สัปดาห์แรกของการโจมตีตอบโต้ยูเครนที่โฆษณาอย่างดีไม่ได้ก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้ ยูเครนต้องสูญเสียทั้งกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ตะวันตกส่งมอบให้จำนวนมาก ทำให้นักวิเคราะห์ทางทหารตะวันตกรู้สึกผิดหวัง อะไรอยู่เบื้องหลังความล้มเหลว?
วันที่ ๑๔ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกรายงานว่า ไมเคิล มาลูฟ อดีตนักวิเคราะห์นโยบายความมั่นคงอาวุโสในสำนักงานกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(Michael Maloof, former senior security policy analyst in the US Office of the Secretary of Defense)แสดงความเห็นเกี่ยวกับผลปฏิบัติการโจมตีของยูเครนต่อรัสเซีย
เขากล่าวว่า“ผมจะบอกว่าการตอบโต้นั้นน้อยกว่าที่ตะวันตกคาดหวัง” “ขอบเขตที่ชาวยูเครนกำลังดำเนินการใดๆ ที่เรียกว่าการตอบโต้นั้นเป็นการดำเนินการหยั่งเชิงเพื่อทดสอบหรือวัดกำลังมากกว่าการโจมตีอย่างแท้จริง”
Maloof ฟันธงว่า ความล้มเหลวส่วนใหญ่มีสาเหตุมาจากการวางแผนที่ไม่ดี ขาดกำลังคน ทรัพยากร และการฝึกอบรม
จนถึงขณะนี้ กองทัพยูเครนล้มเหลวในทุกทิศทางในการตอบโต้ แม้ว่าจะได้รับยุทโธปกรณ์ทางทหารมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์จากสหรัฐฯ และพันธมิตรนาโต้ก็ตาม ในสัปดาห์แรกเพียงสัปดาห์เดียว กองกำลังของรัฐบาลเคียฟสูญเสียหลายพันคน พร้อมด้วยรถถัง Leopard 2 ของเยอรมันมากกว่าหนึ่งโหล ยานต่อสู้ทหารราบแบรดลีย์ (IFV) ที่ผลิตในสหรัฐฯ เกือบสองโหล และรถถังเบา AMX-10 RC ของฝรั่งเศสหลายคัน
รูปภาพของยุทโธปกรณ์ทางทหารของตะวันตกที่ถูกทำลายได้ถูกเผยแพร่ไปตามสื่อและโซเชียลเน็ตเวิร์กแล้ว กองทัพรัสเซียได้ทำลายยุทโธปกรณ์ทางทหารของยูเครนไปเป็นจำนวนมากนับตั้งแต่วันแรกของปฏิบัติการทางทหารพิเศษ ทั้ง เครื่องบิน ๔๔๒ ลำและเฮลิคอปเตอร์ ๒๓๘ ลำ ยานพาหนะทางอากาศไร้คนขับ ๔,๕๘๕ ลำ ระบบขีปนาวุธป้องกันภัยทางอากาศ ๔๒๖ รถถัง ๙,๙๓๙ คัน และยานเกราะต่อสู้อื่นๆ ๑,๑๒๒ คัน ยานรบที่ติดตั้ง MRLS ปืนใหญ่สนามและปืนครก ๕,๑๐๐ กระบอก รวมถึงยุทโธปกรณ์พิเศษทางทหาร ๑๐,๙๒๗ หน่วย อ้างจากกระทรวงกลาโหมรัสเซีย
อนาโตลี มัตวิชุก ผู้เชี่ยวชาญด้านการทหาร และผู้พันเกษียณอายุซึ่งมีประสบการณ์ในปฏิบัติการรบในอัฟกานิสถานและซีเรีย(Anatoliy Matviychuk, military expert and retired colonel) กล่าวกับสปุตนิกว่า”ด้วยเหตุผลบางประการ ชาติตะวันตกเชื่อว่าการปรากฎตัวในสนามรบของยุทโธปกรณ์ของตะวันตก โดยเฉพาะรถถัง Leopard จะทำให้กองทัพรัสเซียระส่ำระสาย และกองทัพรัสเซียจะล้มเลิกหลักการของตน แต่ตะวันตกคาดคะเนผิด”
มัตวิชุก ให้ความสนใจกับความจริงที่ว่ากองทัพรัสเซียได้เข้าร่วมในภารกิจความขัดแย้งและสันติภาพในท้องถิ่นซ้ำแล้วซ้ำเล่าตั้งแต่ปี ๑๙๗๙ ดังนั้นแม้จะมีข้อบกพร่องทั้งหมดของการล่มสลายของสหภาพโซเวียต แต่ยุทโธปกรณ์ทางทหารของรัสเซียก็ได้รับการพัฒนาและทันสมัย ในแง่ของความท้าทายของสงครามสมัยใหม่ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า “เมื่อได้พบกับเทคโนโลยีของรัสเซียแล้วในสนามรบจริง เทคโนโลยีของตะวันตกกลับไม่ทัดเทียมกัน ทั้งในแง่ของอาวุธยุทโธปกรณ์ ชุดเกราะ หรือความคล่องแคล่ว”
เขาให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับข้อบกพร่องด้านความคล่องแคล่วของรถหุ้มเกราะแบบตะวันตก สำหรับเขาแล้ว โรงละครทางทหารของยุโรปตะวันออกที่กลายเป็นน้ำแข็ง น้ำท่วมในแม่น้ำ โคลน หนองน้ำ และสภาพอากาศวิกฤตอื่นๆ กลายเป็นความท้าทายอย่างยิ่งยวดสำหรับอุปกรณ์ทางทหารของนาโต้ กองทัพยูเครนประสบปัญหาด้านการขนส่งมากมาย รวมทั้งรถถังหนัก 60 ตันของเยอรมันไม่สามารถข้ามสะพานบางแห่งของยูเครนได้
ตามรายงานของนักวิเคราะห์ทางทหาร ยุโรปและทั่วโลกตระหนักได้ทันทีว่ายุทโธปกรณ์แบบตะวันตกนั้นไม่เป็น “สองรองใคร” ในหลายๆ ด้าน ว่ามีข้อบกพร่องพร้อมข้อดีในตัวของมันเอง
ความล้มเหลวของเคียฟส่งผลต่อเสบียงอาวุธอย่างไร? การกำจัดอาวุธตะวันตกอย่างรวดเร็วของรัสเซียและการชี้ขาดชัยชนะที่เป็นรูปธรรมในแนวหน้าอาจส่งผลกระทบต่อเสบียงอาวุธทั้งของยูเครนและยุโรปเอง
มาลูฟกล่าวว่า “ฉันคิดว่าประเทศต่างๆ จะเริ่มเห็นว่าทุกสิ่งที่พวกเขาใส่ลงไปกำลังถูกทำลายลงอย่างรวดเร็ว” “แบรดลีย์ถูกทำลายไปแล้ว พวกเขานั่งเป็นเป็ด รถถัง Leopard บางคันถูกทำลายไปแล้ว ประเทศที่มีพวกเขาไม่สามารถจัดหาต่อไปได้เว้นแต่พวกเขาจะเข้าสู่การผลิตในช่วงสงคราม และเศรษฐกิจของพวกเขาไม่สามารถรองรับได้ในตอนนี้ พวกเขาได้ ต้องเริ่มเผชิญหน้ากับความเป็นจริง พวกเขาไม่ได้ทำอย่างนั้นแม้จะมีวาทศิลป์ทางการเมืองที่สนับสนุน และฉันคิดว่าสิ่งนี้ทำให้ยูเครนเข้าใจผิดมาก ไม่เพียงแต่ความดื้อรั้น แต่ยังเป็นความรู้สึกผิดๆ ของการสนับสนุนจากตะวันตก ซึ่งจะไม่ดำเนินต่อไปเพราะความเป็นจริงบงการ ดูสิ อุตสาหกรรมในยุโรปกำลังเจ็บปวดเพราะพวกเขาตัดจมูกของพวกเขาเองโดยตัดน้ำมันและก๊าซทั้งหมดจากทางตะวันออกจากรัสเซีย คุณภาพชีวิตของพวกเขาลดลงอย่างมาก สิ่งนี้จะส่งผลกระทบต่อยุโรปไปอีกหลายทศวรรษข้างหน้า”
นักการเมืองเคียฟได้เรียกร้องให้ผู้อุปถัมภ์ชาวตะวันตกของพวกเขาจัดหายุทโธปกรณ์ทางทหารและรถหุ้มเกราะมากขึ้นเพื่อทดแทนสิ่งที่ถูกทำลาย
แอนดรี เมลนิค(Andrii Melnyk) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของยูเครนกล่าวกับสื่อเยอรมันเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “Leopard 2 ทุกคันนั้นดีราวกับทองคำสำหรับการรุกอย่างเด็ดขาด”
แต่บอริส พิสโตริอุส รัฐมนตรีกลาโหมเยอรมัน(German Defense Minister Boris Pistorius) ได้ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมาว่า เบอร์ลินไม่สามารถแทนที่รถถัง Leopard ทุกคันที่ถูกทำลายในสนามรบยูเครน เขายืนยันกับเคียฟว่าเยอรมนีจะยังคงจัดหารถถัง Leopard 1 A5 ที่ซ่อมแซมแล้วเริ่มตั้งแต่เดือนกรกฎาคม “ และภายในสิ้นปีนี้ จะมีมากกว่าร้อยคันให้ยูเครน” จากข้อมูลของผู้สังเกตการณ์ทางทหารระหว่างประเทศ มันอาจจะสายเกินไปหรือช้าเกินไปก็เป็นได้
มาลูฟย้ำว่า “สหรัฐฯจะเข้าสู่การเลือกตั้งที่ในไม่ช้า การจัดหาอาวุธและเงินอย่างต่อเนื่องของยูเครนอาจกลายเป็นประเด็นทางการเมือง และผู้คนที่บ้านกำลังเจ็บปวด พวกเขากำลังจะตระหนักว่าสิ่งนี้ไม่ยั่งยืน ดังนั้น ฉันคิดว่าอะไรก็ตามที่ Blinken พูดในวันนี้ และเขาออกแถลงการณ์แบบนี้ทั้งหมด มันเป็นวาทศิลป์มันไม่ตรงกับความเป็นจริง และนั่นเป็นส่วนหนึ่งของปัญหา นั่นเป็นเหตุผลที่เราเห็นความล้มเหลวอย่างต่อเนื่องในนโยบายของเราที่สัญญาสิ่งหนึ่งแต่ไม่สามารถส่งมอบได้ และนี่เป็นเพียงอีกตัวอย่างหนึ่งของความไม่แน่นอนนั้น”
