จากการสู้รบในยูเครนที่ดูเหมือนว่าฝ่ายรัสเซียได้เปรียบกองกำลังผสมที่มีนาโต้สนับสนุน ทำให้มีรายงานถึงการเปลี่ยนสมรภูมิมายังเอเชีย โดยสหรัฐมีส่วนสำคัญ ซึ่งปรากฏความเคลื่อนไหวที่น่าติดตามเป็นอย่างยิ่งเพราะเกี่ยวโยงกับชาติอาเซียนด้วย
ทั้งนี้ Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความนำเสนอถึงความเคลื่อนไหวดังกล่าวไว้เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2566 ไว้อย่างน่าสนใจว่า
“สถานการณ์สงครามในยูเครน ฝ่ายสัมพันธมิตร NATO ออกอาการไม่ดีนัก เมื่อถูกฝ่ายรัสเซีย สวนกลับอย่างรุนแรง จนไพร่พล และอาวุธหร่อยหรอ ได้ไม่คุ้มเสียกำลังหาทางลงโดยเผ่นมาเปิดสมรรบใหม่ในเอเซียตะวันออก
มีรายงานว่าสหรัฐ ส่งมอบเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ที่เกาหลีใต้สั่งซื้อแล้ว ยิ่งกระตุ้นให้เกาหลีเหนือหัวร้อนระอุ , โดยรัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมแผนอพยพพลเมืองอเมริกัน ที่อาศัยอยู่ในไต้หวันออกไป
ปี2565 ที่ผ่านมาฟิลิปปินส์ สั่งซื้อขีปนาวุธความแม่นยำสูง Supersonic Missile รุ่น BrahMos จากอินเดีย จำนวน 3 ระบบมูลค่า 13,005 ล้านบาท
ล่าสุดเวียดนามสั่งซื้อเครื่องยิงขีปนาวุธ Supersonic รุ่นเดียวกันจากอินเดียจำนวน 5 ระบบ มูลค่า 21,675 ล้านบาท โดย อินโดนีเซีย แสดงความสนใจอย่างมากในการซื้อขีปนาวุธแบบเดียวกันนี้
ส่วนสถานการณ์ที่เดือดระอุคือตลอดแนวชายแดนไทยด้านติดกับเมียนมาร์ ไม่กี่วันก่อน กลาโหมสหรัฐ ได้เช่าดาวเทียม Starlink เปิดสัญญาณอินเตอร์เน็ตให้กับรัฐชายแดนชาวกะเหรี่ยงอ้างเรื่องช่วยเหลือสิทธิมนุษยชน
แต่พบความผิดปกติ เมื่อกลุ่มติดอาวุธกะเหรี่ยง KNLA และกลุ่มก่อการร้าย PDF ที่มีสำนักงานระดมทุนและอาวุธในสหรัฐ ได้ใช้อากาศยานโดรนพลีชีพ ที่ใช้เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ตผ่านดาวเทียม Starlink โจมตีค่ายทหารเมียนมา ในรัฐมอญ
ส่วนในรัฐคะยาห์ตรงข้าม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ของไทยน่าแปลกมากที่แกนนำกลุ่มติดอาวุธกระเหรี่ยงแดง KNDF ปลุกเร้าให้ชาวเมียนมา สนับสนุนอาวุธและบริจาคเงินให้ยูเครน สู้รบกับรัสเซีย
วิเคราะห์ว่าสหรัฐ เตรียมอพยพพลเมืองออกจากไต้หวัน , ส่งเรือดำน้ำนิวเคลียร์ให้เกาหลีใต้ , ฟิลิปปินส์ ที่โปรสหรัฐ ซื้ออาวุธ Supersonic , เวียดนาม ที่โปรรัสเซีย ก็ซื้อรุ่นเดียวกัน , อินโดนีเซีย ก็เร่งซื้ออาวุธความเร็วสูงนี้จากของอินเดีย
กลุ่มก่อการร้ายในเมียนมาร์ ใช้โดรนพลีชีพโจมตีทหาร ส่วนกองทัพเมียนมาร์ใช้เครื่องบินรบถล่มกลับด้วยจรวด จากภาพรวมบ่งชี้ว่าสหรัฐ กำลังปั่นสถานการณ์ความขัดแย้งในเอเซียตะวันออก และอาเซียน
แต่จะไม่มีฝ่ายใดกล้าโจมตีอาวุธล้ำแดนข้ามมาไทย ตราบที่วางตัวเป็นกลางไม่ยอมเป็นทางผ่านอาวุธตะวันตกข้ามไปให้กลุ่มกบฎ ไม่สนับสนุน ไม่เกี่ยวข้องใดๆ กับฝ่ายที่ขัดแย้งกันในฝั่งเมียนมาร์
แม้ว่าไทยจะอยากช่วยให้เขาเจรจายุติความขัดแย้งกัน แต่ไม่ควรล้ำเส้นอินโดนีเซีย ที่เป็นประธานหมุนเวียนอาเซียนในปี 2566 นี้ เพราะจะทำให้ชาติอาเซียนอื่นอึดอัดใจ และไม่ให้ความร่วมมือด้วย
ยึดหลักไผ่ลู่ลมให้มั่น รักมหาอำนาจทุกฝ่าย ส่วนในเมียนมาร์ เขามีปัญหาขัดแย้งภายในและตีกันมาหลายทศวรรษแล้ว เป็นเรื่องภายในบ้านเขาตามปกติ คนนอกไปยุ่งเหยิงจะยิ่งกระตุ้นบานปลายหนักเหมือนยูเครนแน่นอน”
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454