การโจมตีด้วย ‘รถถังกามิกาเซ่’ ของรัสเซียกำลังกลายเป็นประเด็นฮือฮาในโลกโซเชียลสำหรับผู้สนใจสถานการณฺ์สู้รบสงครามตัวแทนยูเครน เป็นกลยุทธ์ที่กลาโหมรัสเซียเพิ่งเปิดเผยหลังการตอบโต้ของยูเครนล้มเหลว
รถหุ้มเกราะของยูเครนที่ยึดได้จะถูกดัดแปลงเป็นระเบิดพลังขับเคลื่อนอัตโนมัติภาพจากวีดิโอที่เผยแพร่โดยกลาโหมรัสเซียระบุว่า เกิดขึ้นที่เมือง Donbass ใกล้กับนิคมแนวหน้าของ Maryinka ทางตะวันตกของเมือง Donetsk กล่าวกันว่ารถถังบรรทุกระเบิดหกตันและส่งกลับไปยังตำแหน่งยูเครนที่บุกเข้ามาแนวหน้าโดยไม่มีคนขับ เป็นรถถัง T-54 ที่ผลิตในโซเวียตของยูเครนที่ถูกยึดได้
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานตัวอย่างกลยุทธ์เดียวกันที่ประสบความสำเร็จมากขึ้น ผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอธิบายว่าทีมของเขาบรรจุรถลากจูง MT-LB ของยูเครนที่ยึดมาได้ซึ่งมีวัตถุระเบิด ๓.๕ ตันและระเบิดการบิน FAB-100 ห้าลูก ก่อนที่จะนำมันไปยังด่านหน้าของยูเครนห่างออกไปประมาณ ๓๐๐ เมตร
น้ำหนักบรรทุกถูกจุดชนวนจากระยะไกลอันส่งผลให้“ข้าศึกประสบความสูญเสียอย่างมากทั้งในด้านอุปกรณ์และกำลังคน”
หลังจากกองทหารยูเครนเข้าไปใกล้รถที่จอดอยู่เพื่อตรวจสอบ วัตถุระเบิดก็ทำงานจากระยะไกล รายงานอ้างหลักฐานของเหตุการณ์รวมถึงภาพที่อ้างว่าถ่ายโดยทหารยูเครนก่อนและหลังการระเบิดเผยแพร่ในช่องเทเลแกรมอย่างกว้างขวาง
ในวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ของกองกำลังพิทักษ์ชาติรัสเซียค้นพบที่เก็บกระสุนของยูเครนใต้สะพานใกล้กับชุมชนในสาธารณรัฐประชาชนลูกันสค์ (LPR) เรื่องนี้สำนักข่าวของกองกำลังรักษาดินแดนเปิดเผยกับ TASS เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา
“การตรวจสอบสถานที่ที่ถูกค้นพบโดยวิศวกรภาคสนาม เผยให้เห็นระเบิดต่อต้านรถถังแบบดัดแปลงต่างๆ สี่ลูก และ PG-7S ขนาด ๔๐ มม. ห้าลูก ระเบิดสองลูก และอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดเล็กหลายลำกล้องกว่า ๗๐๐ ลูก มีท่อจุดระเบิดที่ผลิตเองและเครื่องจุดชนวนด้วยไฟฟ้า ๔๒ เครื่อง” อาวุธยุทโธปกรณ์และกระสุนทั้งหมดถูกส่งไปยังสถานที่ปลอดภัยสำหรับการศึกษาของผู้เชี่ยวชาญรัสเซีย
วันที่ ๒๐ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวมิลลิทารี่รีวิวรายงานว่า เนื่องจากวันที่ ๒๐ มิถุนายนของทุกปีเป็นวันรำลึกถึงการสร้างตอร์ปิโดสำเร็จของรัสเซีย
ผู้เชี่ยวชาญของบริการทุ่นระเบิดและตอร์ปิโดของกองทัพเรือรัสเซียสามารถปกป้องพรมแดนทางทะเลของประเทศได้อย่างน่าเชื่อถือในยามสงบ ขับไล่ศัตรูที่ผิวน้ำและการโจมตีใต้น้ำระหว่างการสู้รบ สิ่งเหล่านี้เป็นงานที่สำคัญมากซึ่งวิธีแก้ปัญหานั้นมอบให้กับนักขุดและนักตอร์ปิโดของรัสเซีย
วันที่นี้อุทิศให้กับชัยชนะอันรุ่งโรจน์ของกองเรือของรัสเซีย ซึ่งทุ่นระเบิดของรัสเซียในอ่าวฟินแลนด์มีบทบาทชี้ขาดชัยชนะ ในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปี ๑๘๕๔ ระหว่างสงครามไครเมีย เมื่อวันที่ ๒๐ มิถุนายนปีนั้น ฝูงบินร่วมแองโกลฝรั่งเศสซึ่งประกอบด้วยเรือ ๒๐ ลำ พยายามโจมตีท่าเรือของรัสเซียในทะเลบอลติก แต่ความพยายามนั้นไม่ประสบความสำเร็จ ฝ่ายสัมพันธมิตรวางแผนที่จะโจมตีฐานหลายแห่ง อันดับแรกคือที่ครอนสตัดท์ และไม่ไกลจากเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กซึ่งในเวลานั้นมีสถานะเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิรัสเซีย ผู้รุกรานล้มเหลวในการตระหนักถึงแผนการของพวกเขาเนื่องจากทุ่นระเบิดที่ติดตั้งในอ่าว ซึ่งศัตรูไม่สามารถเอาชนะได้ ในขณะที่พวกเขาสูญเสียเรือรบ ๔ ลำเพราะทุ่นระเบิด
ทุกวันนี้ ทุ่นระเบิดและตอร์ปิโดของกองทัพเรือรัสเซียมีบทบาทสำคัญในการป้องกันประเทศ โดยมีส่วนร่วมในการประกันความมั่นคงของพรมแดนทางทะเลของประเทศอย่างโดดเด่น
ในช่วงเวลาเดียวกันสถานการสู้รบในแนวหน้ายังคงดุเดือดไม่พัก กองทัพรัสเซียยิงขีปนาวุธโจมตีสถานที่เก็บยุทโธปกรณ์ที่ผลิตจากต่างประเทศของกองทัพยูเครนพังยับในคืนวันอาทิตย์ถึงวันจันทร์
กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า “ในตอนกลางคืนกองทัพรัสเซียทำการโจมตีกลุ่มโดยใช้อาวุธที่มีความแม่นยำระยะไกลจากทะเล ไปยังสถานที่จัดเก็บยุทโธปกรณ์ที่ผลิตจากต่างประเทศ เป้าหมายทั้งหมดถูกโจมตีและบรรลุเป้าหมายแล้ว”
กองกำลังรัสเซียประสบความสำเร็จในการขับไล่การโจมตี ๔ ครั้งโดยกองทหารยูเครนในทิศทางของโดเนตสค์ และการโจมตี ๓ ครั้งในทิศทางของโดเนตสค์ใต้ในช่วง ๒๔ ชั่วโมงที่ผ่านมา
ในทิศทางของโดเนตสค์กองทัพยูเครนสูญเสียบุคลากรทางทหารมากกว่า ๓๔๐ นาย ยุทโธปกรณ์ ๑๐ ชิ้น รวมทั้งปืนครก Krab ที่ผลิตในโปแลนด์ คลังกระสุน
ในทิศทางโดเนตสค์ตอนใต้ ยูเครนสูญเสียทหารกว่า ๑๐๐ นาย รถถังหนึ่งคัน ยานเกราะต่อสู้ ๑๒ คัน และยานเกราะต่อสู้สิ่งกีดขวางที่ผลิตจากต่างประเทศ ๑ คัน
ในเขตซาโปริชเชีย (Zaporozhye) ขับไล่การโจมตีสองครั้งโดยกองทหารยูเครนในพื้นที่ของหมู่บ้าน Malaya Tokmachka โดยระหว่างนั้น รถถัง ๒ คัน ยานรบทหารราบ ๑๐ คัน และยานเกราะต่อสู้ ๒ คันถูกโจมตียังไม่มีรายงานการสูญเสีย”
