่วมตั้งพรรคด้วยตั้งแต่แรก

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ทางการเมืองในช่วงปี 2562 ว่า การตั้งพรรคประชาชาติดังกล่าว คือยุทธศาสตร์ของเพื่อไทยที่รู้ดีว่า คนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ยอมรับแบรนด์พรรคเพื่อไทย จึงต้องมีพรรคใหม่ไปทำพื้นที่แทน หรือแผนแยกกันเดินนั่นเอง

วันมูหะมัดนอร์ มะทา กับ พ.ต.อ.ทวี จึงไม่ใช่คนอื่นคนไกลสำหรับเพื่อไทยและทักษิณแต่อย่างใด

จนมีเสียงร่ำลือกันว่า หากเพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และพรรคประชาชาติ ที่หากพรรคสามารถมี ส.ส.ได้ตามเป้าที่วางไว้ อย่างน้อย 10-12 ที่นั่ง จากเดิมที่ตอนเลือกตั้งปี 2562 มี ส.ส. 7 คน ซึ่งหากพรรคได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล คนที่มีโอกาสจะได้เป็นรัฐมนตรี จะไม่ใช่หัวหน้าพรรค วันมูหะมัดนอร์ มะทา แต่จะเป็น พ.ต.อ.ทวี เลขาธิการพรรค ที่อาจขอลุ้นเก้าอี้ รมช.มหาดไทย ส่วนจะถึงขั้นหวังไปไกลถึง รมว.ยุติธรรม ในฐานะที่เคยเป็นอธิบดีดีเอสไอมาก่อนนั้น ประเมินแล้วคาดว่าฝ่ายเพื่อไทยไม่น่าจะยอมให้