ซาอุดีอาระเบียปฏิเสธคำขอของสหรัฐฯ ที่จะแยกออกจากจีนและรัสเซีย สื่อมะกันพากันรายงานเกี่ยวกับการเยือนซาอุดีอาระเบียของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ นายแอนโธนี บลินเกน โดยได้ระบุคำขอของรัฐบาลโจ ไบเดน ถึงกลุ่มประเทศอาหรับให้ออกห่างจากจีนและรัสเซีย แต่ซาอุดีอาระเบียได้ตอบปฎิเสธคำข้อร้องดังกล่าวของปธน.สหรัฐฯ มิหนำซ้ำประชุมเสร็จออกแถลงการณ์ยังยินดีเรื่อง
อิหร่านคืนดีซาอุดีอาระเบียอีก เรียกว่ารมว.ต่างประเทศเมกาหน้าแตกกลับบ้าน เพราะก่อนหน้านี้ไปประชุมกับกลุ่มล็อบบี้ยิสต์ชาวยิวที่ทรงอิทธิพลในอเมริกาสัญญาจะกล่อมซาอุฯกระชับสัมพันธ์กับอิสราเอล ออกห่างอิหร่านด้วย เรื่องนี้ก็แห้ว
วันที่ ๙ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวทาซนิมนิวส์และฟาร์นิวส์ของอิหร่านรายงานว่าแถลงการณ์สุดท้ายของการประชุมริยาด ร่วมยินดีกับข้อตกลงและการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างอิหร่านและซาอุดิอาระเบีย โดยมีรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯร่วมเป็นสักขีพยาน
รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกสภาความร่วมมืออ่าวเปอร์เซียและรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐ ในแถลงการณ์สุดท้ายของการประชุมริยาด ได้แสดงความยินดีกับการตัดสินใจของอิหร่านและซาอุดิอาระเบียในการสานสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ
อ้างอิงจากอัลจาซีรา แถลงการณ์กล่าวว่า เราเน้นย้ำถึงความสำคัญของความพยายามร่วมกันในทางปฏิบัติเพื่อลดความตึงเครียดในภูมิภาค และยินดีกับการตัดสินใจของซาอุดิอาระเบียและอิหร่านที่จะกลับมาสานสัมพันธ์ทางการทูตอีกครั้ง
เนื้อหาบางส่วนมีข้อความระบุว่: “เราขอประกาศการสนับสนุนสนธิสัญญาไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์ และขอเรียกร้องอีกครั้งให้อิหร่านร่วมมืออย่างเต็มที่กับสำนักงานพลังงานปรมาณู”
รัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกสภาความร่วมมือและสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเกี่ยวกับซีเรียเช่นกันว่า “เรามุ่งมั่นที่จะบรรลุผลสำเร็จในการแก้ปัญหาทางการเมืองในวิกฤตซีเรียด้วยวิธีที่จะรักษาเอกภาพและอำนาจอธิปไตยของประเทศนี้ และไม่แทรกแซงกิจการภายใน”
เกี่ยวกับซูดาน คำแถลงนี้เน้นย้ำว่าการแก้ปัญหาทางทหารจะไม่ยุติความขัดแย้งในซูดาน ในความต่อเนื่องของแถลงการณ์นี้ มีข้อความว่า “เราสนับสนุนอำนาจอธิปไตย เอกราช เอกภาพ และสุขภาพของดินแดนเยเมน”
ในการประชุมครั้งนี้ มีการหารือเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างทั้งสองฝ่ายในด้านการเมือง เศรษฐกิจ และการค้าต่างๆ นอกเหนือจากสถานการณ์ทางการเมืองในภูมิภาคและประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่มีความสำคัญร่วมกัน
เมื่อวานนี้ในระหว่างการประชุม Blinken กล่าวว่าอเมริกายังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นพันธมิตรในภูมิภาคนี้อยู่ในภูมิภาคนี้เพื่อบอกว่าเป็นพันธมิตรกับพวกเขา
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐกล่าวถึงวิกฤตเยเมนว่าประเทศของเขากำลังดำเนินการเพื่อหาทางออกของความขัดแย้งในเยเมนเพื่อความมั่นคงของภูมิภาค
เกี่ยวกับซีเรีย เขายังกล่าวว่าอเมริกาให้ความสำคัญกับการสร้างทางออกทางการเมืองในซีเรียเพื่อรักษาบูรณภาพและอำนาจอธิปไตยของซีเรีย และตอบสนองต่อแรงบันดาลใจของประเทศซีเรีย ช่างกล้าพูดทั้งๆที่กองทหารสหรัฐฯยังฝังตัวดูดน้ำมันซีเรียแบบหน้าตาเฉย ทำไมซาอุดีอาระเบียจะไม่รู้
ก่อนหน้าเดินทางเยือนริยาด เมื่อวันที่ ๖ มิ.ย.ที่ผ่านมาแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกล่าวต่อที่ประชุม “ไอแพค” AIPAC ซึ่งเป็นองค์กรล็อบบี้ยิสต์ชาวยิวขนาดใหญ่ของสหรัฐ ระบุว่า การส่งเสริมเพื่อให้เกิดการสถาปนาความสัมพันธ์ “ระดับปกติ” หรืออย่างเป็นทางการ ระหว่างอิสราเอลกับซาอุดีอาระเบีย ถือเป็นผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของสหรัฐอย่างแท้จริง
ขณะเดียวกัน บลิงเคน แสดงความหวังว่า รัฐบาลวอชิงตัน “จะมีบทบาทสำคัญ” ในเรื่องนี้ เพื่อให้การสถาปนาความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ เกิดขึ้น “เร็วที่สุดหรือง่ายที่สุด”
แม้สหรัฐฯและซาอุดีอาระเบียต่างฝ่ายต่างยังคงยืนยันว่า ให้ความสำคัญต่อกันในฐานะหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ แต่ความสัมพันธ์ระหว่างทั่งสองประเทศตึงเครียดมากขึ้น ภายในระยะเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมา เริ่มจากการโฆษณาใส่ร้ายเจ้าชายซัลมานฯว่าสั่งสังหารโหดจามาล คาช็อกกี ผู้สื่อข่าวโปรฯอเมริกาฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลริยาด ภายในสถานกงสุลใหญ่ซาอุดีอาระเบีย ที่เมืองอิสตันบูลของตุรกี
หลังจากนั้น ซาอุดีอาระเบียเปิดรับการเข้ามาของรัสเซียและจีนในตะวันออกกลางเพิ่มขี้น และมีการยกระดับความร่วมมือระหว่างกันในหลายด้าน โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับพลังงาน ที่สำคัญรัฐบาลปักกิ่งเป็นคนกลาง ให้ซาอุดีอาระเบียกับอิหร่านกลับมาฟื้นฟูความสัมพันธ์ และการที่รัฐบาลริยาดมีบทบาทหลักให้สันนิบาตอาหรับรับซีเรียกลับเข้าเป็นสมาชิก เรียกว่าสวนทางผลประโยชน์ของสหรัฐฯอย่างเข้มข้น แม้แต่การเดินทางของรมว.ต่างประเทศสหรัฐฯครั้งนี้ก็ยังกลับบ้านมือเปล่าเหมือนไบเดน บ่งบอกจุดยืนที่มั่นคงของซาอุดีอาระเบียว่าวันนี้เลือกโลกหลายขั้วแล้ว แม้จะไม่ได้ตัดรอนสหรัฐฯอย่างเด็ดขาดก็ตาม!!