กองกำลังยูเครนเปิดตัวการตอบโต้ที่รอคอยมานานเมื่อต้นเดือนนี้ หลังจากสะสมอาวุธของนาโต้ รวมทั้งรถถังหนัก Leopard และยานต่อสู้แบรดลีย์ ฝ่ายรุกชะงักงันหลังจากชนเข้ากับแนวรับของรัสเซียที่เตรียมการมาอย่างดี แม้แต่ผู้สนับสนุนตะวันตกของเคียฟก็แสดงความกังวลเกี่ยวกับความสูญเสียอย่างหนักของยูเครน
ท่ามกลางการต่อต้านอย่างต่อเนื่องต้องสูญเสียรถถังและรถหุ้มเกราะ จำนวนมากจนถึงปัจจุบันการสูญเสียยังคงเพิ่มขึ้น ปธน. ปูตินย้ำชัดในระหว่างการประชุมนานาชาติครั้งใหญ่มีผู้เข้าร่วมถึง ๑๗,๐๐๐ คนจาก ๑๓๐ ประเทศ ฟอรัมเศรษฐกิจ SPIEF ที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
วันที่ ๑๘ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่าประธานาธิบดีปูตินแห่งรัสเซีย กล่าวว่า ยูเครนล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์ทางยุทธศาสตร์ ท่ามกลางการต่อต้านอย่างต่อเนื่อง โดยสูญเสียรถถัง ๑๘๖ คันและรถหุ้มเกราะ ๔๑๘ คันจนถึงปัจจุบัน ที่ยังพยายามรุกในหลายพื้นที่การสูญเสียยังคงเพิ่มขึ้น”
ปูตินกล่าวกับผู้สื่อข่าวระหว่างการประชุมใหญ่ของการประชุม SPIEFว่า“ในบางแห่งกองกำลังยูเครนสามารถเข้าถึงแนวป้องกันแรกได้ ในบางแห่งไม่เป็นเช่นนั้น แต่นั่นไม่ใช่คำถาม”
“คำถามวนเวียนอยู่กับข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขากำลังใช้สิ่งที่เรียกว่ากำลังสำรองทางยุทธศาสตร์ ซึ่งประกอบด้วยองค์ประกอบหลายอย่าง อย่างแรกคือใช้เพื่อทำลายแนวป้องกันของกองทัพรัสเซีย อย่างที่สองเพื่อใช้กองกำลังเพื่อตั้งฐานที่มั่นเหนือดินแดน พวกเขายังไปไม่ถึงเป้าหมายในแนวหน้าแม้แต่จุดเดียว นี่คือสิ่งสำคัญ”
ปูตินกล่าวว่า “การสูญเสียของพวกเขานั้นใหญ่มากจริงๆ มากกว่าสิบต่อหนึ่งเมื่อเทียบกับกองทัพรัสเซีย นี่คือข้อเท็จจริง ในแง่ของยุทโธปกรณ์ ความสูญเสียกำลังเพิ่มขึ้นทุกวัน”
ปูตินกล่าวอีกว่า “องค์กรด้านกลาโหมของรัสเซียกำลังทำงานตลอด ๒๔ ชั่วโมงเพื่อจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับกองทัพ โดยทำงานสองกะหรือสามกะ เราได้เพิ่มผลผลิตทางทหารถึง ๒.๗ เท่า และเมื่อพูดถึงยุทโธปกรณ์ที่จำเป็นที่สุดผลิตมากเป็น ๑๐ เท่า”
สำหรับกองกำลังของยูเครน ปูตินทำนายว่า “อีกไม่นานพวกเขาจะเลิกใช้ยุทโธปกรณ์ของตนเองโดยสิ้นเชิง เพราะกำลังถูกทำลายอย่างเป็นระบบ ทุกสิ่งที่พวกเขาใช้ในการสู้รบ ล้วนมาจากต่างประเทศ ไม่มีใครสามารถต่อสู้แบบนั้นได้นาน”
ปูตินยังใช้โอกาสนี้อีกครั้งในการเจาะลึกถึงต้นตอของวิกฤตในปัจจุบัน โดยกล่าวว่า “สงครามในยูเครน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของยูเครน เริ่มต้นโดยระบอบเคียฟซึ่งได้รับการหนุนหลังจากผู้สนับสนุนตะวันตกในปี ๒๐๑๔/๒๕๗๗ แต่ทุกคนในตะวันตกพยายามที่จะไม่พูดเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันจำเป็นต้องเตือนพวกเขาว่าเครื่องบิน รถถัง ปืนใหญ่ถูกใช้กับ Donbassในตอนนั้นทุกวัน ถ้าไม่ใช่สงครามแล้วจะเกิดอะไรขึ้น”
ปูตินกล่าวว่า “เคียฟ “ปฏิเสธ” ที่จะยุติวิกฤต Donbass โดยใช้สันติวิธี บังคับให้เราใช้กองกำลังติดอาวุธของเราเพื่อพยายามยุติสงครามนี้”
ไม่ใช่รัสเซียที่นำพันธมิตรตะวันตกมาอยู่ “เพียงปลายจมูก” ระหว่างปี ๒๕๕๘-๒๕๖๕ ด้วยการลงนามในข้อตกลงสันติภาพมินสค์สำหรับดอนบาส “โดยไม่มีแผนที่จะดำเนินการตามที่พวกเขายอมรับต่อสาธารณชนเมื่อเร็ว ๆ นี้” เขากล่าวถึงการเปิดเผยล่าสุดโดยอดีตผู้นำยูเครน เยอรมัน และฝรั่งเศส ยืนยันว่า พวกเขาเพียงแต่ลงนามในข้อตกลงมินสค์เพื่อให้เวลาเคียฟในการติดอาวุธและเตรียมทำสงครามกับรัสเซีย เท่ากับยอมรับว่าตะวันตกหลอกลวงรัสเซียมาโดยตลอด
สถานการณ์ในแนวหน้า ระหว่างการรุกของเคียฟ กองทัพรัสเซียได้บดขยี้ศัตรูทั้งทางบกและในอากาศ
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียได้เผยแพร่ภาพที่แสดงให้เห็นทหารรัสเซียกลุ่มหนึ่งบังคับให้กองกำลังที่เหนือกว่าของกองทหารยูเครนหลบหนีไปในทิศทางของเมือง Avdeevka
เจ้าหน้าที่กลุ่มทหาร ‘ยุกรัสเซียน’ (Yug Russian) กล่าวว่า “จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ของทหารยูเครนอ่อนแอมากในขณะนี้ ศัตรูจะหลบหนีเมื่อมีการสู้รบที่รุนแรงและไม่ได้ยึดตำแหน่งไว้อย่างแท้จริง พวกเขาทิ้งป้อมปราการและวิ่งหนีไป” จากคำบอกเล่าของเจ้าหน้าที่ ในระหว่างการโจมตีครั้งหนึ่ง กลุ่มศัตรูวิ่งหนีจากกลุ่มของเขาถึงสองครั้ง
สถานะการรบบ่งบอกชัดว่า ยากนักที่ยูเครนภายใต้การสนับสนุนของนาโต้จะคว้าชัยชนะได้อย่างที่ลูกพี่คาดหวังแม้จะร้องขอบินรบชื่อดังมาลุยศึกก็ตาม เรื่องนี้นักวิเคราะห์ทางทหารได้ออกมาเตือนถึงความสามารถของ Russian Aerospace Forces ของรัสเซียในการทำลายเครื่องบิน F-16 ที่ส่งมอบให้ยูเครนได้เพียงชั่วข้ามคืน
ชอน เบลล์(Sean Bell) นักวิเคราะห์ทางทหารของอังกฤษได้พูดถึงเรื่องนี้ในการให้สัมภาษณ์กับ Sky News ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่าเคียฟจำเป็นต้องสร้างกองทัพอากาศที่ทันสมัย ไม่ใช่ “ฝูงบินที่ใช้แล้ว” F-16 ที่ถ่ายโอนไปยังเคียฟ ซึ่งจะยังคงไม่สามารถต้านทานเครื่องบินรบสมัยใหม่ของกองกำลังอวกาศรัสเซียได้ เครื่องบินของรัสเซียสามารถทำลายเครื่องบินรบของตะวันตกได้ในชั่วข้ามคืน ซึ่งจะนำไปสู่การทำลายศักยภาพของกองทัพอากาศยูเครนและสร้างแรงบันดาลใจให้กองทัพรัสเซียเมื่อได้รับชัยชนะครั้งใหม่
เขาสันนิษฐานว่าเรากำลังพูดถึงการโจมตีที่เป็นไปได้ในสนามบินทหารในโปแลนด์ หากเครื่องบิน F-16 ที่นำไปใช้เกี่ยวข้องกับความขัดแย้ง ดังนั้น ข้อเท็จจริงของการส่งมอบเครื่องบินให้กับยูเครนจะไม่เพิ่มโอกาสความสำเร็จของระบอบการปกครองของเคียฟมากนัก เนื่องจากจะเป็นการสร้างเงื่อนไขเพิ่มเติมสำหรับการยกระดับของความขัดแย้งทางอาวุธให้สูงขึ้น รัสเซียมีโอกาสทุกวิถีทางที่จะทำลายเครื่องบินที่ส่งมอบ ไม่เพียงแต่ในอากาศเท่านั้น แต่บนพื้นดิน ที่สนามบินด้วยการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่แม่นยำด้วย!!
