แนวรบเหนือท้องฟ้าในสงครามยูเครน รัสเซียคุมเบ็ดเสร็จและถือเป็นพื้นที่ของรัสเซียที่นาโต้จะละเมิดมิได้ ใครแหลมเข้ามาจะถูกสอย กลาโหมรัสเซียได้เปิดภาพการปฏิบัติงานในสนามรบของเครื่องบินรบตัวตึงที่นับเป็นคู่แข่งโดยตรงกับตระกูล ‘F’ ของสหรัฐฯ มีการเผยแพร่แสดงภาพการทำลายเครื่องบินทหารยูเครนโดยเครื่องบินรบ Su-35 ของรัสเซีย พร้อมๆกับการโจมตีเคียฟและเมืองชั้นในของยูเครนอย่างต่อเนื่อง
ส่วนในด้านมหาสมุทร ลอร์ดออฟดิอาร์กติก(Lords of the Arctic) เป็นสมญานามที่สื่อสปุ๊ตนิกมอบให้กับกองเรือ Russian Northern Fleet และเปิดเผยศักยภาพที่เริ่มต้นจากการเป็นกองเรือที่ค่อนข้างเล็กซึ่งปกป้องพรมแดนอาร์กติกของประเทศตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต จนมาถึงสมัยของปูตินกองเรือฟลีตของรัสเซียทั้งทางเหนือของอาร์กติด ทะเลบอลติกและอื่นๆอีกได้เติบโตเป็นกองทัพเรือที่แข็งแกร่งทรงพลังในย่านนี้ ไม่ใช่มีแค่เรือรบ แต่มีฝูงบินรบ และเรือดำน้ำล่องหน ที่ทำให้สหรัฐฯนั่งไม่ติด ล่าสุดรีบไปเปิดศูนย์พัฒนาที่นอร์เวย์อ้างจะไปศึกษาภูมิอากาศ แต่แล่นเรือพิฆาตไปอวดศักดา ส่อแววเผชิญหน้าเพราะพื้นที่ที่รัสเซียมีอิทธิพลอยู่นี้ไม่ใช่แค่เส้นทางเดินเรือ แต่เป็นเส้นทางขนส่งพลังงานสำคัญที่เมกาหมายปอง
วันที่ ๔ มิ.ย.๒๕๖๖ สำนักข่าวสปุ๊ตนิกและมิลิทารี่วอชรายงานว่า กระทรวงกลาโหมของสหพันธรัฐรัสเซีย แสดงภาพการทำลายเครื่องบินทหารยูเครนโดยเครื่องบินรบ Su-35 ของกองกำลังอวกาศรัสเซียในระหว่างการสู้รบ
ภาพวิดีโอจากกองทัพรัสเซียที่แสดงบนโซเชียลมีเดียแสดงให้เห็นเครื่องบินรบ Su-35 กำลังเติมเชื้อเพลิง มีการแสดงการบรรจุกระสุนของเครื่องบินด้วย จากนั้นเครื่องบินรบก็บินขึ้น ภาพต่อมาจากห้องนักบินของเครื่องบินรบก็ปรากฏขึ้น โดยแสดงให้เห็นนักบินของมัน
เครื่องบินรบตรวจพบเป้าหมาย ยิงขีปนาวุธ ภาพต่อไปนี้แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินกลับสู่สนามบินในตอนกลางคืนอย่างไร
ลูกเรือของเครื่องบินรบอเนกประสงค์ Su-35 ปฏิบัติงานลาดตระเวนในบางพื้นที่ในเขตปฏิบัติการพิเศษทางทหาร พวกเขาครอบคลุมภารกิจทิ้งระเบิดและโจมตีบินรบของศัตรู
ระหว่างการก่อกวนครั้งหนึ่ง เครื่องบินข้าศึกถูกตรวจจับและทำลายในเวลาที่เหมาะสม แผนกทหารชี้ เที่ยวบินของเครื่องบินรัสเซียดำเนินการด้วยขีปนาวุธแบบแขวนหลายประเภท
บินเจ็ตอเนกประสงค์รัสเซีย Su-35 เป็นเครื่องบินรบที่คล่องตัวเป็นพิเศษที่พัฒนาขึ้นในปี ๒๕๕๑ ปัจจุบันเครื่องบิน Su-35 เป็นหนึ่งในเครื่องบินรบหลักที่ให้บริการกับกองกำลังการบินและอวกาศของสหพันธรัฐรัสเซีย พวกเขามีส่วนร่วมในปฏิบัติการทางทหารพิเศษตั้งแต่เริ่มเปิดฉาก
สำหรับแนวรบในมหาสมุทร สหรัฐฯกำลังถูกท้าทาย รัสเซียมีกองเรือรัสเซียน นอร์ธเทิร์นฟลีต (Russian Northern Fleet) ซึ่งเริ่มต้นจากการเป็นกองเรือที่ค่อนข้างเล็กคอยซึ่งปกป้องพรมแดนอาร์กติกของประเทศ แต่วันนี้ได้เติบโตเป็นกองทัพเรือที่ทรงพลังจนน่าเกรงขาม
เมื่อวันที่ ๑ มิถุนายนที่ผ่านมา ถือเป็นวันครบรอบการก่อตั้ง Russian Northern Fleet กองเรือก่อตั้งในปี ๑๗๓๓ และเริ่มเป็นพัฒนามีฝูงบินรบเพื่อปกป้องดินแดนทางตอนเหนือของสหภาพโซเวียตทั้ง เส้นทางการค้าทางทะเล และการประมงในทะเลขาว
ความสำคัญของกองเรือฝ่ายเหนือเริ่มชัดเจนยิ่งขึ้นในศตวรรษที่ ๑๙ ด้วยการพัฒนาเครื่องจักรไอน้ำและการแข่งขันที่เพิ่มขึ้นในหมู่มหาอำนาจในยุคนั้นสำหรับภูมิภาคอาร์กติก ในช่วงเวลานั้น รัฐบาลโซเวียตตระหนักดีถึงความสำคัญของพรมแดนทางเหนือ และจัดตั้งกองเรือทางเหนือพร้อมเรือลาดตระเวน เรือดำน้ำชั้น D และเรือพิฆาต
ในไม่ช้ากองเรือนอร์ธเทิร์น ฟลอติลลา (Northern Flotilla ก็เปลี่ยนชื่อเป็น Northern Fleet และมีบทบาทสำคัญในสงครามโลกครั้งที่สอง ตัวอย่างเช่น เรือดำน้ำ K-21 ภายใต้การบังคับบัญชาของ Nikolay Lunin สามารถสร้างความเสียหายให้กับเรือประจัญบานชั้น Bismarck ของกองทัพลัทธิทหารสุดโต่งเยอรมนี ชื่อเตอร์ปิตซ์(Tirpitz)ซึ่งถือเป็น “มงกุฎเพชร” ของกองทัพเรือจอมฟาสซิสต์
หลังจากกลุ่มลัทธิทหารสุดโต่งพ่ายแพ้ในปี ๒๔๘๘/๑๙๔๕ กะลาสีเรือ ๘๕ นายของ Northern Fleet ได้รับรางวัลวีรบุรุษแห่งสหภาพโซเวียต ซึ่งเป็นเกียรติยศสูงสุดของสหภาพโซเวียต นับจากนั้นเป็นต้นมา กองเรือทางเหนือของรัสเซียได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว
ด้านอเมริกาเพิ่งขยับหลังจากที่เชื่อมั่นว่า กลุ่มแองโกลแซกซอนมหาอำนาจเดี่ยวเท่านั้นที่มีอิทธิพลเหนือมหาสมุทรทั่วโลก
แอนโทนี บลิงเคน (Antony Blinken) รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวใน การประชุม NATOในกรุงออสโลว่าเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า สหรัฐฯ พยายามที่จะทำงานร่วมกับ “พันธมิตรที่มีแนวคิดเดียวกัน” ในการพัฒนาวิสัยทัศน์ของ “อาร์กติกที่สงบสุข มั่นคง มั่งคั่ง และร่วมมือกัน”
บลิงเคนประกาศว่า สหรัฐฯจะเปิดสำนักงานทางการทูตแห่งแรกทางตอนเหนือของเส้นอาร์คติกเซอร์เคิลในนอร์เวย์ อ้างความสนใจใหม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สิ่งอำนวยความสะดวกทางการทูตของสหรัฐฯ จะตั้งอยู่เหนือสุดในโลกที่เมืองทรอมโซ ซึ่งเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดในแลปแลนด์ของนอร์เวย์
ปากก็อ้างสนใจปัญหาสภาพภูมิอากาศ แต่การประกาศมีขึ้นหลังการเยือนของ USS Gerald Ford ซึ่งเป็นเรือรบที่ใหญ่ที่สุดในโลกที่ออสโล ในการแสดงอำนาจของนาโต้อย่างเห็นได้ชัด เรือพลังงานนิวเคลียร์ความยาว ๓๓๗ เมตรแล่นเข้าสู่เมืองหลวงของนอร์เวย์ ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังอาร์กติกเพื่อฝึกซ้อมทางทหาร นับเป็นการเทียบท่าครั้งแรกโดยเรือบรรทุกเครื่องบินสหรัฐในนอร์เวย์ในรอบ ๖๕ ปี ในระหว่างการเยือน ความสัมพันธ์ทางทหารที่แน่นแฟ้นระหว่างสองประเทศถูกเน้นย้ำ สหรัฐฯ ยังอวยนอร์เวย์อย่างสูงในฐานะพันธมิตรนาโต้ที่ซื่อสัตย์
ในปี ๒๐๑๙ เพนตากอนได้กำหนดให้อาร์กติกเป็นเส้นทางเดินเรือที่มีศักยภาพสำหรับการแข่งขันเชิงกลยุทธ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับรัสเซียและจีน พันธมิตรยุโรปรายสำคัญของวอชิงตันในภูมิภาคนี้คือนอร์เวย์และเดนมาร์ก ผ่านดินแดนอันห่างไกลอย่างเกาะแฟโรและกรีนแลนด์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดินแดนเดนมาร์ก ได้ให้ความสำคัญกับอาร์กติกมากขึ้นเช่นกัน สัญญาณแบบนี้หมายถึงแนวรบอาร์ติกถูกกระตุ้นให้ระอุและจะตึงเครียดมากขึ้น เมื่อจุดวาบไฟในยุโรปและเอเชียแปซิฟิคระเบิดออกด้วยฝีมือวอชิงตัน!!