พจนา ‘ทิศทางไทย’ ตอนที่ ๓ การเคลื่อนย้ายอำนาจไปสู่อัลกอริทึมกับผลกระทบอย่างพลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน โดย : ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย
ความสามารถที่เอไอมีและเหนือกว่ามนุษย์มากคือ ความสามารถในการเชื่อมโยงกับความสามารถในการอัพเดทข้อมูลได้อย่างฉับพลันและพร้อมเพรียงกัน (updateability)
เหตุที่เป็นเช่นนี้เพราะพวกมนุษย์มีความเป็นปัจเจกสูงทำให้ยากที่จะเชื่อมโยงเข้าด้วยกันเป็นกลุ่ม และทำให้ได้รับข้อมูลที่อัพเดทพร้อมกันยากลำบากยิ่ง
ตรงนี้ต่างกับคอมพิวเตอร์อย่างชัดเจนคอมพิวเตอร์มิได้มีข้อจำกัดเรื่องความเป็นปัจเจก(มันไม่มีความเป็นปัจเจก)และการอัพเดทข้อมูลเหมือนพวกมนุษย์ มันจึงสามารถเชื่อมโยงพวกมันเข้าด้วยกันเป็นเครือข่ายที่ยืดหยุ่นได้เพียงหนึ่งเดียว
สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้เพราะการดิสรับชันทางเศรษฐกิจจึงไม่ใช่การที่ผู้คนจำนวนนับล้านๆคนถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์เดี่ยวจำนวนนับล้านตัวและคอมพิวเตอร์เดี่ยว ๆจำนวนนับล้านเครื่อง
แต่คือการที่มนุษย์แต่ละคนจะถูกแทนที่ด้วยเครือข่ายเอไอที่ประสานเป็นหนึ่งเดียวซึ่งไม่ช้าก็เร็วความสามารถของเครือข่ายเอไอที่บูรณาการกันจะเหนือกว่าความสามารถรวมหมู่ของมนุษย์ทั้งโลก (อย่างช้าที่สุดจะเกิดสิ่งนี้ในปี 2050)
การก้าวกระโดดในพัฒนาการของเอไอเกิดขึ้นเมื่อมนุษย์สามารถคิดค้นอัลกอริทึมที่สามารถเข้าใจและควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ด้วยวิธีการในแบบของมัน
กล่าวคือเมื่อคนคิดอัลกอริทึมมิได้มองเรื่องอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์เป็นปรากฏการณ์ลี้ลับทางจิตอีกต่อไป แต่กลับลดทอนอารมณ์ความรู้สึกให้เป็นแค่ผลลัพธ์จากกระบวนชีวเคมีในร่างกายและสมองของมนุษย์เท่านั้น อัลกอริทึมจึงสามารถคำนวณประมวลและคาดการณ์พฤติกรรมของคนเราจากการเปลี่ยนแปลงอารมณ์ความรู้สึกของคนเราได้
ศาสตร์อย่างเศรษฐศาสตร์พฤติกรรมและประสาทวิทยาศาสตร์(neuroscience) ที่รุดมากในช่วงยี่สิบกว่าปีมานี้ ทำให้นักวิทยาศาสตร์เจาะลึกเข้าไปในความเป็นมนุษย์ได้ว่า”มนุษย์ตัดสินใจอย่างไร?”
ผลสรุปก็คือ การตัดสินใจของมนุษย์หาได้เกิดจาก “เจตจำนงเสรี” อันเป็นมายาคติที่พวกมนุษย์เคยหลงเชื่อกันไม่แต่มันเป็นแค่ผลจากการคำนวณความน่าจะเป็นต่างๆของเซลล์ประสาทสมองภายในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีผ่านการรู้จำเรื่องรูปแบบต่างๆเท่านั้น
เมื่อมองการตัดสินใจของมนุษย์เป็นแบบนี้แล้ว ผู้คิดค้นอัลกอริทึมจึงสามารถพัฒนาอัลกอริทึมของเอไอที่เหนือกว่ามนุษย์ได้
กล่าวคือในสายตาของผู้คิดค้นเอไอหรืออัลกอริทึม การตัดสินใจของมนุษย์เป็นแค่การใช้อัลกอริทึมทางชีวเคมีของสมองมนุษย์ที่ยังห่างไกลจากความสมบูรณ์แบบมากถ้าประเมินจากมาตรฐานการพัฒนาอัลกอริทึม ทั้งนี้เพราะการตัดสินใจของมนุษย์ใช้อัลกอริทึมทางชีวเคมีของสมองมนุษย์ที่พึ่งพิงประสบการณ์จากการแก้ปัญหาและวงจรสมองที่ล้าสมัยเป็นหลักนั่นเอง
ถ้าจะเปรียบเทียบง่ายๆให้เข้าใจก็คือหากการตัดสินใจของมนุษย์เปรียบเสมือนนกที่บินได้
การตัดสินใจของเอไอในอนาคตอันใกล้จะเปรียบเหมือนเครื่องบินที่บินได้โดยไม่ต้องพึ่งปีกขนเหมือนอย่างนก เพราะใช้อัลกอริทึมในการบิน(การตัดสินใจ)ที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ความสามารถในการตัดสินใจเป็นสิ่งที่สำคัญมากจนถึงมากที่สุดสำหรับชีวิตทั้งชีวิตของปัจเจกและชีวิตรวมหมู่ของสังคมหรือของชาวโลก
จะเห็นได้ว่านับวันอัลกอริทึมหรือเอไอจะเข้ามาช่วยตัดสินใจแทนมนุษย์มากขึ้นทุกที จนกระทั่งในที่สุดเมื่อถึงวันหนึ่งในอนาคตที่ไม่เกินสามสิบปีหลังจากนี้ อัลกอริทึมจะเข้าตัดสินใจแทนให้พวกมนุษย์ทั้งหมด โดยเฉพาะพวกผู้นำทั้งหลายจะต้องพึ่งพาอัลกอริทึมในการตัดสินใจทุกเรื่องโดยทำได้อย่างมากแค่เลือกทางเลือกต่างๆที่อัลกอริทึมคัดสรรมาให้เท่านั้น
สิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในระดับโลกในช่วงสามสิบปีหลังจากนี้คือกระบวนการถ่ายอำนาจ (power shift) จากมนุษย์ไปสู่อัลกอริทึมโดยสมบูรณ์ … นี่เป็นทิศทางโลกที่ไม่อาจต้านทานได้
การล่มสลายของเรื่องเล่าเสรีนิยมย่อมเกิดขึ้นตามมา เพราะความเชื่อหรือความศรัทธาในสิ่งที่หัวใจบอกอันเป็นคุณค่าหลักของเสรีนิยม มันเริ่มใช้การไม่ได้อีกต่อไปเมื่ออัลกอริทึมสามารถเข้าไปเจาะใจและควบคุมหัวใจของผู้คนทั้งหลายได้ผ่านอัลกอริทึมบิ๊กเดต้า
เพราะพวกคิดค้นอัลกอริทึมได้ค้นพบความจริงเรื่องจิต(อารมณ์ความรู้สึก)ในมุมมองแบบวัตถุนิยมที่ค่อนข้างใกล้เคียงกับการค้นพบของพระพุทธองค์ในเรื่องความจริงปรมัตถ์(อภิธรรม)ที่เป็นมุมมองแบบจิตนิยมว่า
“ความรู้สึกก็เป็นการคำนวณแต่เป็นกระบวนการการคำนวณที่เกิดขึ้นเร็วมากๆจนเกินกว่าที่คนเราจะตระหนักรู้ได้”
สิ่งที่พวกมนุษย์จะสูญเสียไปเมื่อการถ่ายอำนาจไปสู่อัลกอริทึมดำเนินไปจนเสร็จสมบูรณ์มีดังต่อไปนี้
(1) สูญเสียความสามารถในการตัดสินใจด้วยตนเอง
(เพราะทุกคนหันไปพึ่งอัลกอริทึมในการค้นหาทุกเรื่องแทนอย่างกูเกิล)
(2) สูญเสียงาน (ถูกแทนที่ด้วยเอไอและระบบอัตโนมัติ)
(3) สูญเสียคน (กลายเป็นสวะทางเศรษฐกิจหรือคนที่ไร้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจ)
(4) สูญเสียความเป็นมนุษย์
ผมจะบอกอะไรให้อันเป็นความจริงที่น่าตระหนกยิ่ง
ในอีกสามสิบปีข้างหน้า เราไม่มีทางปกป้องงาน ปกป้องคน ปกป้องความสามารถในการตัดสินใจด้วยตนเองจากอัลกอริทึมได้เลย
สิ่งที่คนเราสามารถปกป้องได้มีเพียงอย่างเดียวเท่านั้นและสามารถทำได้ตั้งแต่บัดนี้คือการปกป้องความเป็นมนุษย์ของคนเราจากกระบวนการถ่ายอำนาจไปสู่อัลกอริทึมที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้เท่านั้น
เราจะปกป้องความเป็นมนุษย์ของเราได้อย่างไรในยุคอัลกอริทึมหรือเอไอเป็นใหญ่อย่างในยุคปัจจุบันที่เพิ่งเริ่มต้น นี่คือโจทย์ที่สำคัญยิ่งของสถาบันทิศทางไทย