จากที่กองทัพรัสเซียได้โจมตีคลังอาวุธ โดยปรากฏถึงกระสุนยูเรเนียม ทำให้เกิดรังสีฟุ้งกระจายไปยังยุโรป ท่ามกลางความเคลื่อนไหวของจีนที่เป็นตัวกลางเจรจาเพื่อยุติศึก ขณะที่สหรัฐและชาติตะวันตกก็ดูเหมือนไม่ต้องการให้การสู้รบจบลง???
ทั้งนี้มีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเมื่อวันที่ 14 มิถุนายน 2566 โดย Blockdit World Update ได้โพสต์ข้อความเผยแพร่ถึงท่าทีของผู้นำรัสเซียล่าสุดว่า
“กลางเดือนพฤษภาคม 2566 ที่ผ่านมา กองทัพรัสเซีย ยิงขีปนาวุธถล่มคลังแสงอาวุธในเมือง Khmelnitsky ใกล้ชายแดนโรมาเนีย มูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ (16,935 ล้านบาท) เกิดการระเบิดที่รุนแรงน้องๆ ระเบิดนิวเคลียร์
กระสุนยูเรเนียมที่มีรังสีนิวเคลียร์ ขีปนาวุธ Storm Shadow ที่ส่งมาจากอังกฤษ ได้ระเบิด และถูกทำลายไปด้วย เกิดฝุ่นรังสียูเรเนียม ค่ารังสียูเรเนียมนิวเคลียร์ สูงเกินกว่าปกติ 5 เท่า ฟุ้งกระจายไปถึงโรมาเนีย และชาติต่างๆ ยุโรปตะวันตกไกลถึงอังกฤษ สเปน
สื่อ Wall Street Journal สหรัฐ รายงานว่า รัฐบาลโจ ไบเดน และกลาโหม ได้หารือกันที่จะทำให้สงครามบานปลายมากยิ่งขึ้น โดยให้กู้ยืมรถถังเทพ Abrams พร้อมกระสุนยูเรเนียมนิวเคลียร์เสื่อมสภาพ ที่มีสารกัมมันตรังสี ที่มักใช้กับรถถัง
ส่งของให้กับกองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรในยูเครน ทำสงครามกับฝ่ายรัสเซีย แต่เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวหลายคนกลัวว่าการกระสุนยูเรเนียมเหล่านี้จะทำให้สหรัฐ ถูกชาวโลกตำหนิ เพราะเป็นอันตรายต่อสุขภาพของมนุษย์โรคมะเร็งและสิ่งแวดล้อมมลพิษในดิน
ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประชุมกับผู้สื่อข่าวสงคราม เขาเผยว่าจะสร้าง เขตปลอดทหาร (รัฐกันชน) ในดินแดนของยูเครน เพื่อรักษาความปลอดภัยให้กับรัสเซีย โดยจะเริ่มขึ้นในเร็วๆ นี้ แต่เขายังไม่ได้บอกเส้นเขตแดนใหม่
ขณะนี้ได้ลงนามกฤษฎีกาอภัยโทษกับผู้เคยมีคดีค้างเก่า ที่จะเข้าร่วมกับกองทัพแล้ว การที่ฝ่ายตรงข้ามทำลายเขื่อนโรงไฟฟ้าพลังน้ำคาคอฟสกายา เป็นการขัดขวางการบุกของพวกเขาเอง
ฝ่ายกองทัพสัมพันธมิตร สูญเสียและบาดเจ็บอย่างมากมาย พวกเขากำลังเข้าใกล้หายนะ แค่สัปดาห์เดียวสูญเสียรถถังมากกว่า 160 คัน รถหุ้มเกราะมากกว่า 360 คัน คิดเป็นราว 30% ของอาวุธที่ชาติตะวันตกส่งมาให้บุกรัสเซียครั้งใหญ่
ทั้งรถถัง Leopard และยานเกราะ Bradley ถูกเผาไหม้ในสนามอย่างสวยงาม กองทัพฝ่ายสัมพันธมิตรใช้ลูกปืนใหญ่ 155 มม. ราว 15,000 นัดต่อวัน สหรัฐ ผลิตกระสุนน้อยกว่าที่ใช้มาก เหลือเพียงเกาหลีใต้ และอิสราเอล เท่านั้นที่ยังคงอยู่ แต่นั่นก็จะยุติลงในไม่ช้า แทนที่ชาติตะวันตดจะแก้ปัญหาสังคมในชาติพวกเขา กลับมุ่งไปที่ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ พวกเขาได้นำอาวุธทั้งหมดออกจากคลังแสงตนเองมาทำสงครามในยูเครน
รัสเซียไม่เคยปฏิเสธการเจรจาที่นำไปสู่สันติภาพ ที่ผ่านมาพยายามยุติความขัดแย้งทางอาวุธ แต่ก็ถูกบังคับให้ทำต่อ หากพวกเขาต้องการให้ความขัดแย้งยุติลง จะต้องหยุดส่งอาวุธไปทำสงครามกับรัสเซีย ในสมรภูมิยูเครน
มีคนจำนวนมากในสหรัฐ ที่ไม่ต้องการสงครามโลกครั้งที่ 3 แต่ถ้าตะวันตกยังส่งอาวุธต่อจะขยายเป็นสงครามโลกครั้งต่อไปจะไม่มีผู้ชนะ รัสเซียมีกระสุนยูเรเนียมนิวเคลียร์จำนวนมาก หากจำเป็นเราจะใช้มันเพื่อตอบโต้โจมตีก่อน
เขตอุตสาหกรรมมอสโก ได้พัฒนาระบบป้องกันขีปนาวุธอวกาศแบบมัลติฟังก์ชั่น Nudol A-235 สำเร็จแล้ว สามารถสกัดขีปนาวุธ และดาวเทียมในอวกาศของฝ่ายตรงข้าม หรือติดหัวรบนิวเคลียร์ก็ได้
ล่าสุดประธานาธิบดี Lukashenko ผู้นำเบรารุส คู่หูปูติน และคู่อริยุโรป ยืนยันว่าถ้ามีภัยคุกคามต่อชาติ เขาจะไม่ลังเลที่จะสั่งยิงอาวุธนิวเคลียร์ใส่ฝ่ายตรงข้าม ซึ่งจะมีระยะรัศมีทำลายทวีปยุโรปส่วนใหญ่
วิเคราะห์ว่า เขตปลอดทหารของรัสเซีย จะตรงกับที่จีนเสนอ คือ ฝั่งขวาแม่น้ำดนีเปอร์จากเหนือจรดใต้ กินอาณาเขตยูเครนราว 50% และคาดว่าจะยาวไปถึงแคว้นนิโคลาเยฟ โอเดสซา จรดมอลโดวา และทรานนิสเตรีย
ส่วนกระสุนยูเรเนียมนิวเคลียร์นั้นเมื่อส่งมาถึง รัสเซีย ก็โจมตีถล่มคลังอาวุธทิ้งให้ฝุ่นกัมมันภาพรังสีฟุ้งเข้าปกคลุมทั่วทวีปยุโรปเหมือนคราวก่อน แต่หัวรบนิวเคลียร์ในเบลารุสนี่แหละ ผู้นำเขานักเลงโบราณและมีเรื่องเคืองแค้นฝังหุ่นกับยุโรป ถ้าเขารู้สึกว่าถูกคุกคาม เขาชิงมือลั่นก่อนแน่นอน
Cr.https://www.blockdit.com/world.update
Cr.https://www.facebook.com/profile.php?id=100077775671454