ดุลอำนาของสหรัฐฯในโลกอาหรับผันเปลี่ยนอย่างยากที่จะหวนคืน เมื่องซาอุดีอาระเบียได้นำกลุ่มอ่าวอาหรับหันไปซบรัสเซีย จีนและฟื้นสัมพันธ์อิหร่านอีกครั้ง แม้สหรัฐฯจะพยายามเกลี้ยกล่อมก็ไม่สำเร็จ ล่าสุดเหมือนตบหน้าเมกาฉาดใหญ่ นอกจากจะไม่เลิกคบจีนแล้ว ยิ่งร่วมผลประโยชน์มากขึ้นอีกด้วย มีรายงานข่าวว่า ก่อนบลิงเคนเดินทางมาถึงริยาด เจ้าชายบิน ซัลมานได้ยกหูคุยกับปธน.ปูตินด้วยในเรื่องสถานการณ์ในตะวันออกกลางโดยเฉพาะปัญหาซีเรีย
วันที่ ๑๒ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและอัลอะราบิญารายงานว่า จีนและกลุ่มประเทศอาหรับลงนามข้อตกลง ๓๐ ฉบับมูลค่าเกือบ ๑ หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
วันแรกของการประชุมธุรกิจอาหรับ-จีนครั้งที่ ๑๐ ในซาอุดีอาระเบียสิ้นสุดลงด้วยการลงนามข้อตกลงการลงทุน 30 ฉบับ มูลค่า ๓๗.๕พันล้านริยาลของซาอุดีอาระเบีย หรือ ๙.๙ พันล้านดอลลาร์ สำนักข่าว Saudi Press Agency (SPA) ของรัฐรายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามข้อตกลงในด้านเทคโนโลยี พลังงานทดแทน การเกษตร อสังหาริมทรัพย์ แร่ธาตุ โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว และการดูแลสุขภาพ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง บริษัท ของซาอุดีอาระเบียและจีนได้แก่ Amar Al-Oula และ Zhonghuan International Group (ฮ่องกง) ตามลำดับ ได้ลงนามในข้อตกลงมูลค่า ๕๓๓ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อจัดตั้งโรงงานแปรรูปแร่เหล็กและผลิตเม็ดเหล็กสำหรับโรงหลอมในซาอุดีอาระเบีย นอกจากนี้ ASK Group และ China National Geological and Mining Corporation ยังได้ทำข้อตกลงมูลค่า ๕๐๐ ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อพัฒนา สร้างและดำเนินโครงการเหมืองทองแดงในภูมิภาคคาบสมุทรอาระเบียอีกด้วย
กระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบียและบริษัท Human Horizons ของจีน ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเทคโนโลยีไร้คนขับและการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าภายใต้แบรนด์ HiPhi ได้ลงนามข้อตกลงมูลค่า ๒๑,๐๐๐ ล้านริยาลของซาอุดีอาระเบีย เพื่อจัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อการวิจัยในการพัฒนา รายงานระบุว่าการผลิตและการขายรถยนต์
การประชุมดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความสัมพันธ์ทางการค้าและการทูตที่เพิ่มมากขึ้นระหว่างปักกิ่งและประเทศในตะวันออกกลาง รวมถึงการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างจีนกับอิหร่านและซาอุดีอาระเบียที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความสัมพันธ์ระดับภูมิภาค สร้างดุลกำลังคานอำนาจสหรัฐฯ
อาณาจักรที่อุดมด้วยน้ำมันกำลังเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ ๑๐ เป็นครั้งแรก กระทรวงการลงทุนของซาอุดีอาระเบียระบุในถ้อยแถลงในช่วงสองวันว่า มีเจ้าหน้าที่ภาครัฐและภาคธุรกิจกว่า ๓,๕๐๐ คนจากจีนและกลุ่มประเทศอาหรับมารวมตัวกัน
ในการเปิดตัวการประชุม เจ้าชายไฟซาล บิน ฟาร์ฮาน รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบียได้เน้นย้ำถึงศักยภาพของความสัมพันธ์ทางการค้าและเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นระหว่างจีนและประเทศอาหรับ
เขากล่าวย้ำว่า “การประชุมครั้งนี้ เป็นโอกาสในการสร้างอนาคตร่วมกันสู่ยุคใหม่ที่เป็นประโยชน์สำหรับประชาชนของเรา”
เมื่อเดือนธันวาคมปีที่ผ่านมา สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีนเดินทางเยือนซาอุดิอาระเบีย ซึ่งเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดของโลก กระตุ้นให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์จากสหรัฐฯ ซึ่งเป็นพันธมิตรเก่าแก่ของริยาด
เมื่อถูกถามเกี่ยวกับการวิจารณ์ของสหรัฐฯ เจ้าชายอับดุลอาซิซ บิน ซัลมาน รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของซาอุดีอาระเบียกล่าวว่า “ผมเพิกเฉยต่อเรื่องนี้” เขาเสริมว่านักธุรกิจ “จะเดินไปข้างหน้าเมื่อโอกาสมาถึงคุณ”
การประชุมครั้งนั้นก่อผลสะเทือนเลื่อนลั่นต่ออนาคตของเปโตรดอลลาร์อย่างที่สหรัฐฯไม่ทันคาดคิดมาก่อน เมื่อประเทศกลุ่มอ่าวต่างตกลงใช้เงินหยวนของจีนในการซื้อขายพลังงานเป็นครั้งแรก บ่งบอกจุดจบของเปโตรดอลลาร์ได้เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
เมื่อสัปดาห์ที่แล่ว รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคนได้เดินทางมาเยือนและได้พบกับเจ้าชายบิน ซัลมานอีกครั้ง มาพร้อมกับคำพูดฝากของไบเดนขอให้ซาอุดีอาระเบียออกห่างจากรัสเซียและจีน ผลคือคำปฎิเสธอย่างมั่นคง หลังบลิงเคนกลับไป ซาอุดีอาระเบียก็ลงนามกระชับสัมพันธ์ทางการค้ากับจีน เสมือนตบหน้าสหรัฐฯฉาดใหญ่ ก่อนหน้านี้ซาอุดีอาระเบียก็กำลังเดินเรื่องเข้าร่วมกับธนาคารของกลุ่มบริกส์ BRICS Development Bank ที่กำลังเดินหน้าสร้างเงินสกุลร่วมเพื่อหลีกหนีอิทธิพลผูกขาดของดอลลาร์อย่างมีนัยสำคัญ
ศ. ไมเคิล ฮัดสัน นักเศรษฐศาสตร์สหรัฐและอดีตนักวิเคราะห์วอลล์สตรีท (Prof. Michael Hudson, a US economist and former Wall Street analystกล่าวว่า การสร้างทางเลือกแทนเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นวิธีเดียวที่จะป้องกันโลกจากการใช้กำลังทางทหารที่นำโดยวอชิงตัน แนวโน้ม การลดค่าเงินดอลลาร์กำลังได้รับแรงผลักดัน ดูเหมือนจะไม่มีทางกลับ) สหรัฐฯ แสดงให้ทุกคนในโลกเห็นว่าเงินดอลลาร์ไม่ปลอดภัยอีกต่อไป เพราะเงินดอลลาร์กลายเป็นสกุลเงินที่เป็นเครื่องมือทางการเมืองของมหาอำนาจเดี่ยวที่มีสหรัฐฯเป็นแกนนำ การขับเคลื่อนของประเทศกลุ่มอ่าวที่มุ่งหน้ากระชับสัมพันธ์กับโลกขั้วใหม่ทั้งรัสเซีย-จีน และอิหร่าน ตอกย้ำเส้นทางที่โลกอาหรับเลือก จับตาสหรัฐฯจะเดินหมากแก้สถานการณ์นี้อย่างไร ขณะที่เครื่องหลังในสงครามตัวเครนยังพัวพัน และแนวรบใหม่ในเอเชีย-แปซิฟิกได้เริ่มขึ้น!?