รัสเซียพร้อมจัดหนัก! ประกาศเขตปลอดทหาร-ขยายการยึดดินแดนยูเครนเพิ่ม ล็อกเป้าถล่มอาวุธตะวันตกทิ้งทั้งหมด
จากสถานการณ์สู้รบในยูเครน ที่กำลังปะทะกันอย่างดุเดือด ซึ่งมีแนวโน้มว่าเป้าหมายต่อไปทางการทหารของรัสเซีย คาดว่าน่าจะเป็นใจกลางกรุงเคียฟ ซึ่งสอดคล้องกับคำแถลงของปูตินเมื่อวันที่ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา
ต่อมาเมื่อวานนี้ (17 มิถุนายน 2566) Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความถึงกรณีที่กองกำลังนาโต้ ที่สูญเสียเป็นจำนวนมากในการต่อสู้กับรัสเซีย โดยบอกว่า แม้ว่าฝ่ายสัมพันธมิตร NATO จะส่งทหารกองกำลังผสมเทพ และอาวุธมหาเทพ มากมายมาบุกทางบกชายแดนรัสเซีย แต่กลับถูกสวนกลับด้วยอาวุธทางอากาศลูกยาวจนย่อยยับ วุฒิสมาชิกดิ๊ก แบล็ค ของสหรัฐฯ ยืนยันว่าผลการบุกชายแดนในสัปดาห์แรกฝ่ายสัมพันธมิตรถูกทำลายไป 7,000 นาย เป็นการนองเลือดที่ไร้สติ รถถัง 160 คัน และรถหุ้มเกราะ 360 คัน โดยรัสเซียแทบไม่เป็นอะไรเลย
มีรถถัง Leopard เยอรมนี และ Bradley ไหม้เกรียมอยู่ทั่วแนวหน้าเต็มไปหมด การรุกเข้าไปชนกำแพงเหล็ก แต่มีคำสั่งให้สู้ต่อไป ให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพื่อทำให้รัสเซียอ่อนแรง มีรายว่าวันที่ 11-12 ก.ค.2566 จะการประชุมประจำปีกลุ่มสงคราม NATO ที่กรุงวิลนีอุส ลิทัวเนีย จึงหลอกยูเครนว่าถ้ายังเอาชนะรัสเซียไม่ได้ จะไม่เชิญให้เข้าร่วมประชุมครั้งนี้ เพราะจะเพิ่มการเผชิญหน้ากับรัสเซียมากขึ้น สร้างความไม่พอใจให้กับยูเครนมาก ที่ไม่ได้รับคำเชิญ จึงพยายามสั่งทหารฝ่ายสัมพันธมิตรบุกชายแดนรัสเซียอย่างต่อเนื่อง เสียไพร่พล และอาวุธเท่าไรเท่ากัน หวังโชว์พาวผลงานให้ถูกเชิญไปร่วมประชุม NATO เพื่อขอเงินและอาวุธเพิ่ม
ประธานาธิบดีซีริล รามาโปซา ผู้นำแอฟริกาใต้ ชาติในกลุ่ม BRICS เดินทางโดยรถไฟมาถึงกรุงเคียฟ ยูเครน เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนสันติภาพกับประธานาธิบดีเซเลนสกี ผู้นำยูเครน จากนั้นคณะของเขาจะเดินทางต่อไปกรุงเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เพื่อพบหารือกับ ผู้นำรัสเซีย , สื่อ Reuters สหรัฐ ปล่อยข่าวปลอมว่ามีสัญญาณเตือนภัยทางอากาศในกรุงเคียฟ คณะของแอฟริกาใต้หลบภัยในโรงแรมแห่งหนึ่งจากอันตราย แต่สื่อ News 24 รายงานว่านาย Vincent Magwenya โฆษกประธานาธิบดีแอฟริกาใต้ ยืนยันว่าเหตุที่สื่อตะวันตกอ้างล้วนเป็นข้อมูลบิดเบือนและโกหก คณะของเขาไม่ได้ยินหรือเห็นการระเบิดใดๆ
มีการจงใจเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จบิดเบือนสถานการณ์ที่ยูเครน คณะพวกเราทุกคนต่างงงงวยกับข้อมูลตรงข้ามความจริงที่สื่อตะวันตกรายงาน เพราะขณะเดินทางด้วยรถยนต์กลับไปที่โรงแรมที่พัก ตามถนนหนทางผู้คนยังคงดำเนินชีวิตต่อไปตามปกติ สิ่งนี้แปลกมาก แสดงให้เห็นถึงการบิดเบือนปั่นข้อมูลต่างๆ ของสื่อโดยเจตนา และขาดความน่าเชื่ออย่างรุนแรงมาตลอด
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประชุมกับเจ้าหน้าที่ แล้วระบุว่าการโจมตีอาวุธใส่รัสเซียอย่างต่อเนื่อง จำเป็นต้องสร้าง “เขตปลอดทหาร” ในยูเครน โดยเจ้าหน้าที่ระดับสูงเผยว่าเส้นเขตปลอดภัยใหม่นี้ จะขยายไป 300 กม.จากชายแดนใหม่ของรัสเซีย อันเป็นระยะของขีปนาวุธที่ชาติตะวันตกส่งไปให้กู้กับยูเครน เส้นแดนใหม่นี้จะไปกินอาณาเขตไปทางตะวันตกของกรุงเคียฟ แต่ถ้า NATO ยังส่งอาวุธมาอีก รัสเซียก็จะขยายเขตไปเป็น 400 กม. จากชายแดน
จะส่งผลให้ไปบรรจบกับเขตแดนของโปแลนด์เดิมในสมัยปี 1939 ก่อนที่เยอรมนีจะบุก นั่นหมายถึงต้องการแสดงให้ชาติตะวันตกเห็นว่า รัสเซียพร้อมที่จะเล่นเกมส์สงครามที่รุนแรงขึ้น และพร้อมที่จะเพิ่มเดิมพันด้วยแสนยานุภาพทางอาวุธที่มี ช่วงนี้เข้าสู่ฤดูร้อนต่อฤดูฝน จึงพบทหารรับจ้าง ชาวซีเรีย และชาวแอฟริกา มาสมัครเป็นทหาร PMC ฝ่ายรัสเซีย และกำลังต่อสู้อยู่ในแนวหน้าป่า Kremennaya ส่วนนักรบ Wagner Group หลังจากพักแล้วจะกลับมาแนวหน้าอีกครั้งในเดือน ส.ค.2566
วิเคราะห์ว่า ยิ่งชาติตะวันตกใช้อาวุธมาตกหล่มสงครามในยูเครนมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้รัสเซีย จำเป็นต้องทำลายอาวุธและทหารทิ้งมากเท่านั้น พร้อมทั้งขยายการยึดดินแดนและเมืองยูเครน เพิ่มมากขึ้นไปเรื่อยๆ การยึดก็ต้องใช้อาวุธหนักถล่มทางอากาศทำลายอาคาร สถานที่ควบคู่กับใช้กำลังทหารราบที่รัสเซีย มีประสบการณ์ทำสงครามถล่มยืดเยื้อ เช่น สงครามซีเรีย ถล่มกลุ่มก่อการร้าย IS โปรตะวันตก , สงครามเชเชน 2 รอบ นานราว 15 ปี
ถ้าชาติตะวันตก คิดจะทำสงครามยืดเยื้อกับรัสเซีย ในสมรภูมิยูเครน พวกเขาคิดผิดเพราะที่นั่นอยู่ติดรัสเซีย ที่ได้เปรียบในระบบอาวุธ และโลจิสติกส์ระยะยาวมีหลายช่องทาง ไม่ว่าชาติตะวันตกจะทุ่มเงินจนสิ้นเนื้อประดาตัวล้มละลายเป็นโดมิโน แต่รัสเซียจะยังคงโกยเงินเข้าทวีคูณ แผ่บารมีจัดระเบียบโลกใหม่หลายขั้วไปทั่วโลก
กระตุ้นการพัฒนาแสนยานุภาพอาวุธร้ายแรงทันสมัยล้ำไฮเทคกว่าหนีไปไกลแน่นอน
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://www.blockdit.com/world.update
อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454
