เอาละซี มีรายงานข่าวว่าหัวหน้า CIA เดินทางไปยูเครนอย่างลับๆ เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนการรบ และการเจรจาหยุดยิง
ขณะที่เสธฯสหรัฐฯประกาศการคาดการณ์สำหรับการยุติการตอบโต้ของยูเครนด้วยว่าอาจเกิดขึ้นอีกไม่นาน หลังจากประเมินว่าท่าจะไม่ไหว การเคลื่อนไหวของแกนนำทหารของสหรัฐฯบ่งบอกสถานการณ์เบื้องหลังสงครามตัวแทนอย่างชัดเจนว่า เมกา-นาโต้ยังดุดัน สั่งเดินหน้าบดขยี้รัสเซียทั้งทางเศรษฐกิจและการทหาร การเจรจาจะเกิดขึ้นได้ยูเครนต้องรบชนะรัสเซียหรืออยู่ในฐานะที่เหนือกว่าในสนามรบโดยหวังว่าทุ่มอาวุธและเงินอีกรอบ ยูเครนจะทำได้แต่กลับให้สัญญาว่าจะส่งอาวุธลูกยาวไปประจำชายแดนยูเครนเพื่อบุกไครเมี แต่บอกว่าอีกตั้งนาน รัสเซียคงไม่รอแน่อน
วันที่ ๑ ก.ค.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลิทารี่รีวิวและสปุ๊ตนิกรายงานว่า The Washington Post เปิดเผยกรณี วิลเลียม เบิร์นส์ ผู้อำนวยการซีไอเอ เดินทางเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้พบกับประธานาธิบดียูเครน เซเลนสกี และเจ้าหน้าที่ข่าวกรองระดับสูงของยูเครน วัตถุประสงค์ของการเยือนคือการยืนยันความมุ่งมั่นของรัฐบาล Biden ในการแบ่งปันข่าวกรองที่ออกแบบมาเพื่อช่วยยูเครนในความขัดแย้ง
เจ้าหน้าที่ยูเครนบอกกับ Burns ว่าพวกเขามีเป้าหมายที่จะเคลื่อนย้ายปืนใหญ่และระบบขีปนาวุธใกล้กับเส้นแบ่งเขตของแหลมไครเมีย และผลักดันต่อไปในภาคตะวันออกของยูเครนภายในฤดูใบไม้ร่วงนี้ จากนั้นเคียฟตั้งใจที่จะเปิดการเจรจากับมอสโกว์เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่ที่พวกเขาทำลายแผนสันติภาพลงในเดือนมีนาคมปีที่แล้ว รายงานระบุโดยอ้างถึงแหล่งข่าวเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการวางแผนเจรจา
เจ้าหน้าที่ยูเครนคนหนึ่งเปิดเผยว่า “สหรัฐฯ ตกลงว่ายูเครนควรเข้าสู่การเจรจาจากสถานะที่แข็งแกร่ง” นั่นหมายถึงสหรัฐฯจะทำให้ยูเครนมีชัยชนะในการรบเพื่อเข้าโต๊ะเจรจาจะได้เปรียบ แต่ซีไอเอปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเมื่อถูกถามเกี่ยวกับการประเมินแผนของเคียฟต่อไปของเบิร์นส์
ผู้อำนวยการซีไอเอยังได้สัญญาว่าจะนำปืนใหญ่และเครื่องยิงจรวดไปยังชายแดนไครเมียเพื่อให้เคียฟนำไปบุกไครเมีย ภายในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้
เคียฟยังคงอยู่ภายใต้แรงกดดันเป็นพิเศษจากพันธมิตรตะวันตก ที่จัดหาอาวุธให้ยูเครนหลายพันล้านดอลลาร์ก่อนการตอบโต้ หวังผลให้ยูเครนชนะเมื่อได้รับอาวุธหนักเต็มพิกัด Zelensky สัญญาว่าจะยึด “ดินแดนของยูเครนตะวันออกคืนจากรัสเซียโดยไปถึงพรมแดนของรัสเซีย”ให้ได้
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประธานาธิบดีปูตินเปิดเผยว่า ยูเครนสูญเสียรถถังมากถึง ๒๕๙ คัน และรถหุ้มเกราะ ๗๘๐ คัน นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการตอบโต้ สื่อตะวันตกจำนวนหนึ่งยังตั้งข้อสังเกตถึงผลลัพธ์ที่อ่อนแอของการตอบโต้ของเคียฟ ในขณะที่ Zelensky เองก็ยอมรับว่าความคืบหน้านั้น “ช้ากว่าที่ต้องการ”
ด้านเสนาธิการสูงสุดของสหรัฐกล่าวว่าไม่แปลกใจเลยที่การตอบโต้ของยูเครนจะช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้
มาร์ค มิลลีย์ ประธานเสนาธิการร่วมของสหรัฐฯ กล่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่าเขาไม่พบว่าน่าแปลกใจที่การตอบโต้ของยูเครนจะดำเนินไปช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากเขาเคยกล่าวไว้เป็นการส่วนตัวก่อนหน้านี้ว่าจะใช้เวลานานและยากมาก
มิลลีย์กล่าวระหว่างงานซึ่งจัดโดย National Press Clubว่า “สิ่งที่ฉันพูดคือมันจะใช้เวลาหก, แปด, หรือสิบสัปดาห์ มันจะยากมาก มันจะยาวมาก มันจะนองเลือดมาก และไม่มีใครควรมีภาพลวงตาเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่ามันจะสำเร็จในระยะเวลาสั้นๆ”
ประเด็นที่สื่อถามความเป็นไปได้ในการส่งระบบขีปนาวุธทางยุทธวิธีของกองทัพบก ATACMS ไปยังยูเครน นายพลระดับสูงกล่าวว่าเขาไม่ทราบถึงการตัดสินใจใดๆ
มิลลีย์กล่าวว่า “มันเป็นกระบวนการที่ต่อเนื่องตามความรู้ของฉัน และฉันยังไม่รู้ผลการตัดสินใจ แต่แน่นอนว่ามันอยู่ในกระบวนการ”แต่เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ รายวันของอเมริการายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ว่า สหรัฐฯ ใกล้จะตกลงส่ง ATACMS ไปยังยูเครนเร็วๆนี้
นั่นคือผู้นำทางทหารของอเมริกาได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าการตอบโต้ของกองทัพยูเครนกำลังดำเนินการตามคำสั่งของอเมริกาและด้วยการกำหนดเส้นตายโดยคำสั่งของอเมริกา