ไทยร่วมมือขาใหญ่เอเชียช่วยเมียนมา พ้นอิทธิพลตะวันตก ขณะสหรัฐพล่าน คว่ำบาตร ชักดาบยึดเงินพม่า

0

จากกรณีที่เมื่อวานนี้ (21 มิถุนายน 2566) สหรัฐฯ ยกระดับการคว่ำบาตรต่อกระทรวงกลาโหมของพม่าและธนาคาร 2 แห่งที่กองทัพของประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ในการซื้ออาวุธและสินค้าอื่น ๆ ในสกุลเงินต่างประเทศ ตามเว็บไซต์ของกระทรวงการคลัง

มาตรการคว่ำบาตรส่งผลกระทบต่อธนาคารการค้าต่างประเทศของเมียนมาร์ (MFTB) และธนาคารเพื่อการลงทุนและการพาณิชย์ของเมียนมาร์ (MICB) ซึ่งรับและส่งเงินตราต่างประเทศให้กับรัฐบาลเมียนมาร์ รวมถึงรัฐวิสาหกิจที่เพิ่มรายได้จำนวนมากให้กับรัฐบาลทหาร

ต่อมาเมื่อวานนี้ (21 มิถุนายน 2566) Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่ เอเชียออกโรงช่วยเหลือเมียนมาให้พ้นภัยจากตะวันตก โดยบอกว่า

เมียนมา และไทย สองประเทศเพื่อนบ้าน โดยเมียนมามีพื้นที่มากกว่าไทย 1.32 เท่า ภูมิประเทศ ธรรมชาติคล้ายกันมาก พลเมืองส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ ปี 2505 สหรัฐ มาตั้งฐานทัพในไทย เพื่อเป็นฐานทำสงครามกับเวียดนาม ลาว ทำให้ไทยย่ำแย่ ช่วงนั้นเมียนมา ส่งออกสินค้าจักรยาน ร่ม เสื้อไนลอน มาขายไทย

นายกรัฐมนตรีไทย เคยไปเยือนเมียนมา ระบุกับสื่อมวลชนว่า คาดว่าไทยจะต้องพยายามนานถึง 20 ปีจึงจะไล่ตามทันความเจริญของเมียนมาได้ ช่วงนั้นคนไทย จำนวนมากจึงมีแรงบัลดาลใจเดินทางโดยเครื่องบิน ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยย่างกุ้ง ใครจบจากเมียนมา กลับมาไทยจึงเท่มาก

ปี 2509 เมียนมาถูกแทรกแซงโดยสหรัฐ พยายามยัดเยียดประชาธิปไตย ชาติจึงแตกเป็นเสี่ยง เกิดกลุ่มกบฎชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อยติดอาวุธตามรัฐต่างๆ กว่า 30 กลุ่ม สินค้าอุปโภคบริโภคเริ่มขาดแคลน ไทยเริ่มพัฒนาตัวเองด้านสิ่งทอ เริ่มเติบโตในธุรกิจ ส่งออกสินค้ารองเท้า หมวก เสื้อผ้า ตั้งแต่หัวจรดเท้า ส่งออกวัตถุดิบที่จำเป็นทั้งหมด โดยช่วงนั้นไม่เกี่ยวว่าไทยไม่ได้เป็นประชาธิปไตยตะวันตก อะไรทั้งนั้น

แต่ไทยปกครองโดยระบบอนุรักษ์นิยมผสมประชาธิปไตยอันเป็นรูปแบบเอกลักษณ์คล้ายคลึงอังกฤษมากที่สุด
ปัจจุบันเมียนมามีประชากรราว 57 ล้านคน ไทยมีราว 70 ล้านคน , การขยายตัวทางเศรษฐกิจ GDP เมียนมา 2.54 ล้านล้านบาท/ปี แต่ไทยมี GDP กว่า 17.6 ล้านล้านบาท สูงกว่าเมียนมา 6.92 เท่า รายได้ต่อหัวประชากรเมียนมาเฉลี่ยกว่า 34,850 บาท/ปี แต่ไทยเฉลี่ยกว่า 243,950 บาท/ปี

ค่าแรงขั้นต่ำเมียนมาราว 80 บาท/วัน แต่ในไทย มากกว่า 300 บาท/วัน และเพิ่มขึ้นตามความสามารถและทักษะ การผลิตและการใช้ไฟฟ้าเมียนมาราว 2,000 เมกะวัตต์ ไทยมากกว่า 20,000 เมกะวัตต์ มากกว่า 10 เท่า ไทยจึงซื้อก๊าซจากเมียนมา เป็นพลังงานผลิตไฟฟ้า ปัจจัยที่ทำให้เมียนมาพัฒนาเศรษฐกิจช้ากว่าไทย ไม่ได้อยู่ที่ระบอบการปกครอง แต่อยู่ที่ “ความแตกแยก” ขาดศูนย์รวมใจสถาบันเบื้องสูง จึงแบ่งเป็นก๊กเป็นเหล่า ทำให้สหรัฐ มาแทรกแซงยุยงได้ง่าย อ้างประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน ปั่นหัวสนับสนุนให้อาวุธกับชนกลุ่มน้อย และกลุ่มกบฎแยกแดินแดนต่างๆ ชิงอำนาจรัฐ

จนถึงปี 2564 สนับสนุนให้มีรัฐบาลพลัดถิ่น NUG และกลุ่มก่อการร้าย PDF เพื่อหาเรื่องคว่ำบาตรยึดเงินกระทรวงการคลังเมียนมาที่ฝากไว้ในธนาคารสหรัฐ สมัยรัฐบาลซูจี มากถึงราว 34,850 ล้านบาท ซ้ำเติมความไม่มั่นคง และรังแกเศรษฐกิจปากท้องชาวเมียนมาร์ที่ยากจน ด้อยโอกาส

สหรัฐ พยายามต่อต้านอิทธิพลของจีน รัสเซีย ในอาเซียน โดยบังคับให้เปลี่ยนนโนยายมาอยู่ภายใต้อิทธิพลของตนแทนเป็น “อาณานิคมรูปแบบการปกครอง” จึงบ่อนทำลายให้อาเซียนแตกแยกกัน โดยจะรังแกคว่ำบาตรเมียนมารอบใหม่ มุ่งไปที่ธนาคาร 2 แห่ง คือ MFTB และ MICB เริ่มรังแกในวันที่ 21-22 มิ.ย.2566 เพื่อหาเรื่องชักดาบยึดเงินดื้อๆ เหมือนเดิม จะส่งผลกระทบการค้าขายและการลงทุนของไทยปีละกว่า 150,000 ล้านบาท และสมาชิกอาเซียนปีละกว่า 1 ล้านล้านบาท

วิเคราะห์ว่า เป็นสาเหตุที่สำคัญ ที่ไทยในฐานะชาติเพื่อนบ้าน ต้องร่วมมือกับจีน อินเดีย และชาติที่ทำการค้ากับธนาคารเมียนมา ช่วยให้ปัญหานี้มีทางออก เพื่อผลประโยชน์ของไทย เมียนมา อาเซียน และเอเซีย โดยประชุมมหาอำนาจเอเซีย เพื่อรับมือการรังแกจากสหรัฐ และระดมแนวทางช่วยเหลือชาวเมียนมาเพื่อนบ้านทั้ง 57 ล้านคน ด้วยวิถีชาวตะวันออกให้เขาและเราผ่านพ้นภัยจากสหรัฐ ไปด้วยกัน

ไทยมีพรมแดนติดกับเมียนมายาวกว่า 2,400 กม. หากปล่อยให้ชาติตะวันตกแทรกแซง จนเมียนมาไม่มั่นคง วิกฤติเลวร้ายลง จีน อินเดีย ไทย ลาว บังคลาเทศ ที่มีพรมแดนติดเมียนมา จะได้รับผลกระทบมากที่สุด ไม่ใช่ชาวตะวันตกผลกระทบ เช่น การทะลักของผู้ลี้ภัยสงคราม ปัญหายาเสพติด การค้าอาวุธเถื่อน สินค้าหนีภาษี มูลค่าการค้าแนวชายแดน โรคระบาด ความปลอดภัยประชาชนแนวชายแดน ฯลฯ

แต่เนื่องจากชาติอาเซียนที่อยู่ไกลออกไป เช่น อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ มาเลเซีย มีดินแดนที่ไกลจากเมียนมามาก จึงไม่เคยสัมผัสว่าวิกฤติเหล่านี้หนักหนาแค่ไหน พวกเขาจึงไม่ได้ตระหนักว่าการสนับสนุนฝ่ายตรงข้ามกับฝ่ายรัฐที่ถืออำนาจรัฏฐาธิปปัตย์ โดยอ้างสิทธิมนุษยชน จะยิ่งแทรกแซงกวนน้ำให้ขุ่น ทำให้ปัญหาภายในเขาไม่จบไม่สิ้น
ไม่มีประเทศใดมุ่งมั่นที่จะหาทางยุติวิกฤติไฟความรุนแรงลุกลามจากเมียนมาเข้าบ้าน มากไปกว่าไทยแน่นอน

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่  : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454