อนุทิน ค้าน! ไทยเข้าร่วมสมาชิก CPTPP ลั่น ไม่คุ้มแลกผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

0
นายอนุทิน ชาญวีรกูล,ค้านไทยเข้าร่วมสมาชิก CPTPP, CPTPP,โควิด-19,โควิด19

อนุทิน ค้านกระทรวงสาธารณสุข ไม่สนับสนุนไทยเข้าเป็นสมาชิก CPTPP ชี้ ทำลายระบบสุขภาพประชาชน ไม่คุ้มแลกผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ

(27 เมษายน 2563) กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.)ได้ประชุมร่วมกับผู้บริหารของกระทรวงสาธารณสุข และ ผู้อำนวยการองค์การเภสัชกรรมเพื่อพิจารณาผลกระทบ กรณีประเทศไทยจะเข้าร่วมเป็นสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิค หรือ CPTPP

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ซึ่งมีการนำเสนอข้อมูล และพิจารณากันหลายประเด็นที่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยาในประเทศ และการคุ้มครองพันธุ์พืช ซึ่งจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมสมุนไพรในประเทศไทย

ภายหลังการประชุม นายอนุทิน ได้สั่งการให้ผู้บริหารกระทรวงสาธารณสุขทำหนังสือชี้แจงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นหากประเทศไทยตัดสินใจเป็นสมาชิกของ CPTPP โดยให้มีการระบุให้ชัดว่า กระทรวงสาธารณสุขไม่สนับสนุนให้ประเทศไทย เข้าเป็นสมาชิก CPTPP

นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้กล่าวว่า “ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ผมไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ และจะนำเสนอข้อมูลของกระทรวงสาธารณ สุข  ซึ่งเต็มไปด้วยข้อห่วงใยและความกังวลที่จะมีผลกระทบต่อระบบการผลิตยา เวชภัณฑ์ เครื่องมือแพทย์ ซึ่งจะต้องนำมาใช้ ดูแลรักษาชีวิต และสุขภาพของคนไทย ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ในวันที่ 28 เมษายนทราบ แต่ไม่สามารถคาดการณ์ได้ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะพิจารณาตัดสินใจอย่างไร แต่ข้อห่วงใยและความกังวลใจของกระทรวงสาธารณสุข ทั้งเรื่องผลกระทบต่อการผลิตยาซึ่งเป็นความมั่นคงด้านสาธารณสุขไทย น่าจะเป็นข้อมูลสำคัญ สำหรับการพิจารณาของ ครม.

การนำเข้าและส่งออก

นอกจากนี้ยังมีรายงานแจ้งด้วยว่า นายอนุทิน กล่าวในที่ประชุมด้วยว่า การจะแลกมาซึ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ และการขยายตัวทางการค้า การส่งออก กับ ความมั่นคงของระบบสาธารณสุขไทย เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าและไม่มีอะไรเป็นหลักประกันได้ว่า การเข้าร่วมในข้อตกลง CPTPP ประเทศไทยจะได้ประโยชน์มากกว่าเสียประโยชน์

อีกทั้งขณะนี้มีเพียง 11 ประเทศเท่านั้นที่เป็นสมาชิก และส่วนใหญ่ ไม่ใช่เป็นประเทศที่เป็นตลาดส่งออกที่สำคัญของเรา ประกอบกับมิติการค้าระหว่างประเทศอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากพอสมควรในช่วงที่มีการระบาดของโควิด-19 และหลังการระบาดจบลงยังไม่มีข้อมูลว่าเหตุใดจึงต้องรีบเร่งพิจารณาในช่วงนี้

ในที่ประชุม ได้มีการนำข้อเสนอขององค์การเภสัชกรรม ซึ่งเป็นประเด็นที่จะมีผลกระทบต่อการเข้าถึงยาของประชาชน ได้ยากขึ้น และทำให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ 3 ด้านได้แก่ (1)ด้านสิทธิบัตรและยา  (2)ด้านการคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ เกิดการผูกขาดสายพันธุ์พืชเป็น 20-25 ปี และ(3)ด้านจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ ไทยไม่สามารถกำหนดมูลค่าและจะผ่อนผันได้