ไม่เสียเวลาคุย! รัสเซีย สาดลูกยาว-โดรนถล่มยูเครนทั่วทุกทิศ! ค้นหาพิกัดกองบัญชาการในแนวหลัง ประเคนขีปนาวุธใส่ไม่ยัั้ง

0

จากกรณีที่การสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน กำลังร้อนระอุอยู่ในขณะนี้ โดยกองกำลังของฝ่ายรัสเซีย ได้มีการปรับกลยุทธในการสู้รบกับยูเครน ทำให้ฝ่ายยูเครน ตั้งรับแทบไม่ทัน

ล่าสุดวันนี้ (19 มิถุนายน 2566) Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่รัสเซียได้เดินหน้าโจมตียูเครนอย่างหนัก โดยบอกว่า ปี 2557 รัสเซีย – ยูเครน ลงนามร่วมกันในสนธิสัญญากรุงมินสค์ เบลารุส โดยมีเยอรมนี และฝรั่งเศส เป็นสักขีพยาน ว่าฝ่ายยูเครน จะไม่ใช้กำลังทหารและอาวุธทำร้ายชาวสลาฟรัสเซีย ในภูมิภาคดอนบาส แต่เมื่อลงนามแล้วยูเครน ละเมิดสนธิสัญญาทันที ยิ่งใช้อาวุธโจมตีพลเรือนในภูมิภาคดอนบาส หนักกว่าเดิมต่อเนื่อง 8 ปี มีผู้เสียชีวิตกว่า 14,000 ราย ทำให้รัสเซีย ต้องสนับสนุนชาวสลาฟถูกรังแกเหล่านั้น

ปลาย มี.ค.2565 รัสเซีย – ยูเครน เจรจาสันติภาพที่ตุรกี (ทูร์เคีย) หลังจากนั้นกองทัพรัสเซีย ที่ล้อมเมืองหลวงกรุงเคียฟอยู่ จู่ๆ ก็ถอนทัพกลับไปที่ภูมิภาคดอนบาส โดยสื่อตะวันตกและสื่อไทยประโคมข่าวว่ารัสเซียแพ้จึงถอนทัพ
และแล้วปริศนาดำมืดนั้นก็เฉลยโดยประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เขาได้แสดงเอกสารหลักฐานกับคณะของผู้นำแอฟริกา เป็นร่างสนธิสัญญาสันติภาพครั้งนั้นที่มีการลงนามอนุมัติจากยูเครนเรียบร้อยแล้ว

ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน ชาวโลกจึงเพิ่งรู้เป็นครั้งแรก เนื้อหาของสนธิสัญญานี้ ร่างโดยฝ่ายยูเครนเอง ว่ารับประกันความเป็นกลางอย่างถาวรไม่ฝักไฝ่ตะวันตก และรัสเซียค้ำประกันความปลอดภัยของยูเครน จำนวน 18 หัวข้อ
มีภาคผนวกรายการและจำนวนอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารที่ยูเครน จะไม่มีการเพิ่มจากสนธิสัญญานี้ คือ

– รถถัง 342 คัน
– ยานเกราะ 1,029 คัน
– ปืน ค. 519 กระบอก
– ปืนใหญ่ 147 กระบอก
– ขีปนาวุธประทับบ่า 608 ชุด
– เครื่องบินรบ 102 ลำ
– ทหาร 85,000 นาย
– หน่วยพิทักษ์ชายแดน 15,000 นาย

เมื่อ 2 ฝ่ายเห็นพ้องในร่างสนธิสัญญากันแล้ว กองทัพรัสเซีย จึงถอนกำลังทหารออกจากกรุงเคียฟ เพื่อรับประกันความปลอดภัยของยูเครน ตามที่สัญญาไว้ แต่ฝ่ายยูเครน ก็เบี้ยวสนธิสัญญาเหมือนเดิม สมคบกับสหรัฐ และฝ่ายสัมพันธมิตร NATO ขนอาวุธ และทหารต่างชาติกองกำลังผสมมากมหาศาล มาบุกโจมตีหวังแตกดินแดนรัสเซีย แต่ผ่านไปขึ้นปีที่ 2 ก็ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ทำให้ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้นำสหรัฐฯ ขัดเคืองมาก เขาไม่พอใจกับผลงานบุกของกองกำลังผสมที่ไม่มีความคืบหน้าใดๆ จึงยืนยันว่ายูเครนจะไม่มีวันได้เป็นสมาชิกของ NATO ถ้ายังเอาชนะรัสเซียไม่ได้

สื่อ The New York Times รายงานว่าทหารฝ่ายสัมพันธมิตรที่รอดชีวิตกลับมาจากการแนวหน้าชั้นแรกบรรยายยุทธวิธีใหม่ของกองทัพรัสเซียว่า ทันทีที่พวกเขาลงจากยานเกราะติดอาวุธ ต้องตกตะลึงเพราะการยิงที่รุนแรงจากปืนใหญ่ จรวด ขีปนาวุธ ก็เปิดฉากขึ้นมาจากหลายทิศทางจำนวนมากอย่างไม่เคยพบเห็นมาก่อน เหล่าทหารต้องสูญเสียกำลังพลอย่างหนัก

กองทัพรัสเซียได้ปรับปรุงระเบียบวินัย การประสานงาน และการสนับสนุนทางอากาศ ขบวนรถหุ้มเกราะของทหารรัสเซียจะไม่ออกจากแนวป้องกันด้านชั้นหลังไปที่แนวหน้าในพื้นที่เสี่ยง แต่จะใช้โดรนพลีชีพ และการโจมตีแบบสาดใส่จากการประสานงานของปืนใหญ่ และโจมตีทางอากาศ นอกจากนี้กองทัพรัสเซีย ยังพยายามค้นหาตำแหน่งพิกัดกองบัญชาการรบกองร้อย และกองพลน้อย ที่อยู่แนวหลัง

จากนั้นจะโจมตีอาวุธใส่จากระยะไกลเพื่อรบกวนการสื่อสารสั่งการระหว่างหน่วยให้มากที่สุด โดยใช้ระเบิดร่อนแทนเครื่องบินในพื้นที่เสี่ยงต่อระบบป้องกันภัยทางอากาศของ NATO นอกจากนี้ ยังใช้ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ในการรบกวนคลื่นวิทยุการบิน และโดรนของฝ่ายสัมพันธมิตร จนน็อคกลางอากาศตกลงสู่พื้นโลกทั้งหมด

วิเคราะห์ว่า ความผิดพลาดของ NATO ที่ใช้หลักนิยมยุทธวิธี “พื้นที่สำคัญกว่าทหาร” ทุ่มไพร่พลและยานรบจำนวนมากเพื่อค้นหาจุดอ่อนในตำแหน่งแนวหน้ารัสเซีย แค่สัปดาห์เดียวพวกเขาต้องสูญเสียทหารไปแล้วหลายพันนาย พร้อมยานรบเทพจำนวนมาก แต่เจาะแนวหน้าไม่เข้าเลย

เพราะรัสเซีย ใช้หลักนิยมยุทธวิธี “ทหารสำคัญกว่าพื้นที่” จึงเลี่ยงปะทะด้วย ได้แต่สาดลูกยาวจากแนวหลังมาทุกทิศทางประเคนมาเจรจาด้วย ดังนั้นฝ่ายสัมพันธมิตรคงต้องหยุดการรบด้วยคลื่นมนุษย์สักระยะหนึ่ง แล้วทบทวนบทเรียนราคาแพงคราวนี้ ไม่เช่นนั้นทหารหน่วยรบเทพที่ NATO ฝึกไว้หลายหมื่นต้องสูญเสียอย่างแน่นอน

ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ : https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454