ควันจางภาพชัดขึ้นภายใต้ฉากทัศน์หลากหลาย บ้างคาดว่าเป็นกลศึกครั้งใหม่ บ้างว่าเมกาอยู่เบื้องหลัง แต่ไม่มีใครรู้จริงเท่าคู่กรณี ทั้งปูตินและปริโกชิน ซึ่งเมื่อคืนนี้ได้เปิดปากปิดจ๊อบไว้อย่างพองาม
ในส่วนของผู้เกี่ยวข้องสื่อรัสเซียมองวาปูตินได้ผนึกชะตากรรมของวากเนอร์กรุ๊ปในบริบทใหม่ การจัดการผู้เกี่ยวข้องแยกปลาออกจากน้ำโดยมองว่าสมาชิกส่วนใหญ่ของบริษัททหารเอกชนก่อการกบฏต่างเป็นผู้รักชาติ ซึ่งถูกทำให้เข้าใจผิด จึงเป็นโอกาสให้พวกเขา สามารถเซ็นสัญญากับกระทรวงกลาโหมรัสเซียหรือหน่วยงานความมั่นคงอื่นๆ หรือจะเลือกกลับบ้าน หรือย้ายไปเบลารุสประเทศเพื่อนบ้านได้
วันที่ ๒๗ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์ รายงานว่า ปธน.ปูตินแห่งรัสเซียกล่าวคำปราศรัยเมื่อเย็นวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า “นักรบและผู้บัญชาการส่วนใหญ่ของกลุ่มวากเนอร์ยังเป็นผู้รักชาติรัสเซีย อุทิศตนเพื่อประชาชนและประเทศของพวกเขา พวกเขาพิสูจน์สิ่งนี้ด้วยความกล้าหาญในสนามรบ”
ผู้นำรัสเซียกล่าวขอบคุณทหารและผู้บังคับบัญชาของวากเนอร์ ซึ่ง”หยุดที่แนวสุดท้าย”และไม่ปล่อยให้”การนองเลือดระหว่างพี่น้อง”เกิดขึ้น เขาเสริมว่าสัญญาที่ให้ไว้ระหว่างการเจรจาเพื่อยุติวิกฤตจะยังคงอยู่ คำไหนคำนั้น
ช่วงนี้มีการปล่อยข่าวว่าปูตินหลอกปริโกชินและวากเนอร์เพราะฝ่ายความมั่นคงยังไม่ถอนข้อหาก่อกบฎ ปูตินออกมายืนยันชัดเจนจะได้ไม่เกิดความสับสนจากการยุแหย่แทรกแซงจากภายนอก
ประมุขแห่งรัฐแสดงความขอบคุณต่อประชาชนรัสเซียที่หนักแน่นมีความรักชาติรักสามัคคี สนับสนุนรัฐบาลและกองทัพในการคลี่คลายปัญหาวิกฤต ขอบคุณข้าราชการทหาร ผู้บังคับใช้กฎหมาย และเจ้าหน้าที่ข่าวกรอง รวมถึงนักบินฮีโร่ที่ยืนหยัดเพื่อหยุดการก่อการจลาจล
ปูตินกล่าวว่า “การกบฏทรยศต่อประเทศและประชาชนของพวกผู้ก่อการจะเป็นการสนับสนุน “การล้างเผ่าพันธุ์ซึ่งเป็นสิ่งที่ศัตรูของรัสเซียต้องการ รวมถึงพวกนีโอฯในเคียฟ ผู้อุปถัมภ์ชาวตะวันตก และผู้ทรยศชาติทุกประเภท” พวกเขาต้องการให้ “รัสเซียพ่ายแพ้ในที่สุด” และสังคมรัสเซีย “แตกแยกและจมดิ่งสู่ความขัดแย้งนองเลือด”
ในช่วงแรก ประธานาธิบดีออกคำสั่งโดยตรงให้ดำเนินการเพื่อหลีกเลี่ยงการนองเลือดซึ่ง”ต้องใช้เวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อให้คนที่ทำผิดพลาดได้สำนึกและตระหนักว่าสังคมปฏิเสธอย่างมากในสิ่งที่พวกเขากำลังทำ ในขณะที่ การเสี่ยงภัยโดยประมาทที่พวกเขาถูกลากเข้าไป อาจนำไปสู่โศกนาฏกรรมและผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างหายนะสำหรับรัสเซีย”
ปูตินยังตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลสาธารณะ พรรคการเมือง และองค์กรทางศาสนามีจุดยืนที่แน่วแน่ในการสนับสนุนระเบียบรัฐธรรมนูญ เขากล่าวว่าความรู้สึกรักชาติของชาวรัสเซียและการรวมสังคมทั้งหมดเป็นสิ่งสำคัญในการยุติการกบฏ: “ความเป็นปึกแผ่นของพลเมืองนี้ทำให้ชัดเจนว่าการขู่กรรโชกและความพยายามสร้างความวุ่นวายภายในจะต้องล้มเหลว”
นอกจากนี้ ปูตินยังกล่าวขอบคุณประธานาธิบดีอเล็กซานเดอร์ ลูกาเชนโก ของเบลารุสสำหรับการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการกบฏ
ก่อนหน้านี้ เยฟเกนี ปริโกชิน หัวหน้ากลุ่มวากเนอร์ ออกมาพูดผ่านเทเลแกรมส่วนตัวของเขาว่า “เขาต้องการปกป้องนักรบของเขาและเปิดโปงให้เห็นถึงความล้มเหลวของพวกผู้นำทางทหาร แต่ไม่ใช่เป็นการท้าทายเครมลินและไม่เคยคิดโค่นล้มปธน.ปูติน เขากล่าวว่า“ลูกาเชนโกยื่นมือออกมาและเสนอที่จะหาทางแก้ไขเพื่อให้งานของบริษัททหารเอกชน Wagner ดำเนินต่อไปในเขตอำนาจทางกฎหมายของเบลารุส”
คลิปเสียงดังกล่าว ถือเป็นถ้อยแถลงแรกของผู้นำวากเนอร์ นับตั้งแต่ทหารรับจ้างของเขาระงับปฏิบัติการยกทัพบุก มอสโกว์ เผยแพร่ออกมาในขณะที่เจ้าหน้าที่รัสเซียนำเสนอภาพต่อสาธารณะว่าสถานการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว
ด้านวอชิงตัน จอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ กล่าวว่าพวกเจ้าหน้าที่กำลังจับตามองสถานการณ์ความยุ่งเหยิง ในรัสเซีย ชาติติดอาวุธนิวเคลียร์ อย่างใกล้ชิด “เราได้มีการพูดคุยสนทนากับเจ้าหน้าที่รัสเซีย ผ่านช่องทางด้านการทูต เกี่ยวกับความกังวลของเรา”
ส่วนกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ เผยว่าลีนน์ เทรซี เอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงมอสโกว์ได้ติดต่อกับพวกเจ้าหน้าที่รัสเซีย “เพื่อเน้นย้ำสิ่งที่พวกเราพูดต่อสาธารณะว่า นี่คือกิจการภายในของรัสเซีย ซึ่งสหรัฐฯไม่เกี่ยวข้องด้วยและจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้อง”
เซอร์เก ลาฟรอฟรมว.ต่างประเทศรัสเซีย ออกมาพูดถึงเหตุการณ์กบฎ และชกหมัดตรงถึงวอชิงตันว่า สหรัฐฯสนับสนุนการก่อรัฐประหารทุกครั้งที่ได้ประโยชน์ ปฏิกิริยาของวอชิงตันต่อการเคลื่อนไหวเพื่อเปลี่ยนแปลงระบอบการปกครองแตกต่างกันไปตามสถานที่ที่เกิดขึ้น และผู้เกี่ยวข้องว่าเป็นผู้อำนวยประโยชน์แก่วอชิงตันหรือไม่ ไม่ได้อยู่บนฐานหลักการใดๆที่ใช้กล่าวอ้าง ไม่ว่าจะด้วยประชาธิปไตย หรือสิทธิมนุษยชน!!