อย่ามัวแต่แอบ!! รัสเซียกร้าวท้านาโต้เปิดหน้ามาลุยพร้อมชน เตือนยูเครนโจมตีไครเมียจะเจอเอาคืนทั้งก๊วน

0

ภายหลังที่ประธานาธิบดี ปูตินประกาศว่า การขนย้ายอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีของรัสเซียชุดแรกเข้าไปติดตั้งในเบลารุสเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว ไบเดนก็ออกมาโวยเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาว่า ภัยคุกคามจากการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีของรัสเซียนั้นเป็นเรื่องจริง ทางด้านลุงแซ่บลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียก็ออกมาท้าว่านาโต้ออกมาต่อสู้กันเปิดเผยเลย เพราะรัสเซียพร้อมอยู่แล้ว ในขณะเดียวกันรมว.กลาโหมก็ออกมาแฉ เคียฟมีแผนโจมตีไครเมียด้วยระบบจรวดหลายลำกล้อง HIMARS ของอเมริกา และขีปนาวุธสตอร์มชาโดว์ของอังกฤษ ซึ่งจะเท่ากับมหาอำนาจตะวันตกสองชาตินี้ถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งในยูเครนอย่างชัดเจนและให้คำมั่นอย่างกร้าวว่าจะตอบโต้อย่างสาสมทั้งยูเครนและประเทศที่เกี่ยวข้อง

วันที่ ๒๑ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวรัสเซียทูเดย์และทาซซ์รายงานว่า เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียกล่าวเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า หลายวันก่อนหน้านี้ Jens Stoltenberg เลขาธิการ NATO ปฏิเสธการเคลื่อนไหวใดๆเพื่อ“หยุด”ความขัดแย้งแม้ว่ายูเครนจะสูญเสียมากขึ้นก็ตาม”

“เมื่อกลุ่มตะวันตกมุ่งมั่นที่จะต่อสู้กับรัสเซียในยูเครน รัสเซียก็เตรียมพร้อมสำหรับนาโต้ในการสู้รบในยูเครนต่อไป” 

ในการให้สัมภาษณ์กับ Welt am Sonntag ของเยอรมนีที่เผยแพร่เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านทา Stoltenberg ประกาศว่า“สันติภาพไม่ได้หมายถึงการหยุดความขัดแย้งและยอมรับข้อตกลงที่รัสเซียกำหนด” เขาเสริมว่า“มีเพียงยูเครนเท่านั้นที่สามารถกำหนดเงื่อนไขที่ยอมรับได้” คำกล่าวนี้เป็นการรับรองอย่างชัดเจนต่อคำปฏิญาณของเคียฟที่จะขับไล่กองกำลังรัสเซียกลับไปยังพรมแดนก่อนความขัดแย้งและยึดดินแดนไครเมียของรัสเซีย

“หากนาโต้ซึ่งออกปากโดยสโตลเตนเบิร์กประกาศอีกครั้งว่าพวกเขาต่อต้านการยุติความขัดแย้งในยูเครนอย่างที่พวกเขาพูดพวกเขาก็ต้องการต่อสู้” “เอาล่ะ ให้พวกเขาต่อสู้ เราพร้อมแล้วสำหรับสิ่งนี้ เราเข้าใจเป้าหมายของ NATO มานานแล้วในสถานการณ์รอบๆ ยูเครน ซึ่งก่อตัวขึ้นเป็นก่อนหน้าเป็นเวลาหลายปี”

มอสโกว์ชี้ชัดว่าสหรัฐฯและพันธมิตรนาโต้ว่า ติดอาวุธยูเครนและใช้ประเทศนี้ยุยงให้เกิดความขัดแย้งกับรัสเซีย ประธานาธิบดีปูติน อธิบายความขัดแย้งว่าเป็นการระดมกำลังเข้าต่อสู้กับ“เครื่องจักรทางทหารของตะวันตกทั้งหมด”และลาฟรอฟสะท้อนความรู้สึกนี้เมื่อวันอังคาร โดยระบุว่าตะวันตกยังคงส่งอาวุธไปยังเคียฟแสดงว่าตะวันตกเป็น“ผู้มีส่วนร่วมโดยตรงในการผสมผสานประกาศสงครามกับรัสเซียและสร้างสงครามที่ร้อนระอุ”

ในขณะที่ลาฟรอฟอ้างว่าผู้นำตะวันตกบางคนเริ่ม”สร่างเมา”เกี่ยวกับธรรมชาติความจริงของความขัดแย้งยูเครน ดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน(Ukrainian Foreign Minister Dmitry Kuleba) กล่าวในการให้สัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาเรียกร้องให้มีการส่งอาวุธอย่างต่อเนื่อง เขากล่าวว่า“ไม่มีอะไรจะเพียงพอ ไม่ว่าพวกเขาจะส่งไปมากแค่ไหน เพราะหากไม่มีชัยชนะ นั่นหมายถึงมันไม่เพียงพอ”

ด้วยการตอบโต้อย่างต่อเนื่องของยูเครนที่สะดุดกับการป้องกันของรัสเซียที่ “เตรียมพร้อมมาอย่างดี” Stoltenberg กล่าวกับผู้สื่อข่าวเมื่อวันจันทร์ว่า อีกไม่นานประเทศต่างๆ ของ NATO จะส่งยุทโธปกรณ์ไปช่วยกองทหารยูเครนกวาดล้างทุ่นระเบิดของรัสเซีย แต่เขาไม่ได้บอกว่าจะส่งอุปกรณ์ชนิดใด หรือสมาชิกรายใดจะจัดหาให้ อาจจะกำลังคิดอยู่ว่าจะหาอาวุธแบบไหนมาปราบอาวุธและกลยุทธ์รัสเซีย

เมื่อเดือนที่แล้ว ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลินบอกกับสำนักข่าว TASS ว่ามอสโกว์“เห็นด้วย”กับตะวันตกเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่ว่าความขัดแย้งไม่สามารถ“หยุดนิ่ง” ได้ ทางเลือกเดียวที่มอสโกว์กำลังพิจารณาอยู่ในขณะนี้คือ“ดำเนินการปฏิบัติการทางทหารพิเศษให้เสร็จสิ้น”หรือการลดทอนกำลังทหารของยูเครน และการรักษาความเป็นกลางด้วยกำลังอย่างเด็ดขาด

ขณะเดียวกัน พลเอกเซอร์เกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของรัสเซียกล่าวเตือนว่า “ผู้นำทางทหารของยูเครนมีแผนที่จะใช้อาวุธของชาติตะวันตกเพื่อโจมตีพื้นที่ของรัสเซียที่ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ที่มีการสู้รบ รวมทั้งไครเมีย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เคียฟมีแผนที่จะใช้เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องของ HIMARS และขีปนาวุธร่อนที่ปล่อยทางอากาศ Storm Shadow  ระบบอาวุธดังกล่าวถูกส่งไปยังเคียฟโดยสหรัฐฯ และอังกฤษ หากการโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้น มันจะยิ่งเพิ่มระดับการมีส่วนร่วมของกลุ่มประเทศนาโต้ในความขัดแย้งอย่างโจ่งแจ้ง”

การดำเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้เกิดการตอบโต้ทันทีต่อศูนย์การตัดสินใจในดินแดนของยูเครน ” ขู่กันตรงๆแบบนี้แปลวว่ามีข้อมูลอยู่ในมือแล้วว่า ศูนย์ตัดสินใจนาโต้อยู่ตรงไหนในยูเครน

รัฐมนตรียังเสนอข้อมูลอัปเดตสั้นๆ เกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารพิเศษในยูเครน โดยระบุว่าตั้งแต่วันที่ ๔ มิถุนายน กองกำลังของเคียฟได้เปิดการโจมตี ๒๖๔ ครั้งต่อตำแหน่งของรัสเซีย กองกำลังทหารยูเครนทั้งหมดถูกขับไล่ ศัตรูไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ จวบจนปัจจุบัน ”