เทียบจะๆ อัตราการรักษาโควิด-19หาย ไทย88.77% สูงมากอันดับต้นๆของโลก ขณะที่USAแค่12.03% หมอไทยไม่แพ้ชาติใดในโลก

0

เทียบจะๆ อัตราการรักษาโควิด-19หาย ไทย88.77% สูงมากอันดับต้นๆของโลก ขณะที่USAแค่12.03% หมอไทยไม่แพ้ชาติในใดโลก

ผ่านมาแล้วมากกว่า4เดือน  สำหรับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ล่าสุดยอดผู้ติดเชื้อสะสมรวมทั่วโลกใกล้จะถึงตัวเลข 3 ล้านคนเข้าไปทุกขณะ โดยมีสหรัฐอยังคงรั้งอันดับหนึ่งของประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุด รองลงมาเป็น สเปน ,อิตาลี , ฝรั่งเศส , เยอรมนี ตามลำดับ  ซึ่งมีผู้เสียชีวิตแล้วมากว่า 2แสนราย  ซึ่งตัวเลขที่น่าสนใจก็คือภาพรวม อัตราการรักษาหายจากโควิด-19 ในประเทศต่าง ๆ ขณะที่ประเทศไทยเองสามารถรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หายดีสูงถึง 88.77%  ขณะที่สำนักข่าวญี่ปุ่นหลายสำนักรายงานว่าประเทศไทยสามารถรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หายดีสูงถึง  นับเป็นเปอร์เซ็นต์ที่สูงมากอันดับต้นๆของโลกเลยทีเดียว โดยนายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ (อ่านเพิ่มเติม/สื่อยุ่นพร้อมใจตีข่าว ไทยรักษาป่วยโควิดดีสุดอันดับต้นของโลก วงการแพทย์ญี่ปุ่นอึ้ง )

สำหรับอัตราการรักษาหายจากโควิด-19 ทั่วโลก (ข้อมูล ณ.วันที่26 เม.ย. 63) พบว่า

  • จีน  มีผู้ติดเชื้อ 82,827 ราย รักษาหาย 77,394 ราย คิดเป็น 93.44%
  • ไอซ์แลนด์  มีผู้ติดเชื้อ 1,792 ราย รักษาหาย 1,608 ราย คิดเป็น 89.73%
  • ไทย  มีผู้ติดเชื้อ 2,922 ราย รักษาหาย 2,594 ราย คิดเป็น 88.77%
  • เกาหลีใต้ มีผู้ติดเชื้อ 10,728 ราย รักษาหาย 8,717 ราย คิดเป็น 81.25%
  • ออสเตรีย มีผู้ติดเชื้อ 15,225 ราย รักษาหาย 12,282 ราย คิดเป็น 80.67%
  • ไต้หวัน มีผู้ติดเชื้อ 429 ราย รักษาหาย 281 ราย คิดเป็น 65.50%
  • สเปน มีผู้ติดเชื้อ 226,629 ราย รักษาหาย 117,727 ราย คิดเป็น 51.95%
  • อิตาลี มีผู้ติดเชื้อ197,675 ราย รักษาหาย 64,928 ราย คิดเป็น 32.85%
  • สหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อ 987,160 ราย รักษาหาย 118,781 ราย คิดเป็น 12.03%
  • รัสเซีย มีผู้ติดเชื้อ 80,949 ราย รักษาหาย 6,767 ราย คิดเป็น 8.36%

ก่อนหน้านี้ ศ.นพ.ลินคอล์น เชน ประธาน China Medical Board ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพระหว่างประเทศ และอดีตศาสตราจารย์ประจำวิทยาลัยสาธารณสุข มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด สหรัฐอเมริกา ให้สัมภาษณ์ว่า จากการติดตามสถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ของรัฐบาลไทย พบว่าไทยสามารถจัดการป้องกันและควบคุมโรคระบาดได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ หากพิจารณาจากโครงสร้างพื้นฐานด้านระบบสาธารณสุข ไทยมีทั้งโรงพยาบาลใหญ่ที่มีคุณภาพ โรงพยาบาลชุมชนในระดับอำเภอ และยังมีโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ค่อนข้างครอบคลุม ซึ่งทำให้เชื่อมั่นว่าสามารถป้องกันการระบาดได้

นอกจากนี้ การมีโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขที่ครบถ้วน จะเป็นประโยชน์หากพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ เพราะจะช่วยให้ไทย สามารถจัดการแยกผู้ต้องสงสัยว่าจะติดเชื้อตามลำดับขั้น และเข้าไปหยุดยั้งการแพร่กระจาย – การระบาดของโรคได้

“ต้องบอกว่าประเทศไทยนั้นยิ่งกว่าพร้อมในการรับมือปัญหาโรคระบาดด้วยสเกลขนาดนี้ และหากเทียบกับประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง หรือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โครงสร้างพื้นฐานของระบบสาธารณสุขประเทศไทย และบุคลากรสาธารณสุขของไทยนั้นเข้มแข็งที่สุดแล้ว” ประธาน China Medical Board กล่าว

ศ.นพ.ลินคอล์น กล่าวอีกว่า สถานการณ์การระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ขณะนี้ ยังถือว่าน่ากังวล และไทยเองก็มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากจีนเป็นจำนวนมาก แต่ขออย่าให้ตื่นตระหนก หรือหวาดวิตกมากเกินไป โดยพื้นที่ที่ควรระมัดระวังมากที่สุดคือบริเวณสนามบิน และการเดินทางด้วยเครื่องบิน เพราะเชื้อสามารถแพร่ได้ง่าย รวมถึงมีนักท่องเที่ยวจากหลายชาติเดินทางไปมา จึงควรที่จะใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา หากมีความจำเป็นต้องโดยสารโดยเครื่องบิน